บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับ เครื่องดื่ม 5 ชนิด ห้ามใส่ลงในแก้วเก็บอุณหภูมิเด็ดขาดกันนะคะ เตือนแล้วนะคะ หากไม่อยากกินยาพิษ ห้ามใส่เครื่องดื่ม 5 ชนิด ลงในแก้วเก็บอุณหภูมิ เพราะเปรียบเหมือนดื่ม “ยาพิษ” ไม่รู้ตัวนั่นเองค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น พร้อมแล้วตามมาดูกันเลยค่ะ
เครื่องดื่ม 5 ชนิด ห้ามใส่ลงในแก้วเก็บอุณหภูมิเด็ดขาด
1. นม
นมเป็นแหล่งโภชนาการที่ดี แต่เมื่อใส่มันลงในแก้วเก็บความร้อนสามารถกลายเป็น “สภาพแวดล้อมในอุดมคติ” สำหรับการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะเมื่อนมถูกทิ้งไว้ในแก้วเป็นเวลานาน โครงสร้างของโปรตีนในนมจะถูกทำลายทำให้คุณค่าทางโภชนาการลดลง ดังนั้น จึงเป็นการดีที่สุดที่จะไม่ใช้แก้วเก็บความร้อนในการเก็บนม หากใช้ก็ควรดื่มภายในหนึ่งชั่วโมงเพื่อความปลอดภัย
2. ยาสมุนไพร
ยาสมุนไพร หรือยาจีนแผนโบราณ มีองค์ประกอบที่ซับซ้อนซึ่งมีทั้งสารที่เป็นกรดและด่าง ในขณะที่แก้วเก็บความร้อนมักทำจากสแตนเลสผสมกับโลหะผสม เช่น แมงกานีส นิกเกิล และโครเมียม เพื่อเพิ่มความทนทานและต้านทานการกัดกร่อน ซึ่งอัลคาไลในยาแผนจีนสามารถทำปฏิกิริยากับโลหะ ทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง และยังก่อให้เกิดสารที่เป็นอันตรายอีกด้วย นอกจากนี้ ยาแผนจีนยังเสียหายได้ง่ายที่อุณหภูมิสูง ส่งผลให้ประสิทธิภาพของส่วนผสมยาลดลง ดังนั้นควรเลือกขวดแก้วหรือเซรามิกเพื่อถนอมสรรพคุณของยา
3. เครื่องดื่มที่เป็นกรด
ไม่แนะนำให้ใส่น้ำผลไม้ โซดา หรือเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรดอื่นๆ ในแก้วเก็บอุณหภูมิ เนื่องจากกรดในเครื่องดื่มสามารถกัดกร่อนสแตนเลสภายในขวด ทำให้เยื่อบุเสียหาย และปล่อยโลหะหนัก ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ การสัมผัสกับกรดเป็นเวลานานยังอาจลดประสิทธิภาพของแก้วเก็บอุณหภูมิ จึงควรเก็บเครื่องดื่มที่เป็นกรดไว้ในขวดแก้วหรือขวดแก้วเซรามิกจะดีกว่า
4. ชา (โดยเฉพาะชาที่เข้มข้น)
ชาที่แช่ไว้ในกระติกน้ำร้อนนานเกินไปยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องและอาหารไม่ย่อยได้เนื่องจากมีกรดแทนนิกเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การใช้กระติกน้ำร้อนในการชงชาเป็นเวลานานยังอาจทิ้งคราบบนหม้อที่ขจัดออกได้ยากทำให้สูญเสียความสวยงามและสุขอนามัย
5. น้ำเกลือ
น้ำเกลือสามารถกัดกร่อนส่วนประกอบภายในแก้วเก็บอุณหภูมิได้หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน ในขณะที่แก้วเก็บอุณหภูมิมักมีสารปกป้องชั้นโลหะภายใน ซึ่งเมื่อสัมผัสกับน้ำเกลือเป็นเวลานานๆ สามารถลดความสามารถในการเป็นฉนวนของแก้วได้ ขณะเดียวกันก็ปล่อยโลหะหนักออกจากชั้นสแตนเลส ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อีกด้วย