บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง สัญญาณเตือน “เบรกเฟด” (Brake Fade) อันตรายถึงชีวิตกันนะคะ โดยปกติแล้วเวลาขับรถที่มุ่งหน้าไปยังจุดหมาย ระหว่างการเดินทางก็ต้องมีเร่ง และ เบรกบ้างเป็นเรื่องปกตินะคะ แต่ถ้าอยู่ดีๆ จำเป็นต้องเบรกแต่รถเบรกช้าลงจนอันตราย นั่นคืออาการ “เบรกเฟด” (Brake Fade) แล้วนะคะ บอกเลยว่าอันตรายมากนะคะ พร้อมแล้วตามมาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ

 

สัญญาณเตือน “เบรกเฟด” (Brake Fade) อันตรายถึงชีวิต

 

 

“เบรกเฟด” (Brake Fade) คืออะไร ?

อาการ เบรกเฟด คือ ภาวะที่ระบบเบรกสูญเสียประสิทธิภาพในการหยุดรถ เกิดจาก “ความร้อนสะสมที่สูงเกินไป” ในระบบเบรก หรือในระบบเบรกเกิดความเสียหายนั่นเองค่ะ สังเกตได้ง่ายๆ เมื่อคุณเหยียบเบรก ผ้าเบรกจะไปเสียดสีกับจานเบรกเพื่อสร้างแรงเสียดทาน และชะลอรถ แต่เมื่อการเสียดสีนั้นเกิดขึ้นซ้ำๆ หรือรุนแรงต่อเนื่อง (เช่น การขับรถลงเขาชันยาวๆ หรือการเบรกหนักๆ ในสนามแข่ง) ความร้อนจะสะสมจนเกินขีดจำกัด ที่ระบบเบรกจะรับไหว ทำให้ประสิทธิภาพการเบรกลดลงอย่างรวดเร็ว

 

โดยทั่วไป เบรกเฟดแบ่งได้ 2 สาเหตุหลัก

1. เฟดจากผ้าเบรก (Pad Fade)

เกิดจากความร้อนสูงจนทำให้วัสดุในผ้าเบรกเสื่อมสภาพชั่วขณะ หรือเกิดเป็นฟิล์มก๊าซบางๆ เคลือบระหว่างผ้าเบรกกับจานเบรก ทำให้ความฝืด (สัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน) ลดลง

2. เฟดจากน้ำมันเบรก (Fluid Fade)

นี่คืออาการที่อันตรายมาก เกิดจากความร้อนสูงจนทำให้น้ำมันเบรก “เดือด” (Brake fluid boiling) โดยเฉพาะในน้ำมันเบรกเก่าที่ดูดซับความชื้นไว้ เมื่อน้ำมันเบรกเดือด จะกลายสภาพจากของเหลวเป็น “ฟองอากาศ” ในระบบ และเนื่องจากอากาศสามารถบีบอัดตัวได้ เมื่อคุณเหยียบเบรก แรงดันที่ส่งไปจึงไปบีบอัดฟองอากาศแทนที่จะไปดันลูกสูบเบรก ผลคือ เบรกจม หรือ เบรกหาย

 

สัญญาณเตือน อาการเบรกเฟด

 

 

 

เบรกเฟดนั้นเช็คได้ไม่ยากแต่ต้องสังเกตโดยมีวิธีดังนี้

– กดแป้นเบรคแล้วรถหยุดช้าลง

– กดแป้นเบรคแล้วจมลึกแต่รถไม่หยุด

– เบรกแล้วมีอาการยวบๆ ไม่สู้เท้า

– เบรกแล้วแข็งแต่รถไม่หยุด หรือได้กลิ่นไหมเวลาเบรก

เบรกเฟดอันตรายแค่ไหน ต้องบอกว่าอันตรายมากเลยนะคะ เพราะการที่รถเกิดเบรกเฟด เท่ากับคุณจะไม่สามารถหยุดรถได้ ซึ่งอาจจะทำให้รถพุ่งลงข้างทาง, ชนรถข้างหน้า และรวมถึงตกเหวเวลาลงเขาก็ได้เช่นกัน

 

วิธีแก้ปัญหา เบรคเฟต

– หากคุณกำลังขุบรถลงเข้าขับรถลงเขา ให้ใช้เกียร์ต่ำ (เช่น D2, L, หรือใช้ Paddle Shift ลดเกียร์) เพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยหน่วงความเร็วรถแทนการ “เหยียบเบรกแช่” หรือ “เลียเบรก” ตลอดทาง

– หากคุณขับทางปกติ ให้เข้าเกียร์ว่าง หรือเกียร์ N แล้วขอเข้าข้างทาง พยายามให้เกิดเหตุให้น้อยที่สุด

– ใช้เบรคมือ โดยค่อยๆ กดให้ระบนั้นค่อยๆ หยุดรถเอง หากเป็นเบรกมือไฟฟ้ากดแล้วค่อยๆ ประคองรถเข้าข้างทาง

– รอจนกว่าเบรคเย็นแล้วค่อนยเดินทางต่อ แต่ถ้ารถมีเครื่องหมายเบรกสีแดงออก แม้ว่าจะปลดเบรกมือแล้ว ให้โทรหาช่างหรือศูนย์บริการเพื่อนำรถเข้ามาแก้ไข วิธีป้องกันและดูแล

– เช็คและเลปี่ยนน้ำมเบรก เพราะ น้ำมันเบรกมีคุณสมบัติดูดความชื้น (Hygroscopic) ยิ่งเก่ายิ่งมีน้ำปนเปื้อน ทำให้จุดเดือดต่ำลง ควรเปลี่ยนทุก 1-2 ปี หรือตามคู่มือกำหนด

– ตรวจสอบผ้าเบรคกว่าอยู่ในสภาพปกติหรือไม่

– ใช้เกรดผ้าเบรกที่เหมาะสมกับงานเช่นถ้าคุณต้องใช้เบรกบ่อยๆ แนะนำว่าหผ้าเบรกที่ทนความร้อน อย่าเน้นของถูกจนทำให้มีปัญหา

จะเห็นได้ว่าระบบเบรกนั้นสำคัญมากเลยนะคะ เพราะฉะนั้นแล้วควรต้องหมั่นตรวจเช็คตลอดเพราะมันเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุบนท้องถนนที่หลายคนไม่อยากให้เกิดนั่นเองค่ะ