บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง ‘ยาถ่ายพยาธิ’ จำเป็นแค่ไหน ? กันนะคะ สำหรับ เรื่องอาหารการกินนี่ต้องบอกเลยนะคะว่า เป็นเรื่องที่สำคัญมากกับสุขภาพ “กินเป็น” ก็จะส่งผลให้มีสุขภาพดี แต่ถ้า “กินไม่เป็น” ก็หมาย ความว่า อาจจะกินไม่ถูกสุขลักษณะ ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นเดียวกันค่ะ และสำหรับปัญหาของอาหารการกิน ที่ใกล้ตัวเลยก็คือ ปัญหา “พยาธิ” ซึ่งพบได้ทั้งสิ่งแวดล้อม ผัก ผลไม้ น้ำที่เรารับประทานทุกวันนะคะ เพราะฉะนั้นแล้วของกินทุกอย่างต้องมีวิธีทำให้ถูกสุขลักษณะก่อนรับประทานด้วยนะคะ
ซึ่งเรื่องนี้ นายรัชชผดุง ดำรงพิงคสกุล รักษาการผู้อำนวยการสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข บอกว่า ปัจจุบันพยาธิที่มากับอาหาร และน้ำดื่ม อาหารที่มีความเสี่ยงที่จะเจอพยาธินั้นมีอยู่หลากหลายชนิดมากค่ะ ส่วนใหญ่คืออาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ลาบลู่หมูดิบ จะมีพยาธิตัวตืด ก้อยปลาดิบจะมีพยาธิใบไม้ในตับ เป็นต้นค่ะ
พยาธิ คือ ปรสิตชนิดหนึ่งที่สามารถอาศัยอยู่ภายในร่างกายของคน และคอยแย่งสารอาหารที่คนรับประทานเข้าไป จนทำให้ผู้ติดเชื้อได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ส่งผลเสียต่อร่างกายได้ แล้วเราควรจะถ่ายพยาธิเมื่อไหร่ จำเป็นหรือไม่ พร้อมแล้วตามมาดูกันเลยค่ะว่า ‘ยาถ่ายพยาธิ’ จำเป็นแค่ไหน ? กันนะคะ
‘ยาถ่ายพยาธิ’ จำเป็นแค่ไหน ?
การถ่ายพยาธิไม่จำเป็นต้องทำบ่อย ควรถ่ายพยาธิเฉพาะกรณีที่สงสัยว่าตนเองอาจเกิดโรค หรือมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อพยาธิ เช่น อยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือมีพฤติกรรมเสี่ยง อาการผิดปกติที่พบเมื่อมีพยาธิในร่างกาย เช่น
1. พยาธิที่อยู่ในทางเดินอาหาร อาจทำให้มีอาการหิวบ่อย น้ำหนักลด ซีด ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย คันบริเวณทวารหนัก
2. พยาธิที่ไชอยู่ใต้ผิวหนัง จะทำให้เกิดผื่นคันหรือมีก้อนบวมแดงที่ย้ายที่ไปเรื่อย ๆ
3. พยาธิใบไม้ในตับ ทำให้มีอาการปวดท้องใต้ชายโครงขวา ตาเหลืองตัวเหลือง
4. พยาธิใบไม้ในปอด ทำให้มีอาการเจ็บแน่นหน้าอก ไอเป็นเลือดได้
5. พยาธิที่ไชไปที่กล้ามเนื้อ ทำให้มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
6. พยาธิไชไปที่สมอง จะทำให้ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ตาพร่ามัว ชัก ได้
การถ่ายพยาธิทำได้ง่าย ๆ ด้วยการรับประทานยาถ่ายพยาธิ ซึ่งมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติและข้อกำจัดไม่เหมือนกัน
ข้อควรระวังการใช้ยาถ่ายพยาธิ
– ไม่ควรใช้ยาถ่ายพยาธิเป็นประจำทุกปีเพียงเพราะมีรูปร่างผอม เนื่องจากความผอมอาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ
– ควรจะหาโอกาสปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อหาสาเหตุให้แน่ชัดดีกว่าการซื้อยาถ่ายพยาธิมารับประทานเอง อีกทั้งช่วยลดความเสี่ยงในการแพ้ยา การเกิดผลข้างเคียงต่างๆและผลต่อตับจากยา
– ถ้าต้องรับประทานยาควรอ่านฉลากและเอกสารกำกับยาก่อนรับประทานยาทุกครั้ง และปฏิบัติตามอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันควรดูแลสุขอนามัยอยู่เสมอด้วยการ
– รักษาความสะอาด เช่น อาบน้ำทุกวัน
– หมั่นล้างมือและทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้
– หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกับผู้อื่น
– หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ
– เก็บอาหารไม่ให้สกปรก หลีกเลี่ยงไม่ให้มีแมลงและสัตว์อื่นๆ มากินได้
– ขับถ่ายในห้องน้ำที่สะอาดถูกสุขลักษณะ
– หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับพื้นดินโดยตรง เช่น การเดินด้วยเท้าเปล่า