สาเหตุที่ทำให้ iPhone เครื่องร้อนขึ้นนั้น มีอยู่หลายสาเหตุเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการวาง iPhone ไว้ในที่อุณหูภูมิสูง เช่น วางไว้กลางแจ้ง ตากแดด วางไว้ในรถยนต์ที่จอดตากแดดอยู่ มีอุณหภูมิสูงมาก ๆ หรือเครื่องร้อนที่เกิดจาก การใช้งานบางแอปที่หนักเกินไป ใช้งานขณะชาร์จ ใช้งานขณะที่อุณหภูมิรอบตัวสูง หรือแม้กระทั่งการทำงานที่ผิดพลาดของแอป หรือซอฟต์แวร์ก็อาจจะทำให้เครื่องร้อนได้เช่นกัน

 

 

 

สัญญาณเตือนหลายอย่างสามารถบอกได้ว่า เครื่อง IPhone นั้นร้อนเกินไปแล้วได้แก่ การสัมผัสความร้อนจากตัวเครื่องโดยตรง หน้าจอมืด เครื่องกระตุก เครื่องทำงานช้าลง ชาร์จไม่เข้า หรือแฟลชสำหรับการถ่ายรูปไม่ทำงาน เป็นต้นนะคะ และแน่นอนว่าความร้อนนั้น จะส่งผลเสียต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายใน โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่อาจจะเสื่อมเร็วขึ้นได้นะคะ อุปกรณ์ภายในก็อาจจะเสียหายได้เช่นกัน ดังนั้นบทความนี้ จึงมีวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้น เมื่อพบว่า iPhone เครื่องร้อน มาแนะนำกันนะคะ จะต้องทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูพร้อมกันได้เลยค่ะ

 

14 วิธี ช่วยแก้ปัญหา iPhone เครื่องร้อน ปกป้องเครื่องให้ใช้งานได้นานขึ้น

 

1. ไม่นำเครื่องไปวางในสถานที่ร้อน หรือตากแดด ต้องนำเครื่องออกจากที่ร้อนทันที

 

ถ้าหากเราวาง iPhone หรือใช้งานในที่ร้อนจัด มีอุณหภูมิสูง เช่น ใช้งานกลางแจ้งในตอนกลางวันที่ร้อนจัด หรือวาง iPhone ตากแดด เก็บ iPhone ไว้ในรถยนต์ ก็จะส่งผลให้ iPhone เครื่องร้อนเร็ว ดังนั้นเราควรจะย้าย iPhone ไปอยู่ในที่ที่เย็นขึ้น ไม่ควรวาง iPhone ไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น วางไว้ใต้หมอน วางไว้ในผ้าห่ม ก็อาจจะส่งผลให้การถ่ายเทความร้อนไม่ดี ทำให้เครื่องร้อนขึ้นได้เช่นกันนะคะ ดังนั้น เราควรวาง iPhone ไว้ในที่โล่ง ห่างจากอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดความร้อน เช่น หลีกเลี่ยงการวางใกล้พัดลมระบายความร้อนของคอมพิวเตอร์ หรือวางใกล้กับคอมเพรสเซอร์แอร์ เป็นต้นนะคะ

 

อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ iPhone จะอยู่ที่ประมาณ 16 ถึง 22 °C หรือจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 0-35 °C นะคะ

 

2. ถอดเคสออก และให้ความเย็น

หลังจากที่เราย้าย iPhone ไปอยู่ในที่เย็นขึ้นแล้ว แนะนำให้ถอดเคสออก เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น และอาจจะใช้พัดลมเย็นช่วยเป่าเครื่อง ให้ระบายความร้อนออกให้เร็วขึ้นด้วยค่ะ

 

3. ไม่ควรชาร์จแบตขณะที่เครื่องร้อน

ในขณะที่ iPhone ยังร้อนอยู่ ไม่ควรชาร์จแบตนะคะ เนื่องจากการชาร์จนั้นจะเพิ่มอุณหภูมิเครื่องให้สูง และร้อนขึ้น แต่ถ้าหากเรานำเครื่องไปชาร์จ แล้วรู้สึกว่าเครื่องร้อนผิดปกติ แนะนำว่าให้ถอดปลั๊กออกก่อน แล้วพักเครื่องจนกว่าจะเย็นลงดีกว่านะคะ

 

4. ออกจากแอปทั้งหมด

ถ้าหากเปิดใช้งานแอปหลายตัว และไม่ทราบว่าแอปไหนมีการทำงานเบื้องหลังที่ใช้ทรัพยากรเครื่องเยอะแล้ว หรืออาจจะทำงานผิดพลาด ส่งผลให้เครื่องร้อน ก็สามารถออกจากแอปที่เปิดอยู่ทั้งหมดได้ โดยปัดขีดด้านล่างขึ้น แล้วปัดแอปขึ้นเพื่อออกจากแอปนะคะ

 

5. รีสตาร์ต iPhone ใหม่

แต่ถ้าหากมีแอปที่เราเปิดไว้จำนวนมาก จนเสียเวลาในการออกจากแอปทีละ 2-3 แอป ก็สามารถใช้วิธี รีสตาร์ตเครื่อง iPhone ได้เลยนะคะ เพราะการรีสตาร์ตนั้น จะปิดแอปที่เปิดใช้งานอยู่ทั้งหมด และช่วยรีเซ็ตระบบด้วยนั่นเอวค่ะ ซึ่งบางครั้งการทำงานที่ผิดพลาดของระบบก็อาจทำให้เครื่องร้อนได้เช่นกัน

 

6. ใช้อุปกรณ์ชาร์จของแท้

อะแดปเตอร์ และสายชาร์จราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐาน MFi อาจทำให้การส่งพลังงานไม่เพียงพอ หรือไม่มีประสิทธิภาพได้เช่นกันนะคะ ซึ่งจะส่งผลให้ iPhone ทำงานหนักเกินไป หากทำการชาร์จแล้วรู้สึกว่าเครื่องร้อน ก็อาจจะต้องพักเครื่องไว้สักครู่จนเย็นลงก่อน แล้วลองใช้อุปกรณ์ชาร์จของ Apple หรืออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน MFi ชาร์จ iPhone ต่อค่ะ

 

7. เปิดใช้งาน Airplane Mode

บางครั้งการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ iPhone เกิดความร้อนสูงได้เช่นกันค่ะ อาจจะลองเปิดโหมดเครื่องบิน (Airplane Mode)  เพื่อหยุดการเชื่อมต่อต่าง ๆ ไว้สักครู่ แล้วเช็คดูว่าเครื่องเย็นลงหรือไม่นะคะ

 

8. ปิด Background App Refresh

หากเปิดการทำงานเบื้องหลัง (Background App Refresh) จะส่งผลให้แอปที่เราไม่ได้ใช้งานยังคงทำงานอยู่นะคะ โดยแอปยังคงรีเฟรช และดึงข้อมูลใหม่ ๆ มาอยู่เสมอ แน่นอนว่าอาจจะส่งผลให้ iPhone ทำงานหนัก หากมีการทำงานหลายแอปมากเกินไป ดังนั้นบางแอปที่ไม่จำเป็น ก็สามารถปิดการทำงานเบื้องหลังได้เลยค่ะ เพื่อช่วยลดการทำงาน รวมถึงประหยัดแบตเตอรี่ขึ้นด้วยนะคะ

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ดีงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง (Background App Refresh) > ปิดด การดึงข้อมูลจากแอปเบื้องหลังบางแอปที่ไม่ได้ใช้

 

หรือจะตั้งค่ากับแอปทั้งหมดก็ได้ โดยแตะที่ ดึงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง (Background App Refresh) แล้วเลือกปิด

 

9. อัปเดตซอฟต์แวร์ และแอปให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด

บางครั้งความร้อน ก็อาจจะเกิดการทำงานผิดพลาดภายในระบบที่เราไม่ทราบนะคะ ดังนั้นเมื่อมีการปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ iOS เวอร์ชันใหม่ จึงควรจะอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอนะคะ เนื่องจากการปล่อยอัปเดตใหม่นั้น ส่วนใหญ่ก็จะมาพร้อมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพ และแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบนั่นเองค่ะ

 

10. ไม่ใช้งานแอปที่ทำงานหนักเกินไป

หากรู้สึกว่าเครื่องร้อนขึ้น เมื่อใช้งานบางแอป หรือเล่นเกมบางเกม เช่น แอปถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ แต่งรูป ตัดต่อวิดีโอ หรือเกม 3D ต่าง ๆ ก็ควรจะต้องหยุดการทำงานไปก่อน โดยเฉพาะเวลาที่เราใช้งานแอป ที่ต้องใช้การประมวลผลหนัก ๆ ในที่ร้อน เครื่องก็จะร้อนได้ง่ายขึ้นค่ะ ดังนั้นควรจะหยุดการใช้งานแอป หรือเกมเหล่านี้ก่อน และพักเครื่องให้เย็นลง และอาจจะใช้งานในที่ที่ไม่ร้อนเกินไป ก็อาจจะช่วยให้เครื่องไม่ร้อนได้ค่ะ

 

11. เปิดการปรับความสว่างอัตโนมัติ

ถ้าหากปรับความสว่างขอหน้าจอให้สว่างเกินไป ก็อาจจะทำให้เครื่องร้อน รวมถึงแบตเตอรี่หมดไวได้นะคะ ควรเปิดใช้งานการปรับความสว่างอัตโนมัติ (Auto Brightness) เพื่อให้เครื่องปรับความสว่างให้เหมาะสมกับแสงรอบข้างได้จะดีกว่าค่ะ

 

12. เปิดโหมดประหยัดพลังงาน

การเปิดโหมดประหยัดพลังงาน จะสามารถช่วยลดกิจกรรมที่ทำงานอยู่เบื้องหลังชั่วคราวได้ ช่วยลดการทำงานและการใช้ทรัพยากรในเครื่อง ส่งผลให้เครื่องเย็นลงได้ และประหยัดพลังงานแบตเตอรี่อีกด้วยค่ะ

 

13. ตรวจสอบดูแอปที่ล่ม หรือทำงานหนัก

บางแอปอาจจะทำงานผิดพลาดจนเกิดปัญหาทำให้ iPhone ร้อนเกินไปได้ และแอปหยุดทำงาน เราสามารถตรวจสอบแอปที่หยุดทำงานได้เอง เมื่อพบว่าแอปไหนที่หยุดทำงานบ่อย อาจจะต้องอัปเดตแอปให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด หรือหยุดใช้งานแอปนั้นไปก่อนนะคะ

ไปที่ การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย > การวิเคราะห์และการปรับปรุง  > ข้อมูลการวิเคราะห์ > ดูข้อมูลการหยุดทำงานของแอปได้เลย

 

14. รีสโตร์ iPhone

หากลองทำตามวิธีด้านบนหมดแล้ว ยังคงรู้สึกว่าเครื่องร้อนมากผิดปกติ แนะนำว่าให้ทำการรีสโตร์เครื่องให้กลับไปเป็นการตั้งค่าแบบโรงงานดูนะคะ ซึ่งการรีสโตร์นี้จะลบแอปและข้อมูลทั้งหมดเลยนะคะ ดังนั้นจึงต้องสำรองข้อมูลให้เรียบร้อย ก่อนทำการรีสโตร์ค่ะ โดยเชื่อมต่อ iPhone กับคอมพิวเตอร์ เปิด Finder หรือ iTunes > เลือก กู้คืน iPhone (Restore iPhone)

 

คลิก กู้คืน (Restore)

หรือหากมีแอปเสริม เช่น FoneGeek, 3UTools ก็สามารถทำการรีสโตร์ผ่านแอปได้เช่นกันค่ะ

 

และสุดท้าย หากลองทำทุกวิธีทั้งหมดแล้ว iPhone ของยังคงร้อนผิดปกติอยู่ เป็นไปได้ว่าปัญหาอาจจะเกิดปัญหาจากฮาร์ดแวร์นั่นเองค่ะ แนะนำให้ปรึกษาฝ่ายสนับสนุนของ Apple โดยอาจจะติดต่อผ่านแอป Apple Support หรือนำเครื่องไปตรวจเช็คที่ร้าน Apple Store หรือผู้ให้บริการ iCare ทั่วประเทศเลยนะคะ

ที่มา : businessinsider