บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง ทาน โยเกิร์ต เวลาไหนดีที่สุดกันนะคะ โยเกิร์ต เป็นผลิตภัณฑ์จากนมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อระบบย่อยอาหาร การรับประทานโยเกิร์ตใน ช่วงเวลาที่เหมาะสม จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหาร และส่งเสริมสุขภาพลำไส้ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ พร้อมแล้วตามมาดูกันเลยค่ะว่า ทาน โยเกิร์ต เวลาไหนถึงจะดีที่สุดนะคะ

 

ทาน โยเกิร์ต เวลาไหนดีที่สุด

 

 

“โยเกิร์ต” ควรกินตอนเช้า หรือตอนเย็น ? เวลาที่ดีที่สุดในการทานโยเกิร์ต คือช่วงเช้าตอนท้องว่าง เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายพร้อมจะดูดซึมสารอาหารจากโยเกิร์ตได้อย่างเต็มที่ โยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ (โปรไบโอติก) ซึ่งช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ

 

ประโยชน์ของการทานโยเกิร์ตในเวลาที่เหมาะสม

 

 

การทานโยเกิร์ตในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากคุณสมบัติทางโภชนาการที่โดดเด่นของโยเกิร์ต

– รักษาจุลินทรีย์ในลำไส้
การศึกษาพบว่าควรทานโยเกิร์ตตอนเช้าท้องว่าง เพราะโปรไบโอติกหรือแบคทีเรียที่ดีในโยเกิร์ตจะเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ในสภาพที่มีชีวิตอยู่

– อุดมไปด้วยวิตามิน
การทานโยเกิร์ตช่วยให้ได้รับอาหารที่มีประโยชน์สูงในด้านโปรตีน แคลเซียม วิตามินบี และฟอสฟอรัส

– ลดการอักเสบ
มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการทานโยเกิร์ตในตอนเช้าช่วยลดการอักเสบ

– ปรับปรุงระบบย่อยอาหาร
โยเกิร์ตช่วยปรับปรุงระบบย่อยอาหารและรักษาสุขภาพลำไส้ตลอดทั้งวัน

– ป้องกันโรคเรื้อรัง
โยเกิร์ตช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน โรคโครห์น โรคอุจจาระร่วง และโรคทางเดินอาหารอื่นๆ

 

สรุปก็คือเวลาที่ดีที่สุดในการทานโยเกิร์ตเพื่อลดน้ำหนักคือ ตอนท้องว่างเพราะจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน โยเกิร์ตยังสามารถนำไปผสมกับอาหารอื่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการได้อีกด้วย เช่น การทานโยเกิร์ตพร้อมกับธัญพืช ผลไม้ และอัลมอนด์เป็นมื้อเช้าที่สมบูรณ์แบบเลยล่ะค่ะ

 

 

และเมื่อทานโยเกิร์ตตอนท้องว่าง กรดในกระเพาะอาหารจะเจือจางลง ทำให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์ในโยเกิร์ตสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วยนะคะ