ปัจจุบันนี้ มีแอพพลิเคชั่นจำนวนมาก ให้เราได้เลือกดาวน์โหลดมาใช้งานกันนะคะ ทั้งใน App Store สำหรับ ระบบปฏิบัติการ IOS และ Google Play สำหรับระบบปฏิบัติการ Android นั่นเองค่ะ ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ในApp Store หรือ Google Play ได้นั้นปกติก็จะผ่านการตรวจสอบแล้วว่าไม่มีปัญหา แต่ว่าในหลายๆ ครั้งก็ยังมีปัญหาเกิดขึ้นอยู่บ้างนะคะ อาจจะเนื่องมาจากการความผิดพลาดของการตรวจสอบโดยระบบ หรืออาจจะเจอแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อซ้ำกัน หรือคล้ายกันได้บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนะคะ สำหรับแอพพลิเคชั่นดังๆนั้น มักจะมีคนทำแอพพลิเคชั่นที่คล้ายๆกันมา จุดประสงค์เพื่อหวังยอดดาวน์โหลดแบบเนียนๆนั่นเองค่ะ ดังนั้นบทความนี้จึงจะมานำเสนอ เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยทำให้เราดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ต้องการได้ถูกต้อง ไม่ผิดเป้าหมายมาฝากกันค่ะ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

สิ่งที่ควรทำก่อนกดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นทุกครั้ง

1. ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น จากเจ้าของระบบเท่านั้น

แหล่งดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการของ iOS คือ App Store ส่วน Android จะเป็น Google Play เท่านั้นนะคะ เราควรดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจาก 2 แหล่งนี้เท่านั้นค่ะ การติดตั้งแอพพลิเคชั่นจากแหล่งอื่นๆ จะด้วยวิธีการไหนก็ตาม หมายถึง ความเสี่ยงที่เราต้องแลกมา อาจจะได้ไฟล์แอพพลิเคชั่นปลอมมา หรือไฟล์แอพพลิเคชั่นของจริง แต่มีการแก้ไขแอบใส่โทรจันซ่อนเอาไว้ก็เป็นได้นะคะ

2. ดูคะแนนรีวิว

การเข้าไปอ่านรีวิวของแอพพลิเคชั่น ก็จัดเป็นอีกหนึ่งในวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้เราตรวจสอบได้ว่า แอพพลิเคชั่นนี้เป็นของจริงหรือเปล่าค่ะ เพราะหากเป็นแอพพลิเคชั่นปลอม มักจะมีคนเข้าไปทิ้งคอมเมนท์ไว้เพียบเลยค่ะ

3. อ่านคำอธิบายแอพพลิเคชั่น

สามารถสังเกตได้จาก สำนวนแปลกๆ หรือ การสะกดคำผิดๆ เป็นสัญญาณที่ไม่ดีสักเท่าไหร่เลยนะคะ จากแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาโดยทีมงานที่มีคุณภาพ บริษัทส่วนใหญ่ที่ทำแอพพลิเคชั่นนั้น จะมีทีม Copywriters คอยตรวจภาษา และคำผิดอยู่แล้วค่ะ เป็นการยากมาก ที่จะปล่อยให้มีข้อผิดพลาดด้านภาษาเกิดขึ้น กับคำอธิบายแอพพลิเคชั่นที่ถูกปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ตาม แอพพลิเคชั่นที่ถูกพัฒนาโดยทีมเล็กๆ อาจจะไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องนี้มากนักก็ได้นะคะ มันอาจจะอธิบายมาแบบสั้นมากๆ หรือมีคำผิด ก็ลองใช้จุดสังเกตข้ออื่นมาพิจารณาร่วมด้วยนะคะเพื่อป้องกันความผิดพลาดค่ะ

4. ดูชื่อผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น

เวลาเราจะดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นด้วยการพิมพ์ชื่อค้นหาแล้วนั้น เรามักจะพบว่ามีแอพพลิเคชั่นชื่อคล้ายๆ กันโผล่มาหล่ยตัวเลยนะคะ ซึ่งการจะหาว่าแอพพลิเคชั่นไหน คือ แอพพลิเคชั่นที่เราต้องการ ก็อาจจะมีความสับสนกันบ้างอย่างแน่นอน ซึ่งการเข้าไปดูชื่อผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นก่อน ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้เรารู้ได้ว่า นี่เป็นแอพพลิเคชั่นจริง จากผู้พัฒนาแน่ๆ วิธีนี้ใช้ได้ดีกับแอพพลิเคชั่นยอดนิยมเลยนะคะ

5. กดเข้าไปดูเว็บไซต์ของผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น

หากเราเจอแอพพลิเคชั้นที่น่าสนใจ แต่มาจากผู้พัฒนาที่เราไม่รู้จัก ให้ลองเอาชื่อผู้พัฒนาไปหาข้อมูลจาก Google ดูก่อนนะคะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเจอรายละเอียดอยู่แล้วค่ะ หรือกดตรงลิงค์เว็บไซต์ผู้พัฒนาที่อยู่ใน App Store/Google Play โดยตรงเลยก็ได้ค่ะ

6. ภาพสกรีนช็อตที่คมชัด

แอพพลิเคชั่นปลอมส่วนใหญ่นั้น มักจะเอารูปที่ขโมยมาจากแหล่งต่างๆ มาใช้ในแอพพลิเคชั่นด้วยตนเองนั่นเองค่ะ แต่แฮกเกอร์บางคนก็ทออกำมาอย่างดีมากเลยนะคะ ภาพเนียนกริ๊บแทบจะดูไม่ออกเลยก็มีค่ะ คุณภาพของภาพประกอบในแอพพลิเคชั่นปลอม มักจะไม่มีความคมชัดเท่าไหร่นะคะ ซึ่งจะแตกต่างจากแอพพลิเคชั่นแท้ๆ ที่ส่วนใหญ่จะพยายามทำให้ภาพคมชัด สวยงามที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยค่ะ ดังนั้นหากแอพพลิเคชั่นไหน ภาพดูเบลอๆ พิกเซลไม่ละเอียด ให้สงสัยมันไว้ก่อนเลยว่าอาจจะปลอมได้ค่ะ

7. ดูยอดการดาวน์โหลด

จำนวนครั้งที่ดาวน์โหลดก็เป็นตัวเลขสำคัญทีเดียวนะคะ ที่บ่งบอกได้ถึงความน่าเชื่อถือ ระหว่างแอพพลิเคชั่นที่มียอดดาวน์โหลดสูงถึง 1,000,000 ครั้งกับ 100 ครั้ง คุณจะเลือกเชื่อใจแอพพลิเคชั่นไหนดีล่ะค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ใช้ได้แค่บน Android หรือใน Google Play เท่านั้นนะคะ เนื่องจากทางฝั่ง IOS หรือ Apple Store นั้น ปฏิเสธที่จะแสดงยอดดาวน์โหลดนั่นเองค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับเทคนิคทั้ง 7 ข้อที่นำมาแนะนำในบทความนี้ ลองทำตามดูก่อนจะตัดสินใจดาวน์โหลดแอพพลิเคชันต่างๆมาใช้ก็ไม่เสียหายนะคะ จะได้ใช้งานแอพพลิเคชันตัวจริง ไม่ต้องมาเสี่ยงกับการเจอแอพพลิเคชันปลอมๆกันด้วยค่ะ