บทความนี้จะมำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง IF แบบไหนให้ได้ผล by หมอเจด กันนะคะ ขอบคุณที่มาของบทความจาก นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “หมอเจด” ระบุว่า IF สูตรหมอเจด ทำตามนี้ให้หายไป 30 โล พร้อมแล้วตามมาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ

 

IF แบบไหนให้ได้ผล by หมอเจด

 

 

 

การทำ IF ก็คือการอดอาหารเป็นช่วงๆ โดยจะมีช่วงที่กินและช่วงที่อด เช่น การทำ IF 18/6 หมายความว่า จะมีช่วงที่กินอยู่ 6 ชั่วโมง และมีช่วงที่อด 18 ชั่วโมง ช่วงที่อด ร่างกายจะเอาไขมันเก่ามาใช้ รวมถึงอินซูลินก็ได้พัก ทำให้น้ำหนักลดลง เบาหวานก็หายนั่นเองค่ะ

 

  1. เลือกกินคาร์โบไฮเดรตให้เป็น

ต้องเลือกกินคาร์บที่ดี ถ้ากินคาร์บเชิงเดี่ยว เช่น พวกขนมปังขาว ข้าวขาว เส้นต่างๅ พวกนี้จะดูดซึมเร็ว ทำให้เราหิวไวขึ้น แถมยังทำให้น้ำตาลพุ่งด้วย เพราะฉะนั้นแนะนำให้เลือกเป็นคาร์บเชิงซ้อน เช่น พวกข้าวกล้อง ธัญพืช พวกนี้จะทำให้ เราหิวช้า น้ำตาลไม่พุ่งด้วยนะคะ

 

  1. ลดน้ำตาล และกินหวานให้อยู่ในมื้อ

อันนี้น่าจะยากสำหรับหลายๆ คนนะคะ ต้องใจแข็งอย่างเดียวเลยค่ะ ถ้าจะกินหวานควรเลือกกินเป็นผลไม้ (เป็นแบบหวานน้อย พร้อมกินเปลือกด้วย) รวมถึงกินพร้อมมื้ออาหารไปเลย เพราะการกินตอนท้องว่างจะทำให้น้ำตาลสูงปรี๊ด น้ำหนักก็จะขึ้นด้วยนะคะ

 

  1. เน้นโปรตีน

การกินโปรตีนนอกจากจะเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ยังช่วยให้เราอิ่มนานอีกด้วยนะคะ ซึ่งปริมาณโปรตีนควรได้รับต่อวันจะอยู่ที่ 1 กิโลกรัม/น้ำหนักตัว อย่างเช่นน้ำหนัก 65 ก็ต้องได้รับ โปรตีน 65 กรัมต่อวันค่ะ

 

  1. เพิ่มไขมันดี

หลายคนได้ยินคำว่าไขมัน ก็รู้สึกกลัว อันที่จริงมันจะไม่น่ากลัว ถ้าเราเลือกกินเป็น ช่วงลดน้ำหนักก็ยังกินไขมันได้อยู่ค่ะ

 

  1. ไม่กินจุกจิกระหว่างมื้อ

อย่างที่บอกไปว่าการทำ IF เป็นช่วงเวลา ระหว่างมื้อ ควรทานเป็นน้ำเปล่า หรือไม่ก็กาแฟดำ หรือชาที่ไม่ใส่นมไม่ใส่น้ำตาล ถ้าเรากินจุกจิกกินทั้งวัน จะทำให้เราระดับน้ำตาลที่สูง ก็จะทำให้อ้วน รวมถึงอินซูลินก็จะทำงานหนัก และเมื่อหนักมากๆ ก็จะเป็นเบาหวานได้นะคะ

 

  1. ไม่เครียด

ถ้าเราเครียด ฮอร์โมนคอติซอลจะหลั่ง เราก็จะหิวบ่อยและกินมากยิ่งขึ้น การทำ IF ควรพยายามหาวิธีปรับให้เหมาะกับตัวเองที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่เครียด และทำต่อได้ยาวๆ นั่นเองค่ะ ที่สำคัญก็คือ ต้องเข้าใจนะคะว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลาค่ะ ต้องใจเย็นๆและให้เวลากับตัวเองเยอะๆ ยิ่งเรากดดันตัวเอง ทุกครั้งที่ชั่งน้ำหนัก แล้วมันไม่เป็นไปตามที่เราคิดไว้ ก็จะเครียด กดดัน และทำให้ล้มเลิกได้ง่ายนั่นเองค่ะ