บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง บีทรูท ซุปเปอร์ผักสีสดเพื่อสุขภาพประโยชน์เหลือล้นกันนะคะ บีทรูท มีถิ่นกำเนิดในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ส่วนในประเทศไทยมักจะปลูกกันที่ภาคเหนือเพราะเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น หัวบีทรูทเป็นรากที่สะสมอาหารอยู่ใต้ดิน มีลักษณะเป็นทรงกลมป้อม เส้นผ่าศูนย์กลางราว 3-4 เซนติเมตร เนื้อภายในอวบน้ำ มีสีม่วงแดง และสีเหลือง มีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว นิยมนำมากินสด ดอง ประกอบอาหารได้ทั้งคาวหวาน และเครื่องดื่ม ยังถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่หลากหลายอีกด้วย บีทรูทได้ชื่อว่าเป็นผักเพื่อสุขภาพอันดับต้นๆ เลยทีเดียว เพราะมีสารอาหารสำคัญหลายชนิดในปริมาณสูง พร้อมแล้วตามมาดูกันค่ะว่า บีทรูทมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้างนะคะ

 

บีทรูท ซุปเปอร์ผักสีสดเพื่อสุขภาพประโยชน์เหลือล้น

 

 

1. เป็นแหล่งรวมสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี

เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินซี เส้นใยอาหาร และยังมีธาตุเหล็ก แมงกานีส โพแทสเซียม โฟเลต นอกจากนี้ยังมีสารสีแดงเรียกว่า บีทานิน เป็นกรดอะมิโนซึ่งมีส่วนช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็ง ลดการเติบโตของเนื้องอก สารแอนโทไซยานิน เป็นสารสีม่วงแดง ลดสารก่อมะเร็งและช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและอัมพาต และยังมีไลโคพีน สารต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศอีกด้วย

2. มีสรรพคุณที่อาจช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

เนื่องจากบีทรูทมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงหลายชนิด จึงช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ภายในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก และเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ ได้

3. มีส่วนช่วยบำรุงสายตา

บีทรูทเป็นแหล่งของวิตามินเอ เบต้าแคโรทีน และสารสำคัญหลายชนิดที่จะช่วยบำรุงสายตา พร้อมกับป้องกันดวงตาไม่ให้เสื่อมเร็วและทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับดวงตาน้อยลง

4. มีส่วนช่วยลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด

สารไนไตรท์ในบีทรูทมีสรรพคุณช่วยขยายหลอดเลือดอย่างอ่อนๆ ทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกขึ้น ช่วยลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

5. มีส่วนช่วยลดไขมันในตับและล้างสารพิษออกจากร่างกาย

สารบีทานินมีสรรพคุณที่อาจช่วยป้องกันหรือลดการสะสมไขมันในตับ ป้องกันตับจากสารพิษ ช่วยเสริมสร้างการทำงานของตับ เส้นใยอาหารในบีทรูทช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายเป็นปกติ และยังช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญในร่างกายได้

6. ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและทนทานให้แก่ร่างกาย

เสริมสมรรถภาพทางร่างกายโดยเฉพาะในระหว่างการออกกำลัง บีทรูทมีสารไนไตรท์ค่อนข้างสูง จะส่งผลช่วยให้นักกีฬาประเภทที่ต้องใช้ความอดทนและเวลานานในการเล่น เช่น วิ่งระยะไกล หรือปั่นจักรยาน มีความอึด อดทน และความแข็งแกร่งมากขึ้น

7. ช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น

อีกทั้งยังช่วยบำรุงเลือด ลดความดันของเลือดลงได้ สารไนไตรท์จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้ส่งไปเลี้ยงที่สมองได้ดีอีกด้วย และยังช่วยแก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ และดีสำหรับสุภาพสตรีที่หมดประจำเดือนแล้ว เพราะบีทรูทนั้นอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก

8. ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

สารต้านอนุมูลอิสระและโฟเลตจะช่วยต่อต้านริ้วรอยก่อนวัย และปัญหาผิวพรรณอื่นๆ ช่วยบรรเทาอาการสิวอักเสบ สิวอุดตัน ทำหน้าที่ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่

9. ช่วยปรับสภาวะทางอารมณ์และจิตใจ

สารบีทานินและทริปโตเฟนในบีทรูท มีส่วนช่วยในการผ่อนคลายความเครียด และทำให้จิตใจสงบ

10. ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กระดูก

เนื่องจากในบีทรูทมีซิลิกาจึงทำให้ร่างกายใช้แคลเซียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีสารอาหารที่ดีต่างๆ มีส่วนสำคัญต่อการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ได้แก่ วิตามินซี โฟเลต และทองแดง เป็นต้น

 

คำแนะนำในการบริโภคบีทรูท

 

 

1. ควรเลือกซื้อหัวบีทรูทที่มีขนาดเล็ก จะให้รสหวานมากกว่าหัวบีทรูทขนาดใหญ่ เลือกที่ผิวไม่เหี่ยว เนื้อไม่นิ่ม ถ้าใบติดอยู่ด้วยให้เลือกหัวที่ใบยังสดอยู่ การจัดเก็บให้นำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วเก็บในถุงตาข่าย แช่ในตู้เย็นตรงช่องเก็บผัก จะเก็บไว้ได้นานประมาณ 2 สัปดาห์

2. การกินอาหารที่ทำมาจากบีทรูทมากเกินไป แล้วขับถ่ายออกมามีสีแดงปนเปื้อนนั้นไม่ใช่เลือด แต่เป็นเพราะร่างกายขับสารสีแดงจากบีทรูทออกมา อาการแบบนี้เรียกว่าบีทูเรีย

3. ผู้ที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะบริโภคบีทรูท โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับไตหรือระดับแคลเซียมในร่างกาย ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ หญิงที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ผู้ที่มีอาการแพ้ เช่น เป็นผื่น ท้องเสีย