บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง OpenAI เปิดตัว GPT-5.1 ชูความฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และ เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น กันนะคะ โดย OpenAI ได้ประกาศเปิดตัว GPT-5.1 ซึ่งเป็นการอัปเกรดโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ครั้งสำคัญ โดยการอัปเดตครั้งนี้ (ซึ่งเริ่มปล่อยให้ผู้ใช้แล้ว) มุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความคิดเห็นของผู้ใช้ ที่ต้องการ AI ซึ่งไม่เพียงแต่ “ฉลาด” แต่ยัง “น่าพูดคุยด้วย” (Enjoyable to interact with) อีกด้วยนะคะ พร้อมแล้วตามมาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
OpenAI เปิดตัว GPT-5.1 ชูความฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และ เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

สำหรับไฮไลท์ของการอัปเกรดครั้งนี้ก็คือ การแบ่งโมเดลออกเป็น 2 รุ่นใหม่ที่ชัดเจนขึ้น คือ ได้แก่
1. GPT-5.1 Instant (สำหรับคนทั่วไป)
นี่คือโมเดลที่คนส่วนใหญ่จะได้ใช้ ถูกปรับแต่งให้มี “ความอบอุ่น” (Warmer) และ “เป็นธรรมชาติ” (Conversational) ยิ่งขึ้น ความสามารถใหม่ที่น่าทึ่งคือ “Adaptive reasoning” นี่เป็นครั้งแรกที่โมเดลนี้สามารถ “ประเมินความซับซ้อน” ของคำถาม และตัดสินใจได้เองว่าควร “คิดให้ลึกขึ้น” (Deeper processing) หรือไม่ก่อนตอบ ผลลัพธ์คือ มันทำคะแนนการใช้เหตุผลที่ซับซ้อน (เช่น คณิตศาสตร์ AIME 2025 และการเขียนโค้ด Codeforces) ได้ดีขึ้นมาก และยัง “เก่งขึ้น” ในการทำตาม “คำสั่งเฉพาะ” (Custom instructions) ที่ผู้ใช้ตั้งค่าไว้

2. GPT-5.1 Thinking (สำหรับงานโหด)
นี่คือโมเดลขั้นสูงที่ถูกอัปเกรดโดยเน้น “ประสิทธิภาพ” และ “ความชัดเจน” โมเดลนี้จะใช้ “Dynamic processing” หรือการ “ปรับเวลาคิดตามความยากง่าย” ของคำถาม พูดง่ายๆ คือ งานง่ายจะ “ตอบเร็วขึ้น 2 เท่า” (เพราะคิดน้อยลง) แต่ งานยาก จะ “ใช้เวลาคิดมากขึ้น” เพื่อให้ได้คำตอบที่ลึกซึ้งและละเอียดถี่ถ้วน OpenAI ยังระบุด้วยว่า คำตอบของรุ่นนี้จะ “ชัดเจนขึ้น” และ “ใช้ศัพท์เทคนิคน้อยลง” (Less jargon) ทำให้คนทั่วไปเข้าใจง่ายขึ้น การปรับแต่งและกำหนดการปล่อย
นอกจากการอัปเกรดโมเดล OpenAI ยังเพิ่มตัวเลือก “บุคลิก” (Personality) ใหม่ ให้ผู้ใช้เลือกได้ เช่น Professional (มืออาชีพ), Candid (ตรงไปตรงมา), หรือ Quirky (สร้างสรรค์) บริษัทยังประกาศ “การทดลอง” (Experiment) ที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้ปรับแต่งลักษณะเฉพาะ (เช่น ความกระชับ หรือความถี่ในการใช้อีโมจิ) ได้โดยตรงจากการตั้งค่าส่วนบุคคล การอัปเกรดนี้จะเริ่ม 13 พ.ย. 2568 สำหรับ “ผู้ใช้แบบชำระเงิน” (Pro, Plus, Go, Business) ก่อนจะขยายไปยังผู้ใช้ฟรี ส่วนผู้ใช้ระดับองค์กร (Enterprise และ Education) จะได้ “สิทธิ์ทดลองใช้ก่อน” (Early-access toggle) เป็นเวลา 7 วัน ส่วน API สำหรับนักพัฒนา จะตามมาในปลายสัปดาห์นี้นะคะ
ที่มา: OpenAI

