บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับ สาเหตุที่ทำให้เน็ตบ้านช้าระดับ อ่อนแรงจนไม่สามารถใช้งานได้มาฝากกันค่ะ จะมีสาเหตุจากอะไรกันบ้างนั้น พร้อมแล้วตามมาดูกันเลยค่ะ
สาเหตุทำสัญญาณเน็ตบ้านอ่อนแรง ทำงานได้ไม่ราบรื่น
1. อุปกรณ์ของคุณไม่เคยปิดพักการใช้งานเลย
สิ่งแรกที่ควรพิจารณาก็คือ อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือ Router ทั้งหลายนั้นไม่เคยปิดพักหรือ Restart หรือไม่ เหตุผลที่ต้อง Restart คือการรับส่งข้อมูลก็จะมีความจำแบบแคช หรือ Cache Memory นั่นเอง การสั่ง Restart ก็จะช่วยให้เครื่องได้เริ่มใหม่ ก็ทำให้ลบขยะเหล่านี้ออกไปได้ส่งผลให้เครื่องสามารถทำงานได้เร็วขึ้น
2. มาตรฐานของ Router ที่ไม่พอดีกับอุปกรณ์ที่ใช้งาน
หากทำการ Restart แล้วก็ยังพบว่าความเร็วไม่ได้ดีขึ้น อีกเรื่องที่ต้องพิจารณาก็คือ Router หรืออุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตว่า เป็นรุ่นเก่าไปหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น Notebook ของคุณเพิ่งซื้อมาในปี 2022 ที่รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6 หรือ 6E แต่ Router กลับรองรับแค่ Wi-Fi 5 หรือต่ำกว่านี้ ก็อาจจะส่งผลให้ได้รับความเร็วที่ช้ากว่าที่ควร ทั้งนี้ไม่ได้ช้าระดับทำงานไม่ได้นะคะ แต่คือช้ากว่าที่ควรจะเป็นนั่นเองค่ะ
อย่างไรก็ตาม Router ที่ผู้ให้บริการให้มานั้น เป็นรุ่นมาตรฐาน จะเหมาะกับการใช้งานพื้นฐานเช่น การดูหนังความละเอียด 4K, ทำงานทั่วไปและ Streaming เกมได้ประมาณหนึ่ง ถ้าเกิดมีการใช้งานที่หนักกว่านี้อาจจะต้องลองเปลี่ยนอุปกรณ์ และสมัคร Package ในแบบที่สามารถติดตั้งอุปกรณ์ได้เอง หรือ BYOC
3. ใช้งานที่อยู่ในจุดอับสัญญาณ
เมื่อคุณติดอินเทอร์เน็ตในบ้าน อาจจะคำนึงถึงเรื่องการเดินสัญญาณหลักจนเวลาเดินไปรอบบ้านแล้วพบว่าความเร็วไม่เท่ากัน นั่นเป็นเพราะสัญญาณของอุปกรณ์ที่ส่งไปนั้นอาจจะไม่ถึง หรือบางทีบ้านของคุณมีจุดอับสัญญาณนั่นเองค่ะ แนะนำโปรแกรมตรวจสอบ เช่น Wi-Fi Analyzer นะคะ และถ้าคุณพบว่าเจอจุดอับสัญญาณแล้วอยากจะแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ก็จะมี 3 วิธีเลือกดังนี้
1. ใช้ระบบ Repeater ข้อดีคือ ถูก และสามารถหาซื้อได้ง่าย ใช้ติดตั้งได้ง่าย แต่สิ่งที่เป็นข้อเสียคือ มันช้ากว่าเทคโนโลยีที่จะเล่าต่อไปนี้
2. นำ MESH Wi-Fi มาใช้งาน ข้อดีคือไม่ต้องเดินสาย แถมง่ายต่อการตั้งค่าย แต่ราคาจะสูงสักหน่อย หรือ บางทีติดต่อผู้ให้บริการสามารถเลือกบริการ MESH Wi-Fi ได้ แต่ก็มีผลเสียคือ มันไม่ได้ทำให้อินเทอร์เน็ตไวขึ้น ทั้งนี้ผู้ให้บริการแทบจะทุกเจ้า มีบริการ MESH Wi-Fi ให้อยู่แล้ว สามารถขอเป็นบริการเสริมเพื่อลดจุดอับสัญญาณได้
3. เดินสาย LAN ไปที่จุดที่ไม่ถึง วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตเท่ากันทุกชั้น และตัวบ้านก็พร้อมให้เดินสายเพิ่มหรือเจาะจากชั้น 2 ลงมาชั้น 1 หรือขึ้นไปชั้น 3 เป็นต้น วิธีนี้คือได้ความเร็วสูงเลย แต่ว่าข้อเสียคือถ้าวัดไม่ดีความสวยงามของบ้านก็จะลดลงไปนั่นเอง
4. เลือก Package ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน
เรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญคือ Package ที่คุณเลือกเหมาะสมกับการใช้งานในบ้านคุณหรือไม่ เช่นถ้าคุณมีคนเล่นเกมอยู่บ้าน 1 คนแต่เลือก Package ธรรมดา อาจจะต้องพิจารณาเลือก Package สำหรับคนเล่นเกม ที่จะแยกอุปกรณ์และช่องสัญญาณออกจากกันเพื่อให้เกิดการความราบรื่น มากขึ้น
5. พื้นที่ติดตั้งของคุณ
สุดท้ายคือเรื่องพื้นที่ติดตั้งของผู้ให้บริการที่คุณเลือกอยู่ จริงอยู่ถ้าคุณเลือกติดตั้งแล้วแต่ว่าช่วงแรกๆ อาจจะได้ความเร็วสูง เช่นเทคโนโลยี VDSL ที่ใช้ตามสายโทรศัพท์ แต่ทุกวันนี้มีการเดินทางผ่านไฟเบอร์นำแสงหรือ Fiber ที่ได้ความเร็วสูงกว่า แต่พื้นที่บ้านของคุณอาจจะไม่ได้รองรับ หรืออาจจะรับแต่ความเร็วไม่สูง
วิธีการนี้อาจจะต้องแก้ด้วยการถามผู้ให้บริการรายอื่นๆ ว่าในพื้นที่ของคุณนั้นเขารองรับและให้ความเร็วสูงกว่าหรือไม่ แต่หากไม่มีเลย คำตอบสุดท้ายคือลองติดอินเทอร์เน็ตในรูปแบบเครือข่ายมือถือแทนเน็ตบ้านค่ะ ส่วนกลุ่มคนที่อยู่คอนโด ให้สอบถามนิติบุคคลว่า สายอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นแบบไหนและเก่าเกินไปหรือไม่ หากเก่าเกินไปอาจจะได้ความเร็วที่ไม่สูงมากนัก