บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง ต้นเหตุฝุ่น PM2.5 คืออะไร ทำไมมาซ้ำทุกปี แก้ปัญหาไม่ได้เลยกันนะคะ ในวันนี้รู้ไหมคะว่าในหลายพื้นที่ของประเทศไทยมีความเข้มข้นเฉลี่ยของฝุ่น PM2.5 สูงกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดแล้วนะคะ และปริมาณฝุ่นเหล่านี้ก็มีความสัมพันธ์กับอาการกำเริบของโรคเรื้อรัง หรือเฉียบพลันหลายชนิด เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของคนไทยอีกด้วยนะคะ ผู้ที่ได้รับผลกระทบกว่าใครก็คือกลุ่มเด็กเล็ก และผู้ป่วยนั่นเองค่ะ

 

 

 

 

เนื่องจากฝุ่น PM2.5 นั้นมีขนาดเล็กเกินกว่าระบบป้องกันของทางเดินหายใจส่วนบนของร่างกายจะดักจับได้ จึงสามารถผ่านไปจนถึงถุงลมที่อยู่ลึกเข้าไปในปอด และก่อให้เกิดปัญหากับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งขนาดที่เล็กมากทำให้ฝุ่นสามารถผ่านจากถุงลมไปยังกระแสเลือดได้โดยตรง ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อปอด หัวใจและหลอดเลือดนั่นเองค่ะ และนอกจากนี้การได้รับฝุ่น PM2.5 อย่างต่อเนื่องยังมีความสัมพันธ์กับอายุขัยเฉลี่ยที่ลดลงของประชากร และมีผลต่อน้ำหนักของทารกแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์อีกด้วยนะคะ

 

 

ต้นเหตุฝุ่น PM2.5 คืออะไร ทำไมมาซ้ำทุกปี แก้ปัญหาไม่ได้เลย

 

 

โดยทั่วไปความผันแปรของระดับ PM2.5 สัมพันธ์กับระดับของการพัฒนาเมือง การพัฒนาอุตสาหกรรม การขนส่ง และการเกษตรที่มีการเผาชีวมวล ตลอดจนปฏิกิริยาเคมีในชั้นบรรยากาศภายใต้สภาวะอุตุนิยมวิทยาบางประการ ดังนั้นถ้าจะแบ่งต้นกำเนิดของฝุ่น PM2.5 อาจทำได้ดังนี้ค่ะ

 

1. การจราจรและขนส่ง เป็นแหล่งกำเนิดใหญ่ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพ และเมืองใหญ่ที่มีการจราจรหนาแน่น

 

 

 

2. การเผาในที่โล่ง

 

 

ได้แก่ การเผาไร่ การเผาวัสดุทางการเกษตร ซึ่งรวมไปถึงการเผาไหม้ทางการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษข้ามแดน

 

3. ภาคประชาชน กิจกรรมการเผาในชีวิตประจำวันบางประเภท

ไม่ว่าจะเป็น สูบบุหรี่ ปิ้งย่าง โดยเฉพาะในเมืองที่มีประชากรหนาแน่น กิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีส่วนทั้งสิ้น

 

4. ภาคอุตสาหกรรม

 

 

ในความเป็นจริงโรงงานต่างๆ จะต้องมีระบบบำบัดมลพิษทางอากาศ ก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก อย่างไรก็ตามก็ยังมีหลายที่ ๆ ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมลภาวะทางอากาศ

 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดการสะสมฝุ่น PM2.5 ได้แก่

 

1. สภาพภูมิอากาศ ในฤดูหนาวที่อากาศปิด ชั้นความเย็นถูกกักอยู่ภายใต้ชั้นความร้อน จึงกักฝุ่นไม่ให้ลอยสูง และกระจายตัว

2. สภาพภูมิประเทศ เช่น พื้นที่แอ่งกระทะจะไม่เอื้อต่อการเจือจางมลพิษ

3. ปริมาณพื้นที่สีเขียว การพัฒนาทางเศรษฐกิจอาจก่อให้เกิดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งผลต่อสภาพอากาศ รวมไปถึงการก่อสร้างอาคาร และตึกสูงที่เข้ามาแทนพื้นที่สีเขียว ต่างก็มีส่วนในการปิดกั้นอากาศไม่ให้ระบาย ก่อให้เกิดการสะสมของฝุ่น

 

ดังนั้นจะเห็นได้ว่านอกจากกระบวนการทางธรรมชาติ และกิจกรรมการเผาของมนุษย์ที่มีส่วนเพิ่มระดับการสะสมของฝุ่น PM2.5 แล้วนั้น พฤติกรรมที่เชื่อมโยงโดยตรงกับการสัมผัสมลพิษทางอากาศ ก็ส่งผลทางด้านสุขภาพด้วยอีกด้วย เช่น การใช้หน้ากากผิดประเภท การออกกำลังกายหรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่ค่าฝุ่น PM2.5 มีปริมาณสูง ก็จะเพิ่มโอกาสในการสัมผัสกับมลพิษทางอากาศมากขึ้นด้วยค่ะ

เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 นั้นไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่งเลยนะคะ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน มาเรียนรู้ เข้าใจ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อรักษาอากาศดีให้เป็นสมบัติของเราทุกคน หวังเป็นอย่างยิ่งเลยนะคะ ว่าเราคนไทยทุกคนจะมีโอกาสได้สูดอากาศบริสุทธิ์ปราศจาก PM 2.5 ในเร็ววันนะคะ แต่หากยังต้องอยู่ในสภาวะแบบปัจจุบันนี้ ก็หวังให้ทุกคนดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพกันดีดีด้วยนะคะ

 

5 วิธีป้องกันตนเองจากฝุ่น pm 2.5

 

 

การป้องกันฝุ่น PM 2.5 เป็นสิ่งสำคัญเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐานนะคะ มาดูกันค่ะว่า เราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร

1. สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น 
หน้ากาก N95 หรือ KN95 มีความสามารถในการกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ดี ควรสวมใส่เมื่อต้องออกจากบ้านในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูง

2. หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน 
หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้านโดยเฉพาะในวันที่ค่าฝุ่นสูง ตรวจสอบคุณภาพอากาศผ่านแอปหรือเว็บไซต์ที่แสดงดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI)

3. ใช้เครื่องฟอกอากาศ 
การใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นขนาดเล็กจะช่วยลดปริมาณฝุ่นภายในบ้าน ทำให้อากาศสะอาดขึ้น

4. ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด 
ป้องกันฝุ่นจากภายนอกเข้ามาภายในบ้าน โดยการปิดประตู หน้าต่าง หรือใช้ผ้าปิดรูระบายอากาศที่อาจมีฝุ่นเข้าได้

5. ล้างหน้า หรือทำความสะอาดตัวหลังออกข้างนอก 
เมื่อกลับจากนอกบ้าน ควรล้างหน้า ล้างมือ และเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลดการสะสมฝุ่นบนร่างกาย

การดูแลตัวเอง และการป้องกันฝุ่น PM 2.5 จะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากมลพิษทางอากาศและช่วยดูแลสุขภาพในระยะยาวด้วยนะคะ