Spotify ปรับเงื่อนไขการจ่าย Royalty ต้องถูกสตรีมอย่างน้อย 1,000 ครั้งต่อหนึ่งปีจึงจะเริ่มจ่ายเงิน

Spotify ได้มีการประกาศเพื่อปรับปรุงเงื่อนไขการจ่ายเงินส่วนแบ่งให้กับศิลปินและค่ายเพลง (Royalty) ซึ่งในรายละเอียดต่างๆนั้น ดูจะเป็นการแก้ไขปัญหาช่องโหว่ของระบบที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ โดย Spotify บอกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มี 3 ประเด็นหลักได้แก่

1. การเล่นเพลงปลอมเพื่อกินส่วนแบ่ง

สำหรับปัญหาแรก ที่มีการปั๊มยอดสตรีมเพื่อกินส่วนแบ่งรายได้ ใช้วิธีใส่เพลงสั้น เล่นเพลงให้ครบจำนวนเงื่อนไข แล้วได้เงินส่วนแบ่งจาก Spotify โดยหากระบบตรวจพบจะหักเงินส่วนนี้ออกจากค่ายเพลง หรือผู้เผยแพร่เพลง เพื่อให้เงินกองกลางที่ Spotify เตรียมไว้ ถูกจ่ายไปยังศิลปินที่มียอดฟังจริง ๆนั่นเองค่ะ

2. เพลงที่มียอดฟังไม่สูง ส่วนแบ่งน้อย และอาจไม่ถึงศิลปิน

ปัญหาถัดมา ก็คือเงินส่วนแบ่งที่ต่ำเกินไป Spotify ชี้แจงว่าคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มที่มีในแพลตฟอร์มกว่า 100 ล้านรายการนั้น หลายสิบล้านคอนเทนต์ถูกฟังจำนวน 1-1,000 ครั้งภายในหนึ่งปีเท่านั้น ทำให้ได้ส่วนแบ่งเฉลี่ยที่ประมาณ 0.03 ดอลลาร์ต่อเดือน ขณะที่เงื่อนไขการถอนเงินออกมาของค่ายเพลงคือ 2-50 ดอลลาร์ต่อครั้ง ไม่รวมค่าธรรมเนียม ทำให้รายการยิบย่อยนี้มักไม่ถูกถอนเงินออกมารวมแล้วกว่า 40 ล้านดอลลาร์ หนทางแก้ไขคือ Spotify จะใส่เงื่อนไขว่าเพลงที่ได้เงินรอยัลตี้ ต้องถูกสตรีมอย่างน้อย 1,000 ครั้ง ในระยะเวลา 12 เดือน ทำให้เพลงที่ควรได้เงินได้เงินมากขึ้น ขณะที่รายการเล็กก็จะไม่มีเงินคงค้างที่ไม่ถูกเบิกออกมานั่นเองค่ะ

3. ปัญหาคอนเทนต์ White Noise

สุดท้าย คือปัญหาคอนเทนต์ White Noise ซึ่งมักอยู่ในรูปพอดแคสต์เล่นเสียงคลื่นความถี่คงที่ สามารถเปิดฟังทิ้งไว้ยาว ๆ ได้ โดย Spotify จะปรับเงื่อนไขเฉพาะคอนเทนต์เสียงแบบนี้ จากปกติการสตรีมอย่างต่ำ 30 วินาที จะเริ่มนับ และจ่ายเงินรอยัลตี้ เป็น 2 นาทีอย่างน้อย หมวดของคอนเทนต์ต้องใส่ไว้ด้วยว่าเป็น White Noise, Nature Sounds, Machine Noise, Sound Effect, ASMR ที่ไม่มีเสียงพูด หรือ Silence Recording เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับคอนเทนต์ หรือเพลงอื่นในแพลตฟอร์ม นั่นเองค่ะ

 

โดยการปรับเงื่อนไขของ Spotify ทั้งหมดนี้ จะเริ่มมีผลตั้งแต่ต้นปี 2024 เป็นต้นไป

 

ที่มา: Spotify