บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง 10 อันดับไม้ดอกคลุมดินขนาดเล็ก ปลูกง่าย โตไว ทนแดด ใช้แทนหญ้าได้กันนะคะ ประโยชน์ของต้นไม้คลุมดิน ไม่ใช่แค่ช่วยชะลอการชะล้างหน้าดินเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดินเมื่อมีการไถกลบ ป้องกันการเจริญเติบโตของวัชพืช ชะลอการไหลของน้ำ ทำให้น้ำซึมลงดินมากขึ้น พร้อมทั้งยังรักษาให้ดินชุ่มชื้น ที่สำคัญรากของไม้คลุมดินยังช่วยให้ดินมีช่องอากาศมากขึ้น ทำให้ดินโปร่งระบายน้ำได้ดีอีกด้วยนะคะ พร้อมแล้วตามมาดูกันเลยค่ะว่า 10 อันดับไม้ดอกคลุมดินขนาดเล็ก ปลูกง่าย โตไว ทนแดด ใช้แทนหญ้าได้ จะมีต้นอะไรกันบ้างนะคะ

 

10 อันดับไม้ดอกคลุมดินขนาดเล็ก ปลูกง่าย โตไว ทนแดด ใช้แทนหญ้าได้

 

 

1. พรมญี่ปุ่น

พรมญี่ปุ่นหรือพรมกำมะหยี่ (Carpet Plant, Episcia, Frame Violet) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Episcia cupreata (Hook.) Hanst เป็นไม้ล้มลุกที่เลื้อยได้ไกลและมีอายุหลายปี ลำต้นอวบน้ำและมีขนอ่อน ๆ อยู่ทั่วทั้งต้น ส่วนใบเป็นรูปไข่ มีทั้งสีเขียวอ่อน เขียวเข้ม น้ำตาลแดง ทองแดง เทา หรือสีต่าง ๆ สลับกัน มีดอกออกเป็นช่อหลากสีสัน เช่น ชมพู ส้ม แดง เหลือง โดยพรมญี่ปุ่นเป็นต้นไม้ที่สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการปักชำและเพาะเมล็ด ซึ่งตามปกติแล้วจะชอบดินร่วนปนทรายที่สมบูรณ์ ชอบอากาศชื้น ๆ ชอบแสงแดดอ่อน ๆ และต้องการน้ำพอประมาณ ซึ่งพรมญี่ปุ่นเหมาะที่จะปลูกเป็นพืชคลุมดิน เนื่องจากมีขนาดเล็กและสวย ทว่าพืชชนิดนี้กลับไม่ค่อยทนทานต่อการเหยียบย่ำสักเท่าไร ฉะนั้นจึงเหมาะที่จะปลูกคลุมดินบริเวณข้างทางเดินหรือส่วนที่ปลูกต้นไม้โดยเฉพาะ

 

 

 

2. หลิวไต้หวัน

หลิวไต้หวัน หรือ หลิวไทเป ภาษาอังกฤษคือ Elfin Herb หรือ False Heather มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cuphea hyssopifolia Humb., Bonpl. & Kunth เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ทรงแผ่เตี้ย ลำต้นมีสีน้ำตาล ส่วนใบมีสีเขียวเข้ม เป็นรูปหอก ปลายแหลม โคนมน และเป็นมัน ส่วนดอกจะออกตลอดปีและขึ้นบริเวณปลายกิ่ง ซึ่งมีทั้งสีม่วงสด ชมพู ขาว หรือเหลือง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ โดยขึ้นได้ดีในดินร่วนปนทราย แถมยังเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว ชอบแดดจัด อีกทั้งยังสวยงามและมีความทนทานสูง ผู้คนจึงนิยมนำมาปลูกเป็นไม้คลุมดินแทนหญ้าเพื่อเพิ่มความสวยงามให้แก่สวน

 

 

 

3. แพรเซี่ยงไฮ้

แพรเซียงไฮ้ หรือชื่ออื่นว่า ดอกผักเบี้ย, แดงสวรรค์ และผักเบี้ยฝรั่ง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Moss-rose หรือ Purslane และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Portulaca grandiflora เป็นพืชคลุมดินขนาดเล็ก อายุยืน มีลักษณะลำต้นกลม อวบน้ำ ค่อนข้างเปราะ ส่วนใบเป็นแท่งสีเขียว มีลักษณะกลม ยาว ปลายแหลม ส่วนดอกออกเป็นกระจุกปลายก้าน มีทั้งสีชมพู สีแดง สีส้ม และสีเหลือง ขยายพันธุ์ง่าย ๆ ด้วยการปักกิ่งชำ โดยแพรเซี่ยงไฮ้สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด แถมยังออกดอกสวยงามอยู่เสมอ ฉะนั้นถ้าไม่รู้จะปลูกพืชคลุมดินอะไรดี แพรเซียงไฮ้ก็เป็นตัวเลือกที่เข้าท่าเลยล่ะ

 

 

 

4. บลูฮาวาย

บลูฮาวาย ชื่อภาษาอังกฤษว่า Blue Hawaii โดยมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Otacanthus caeruleus Lindl. เป็นไม้ดอกคลุมดินทรงพุ่มโปร่ง มีอายุประมาณ 4-5 ปี ลำต้นมีเปลือกสีม่วงอมแดง ใบสีเขียวเข้ม มีลักษณะรี ปลายแหลม ส่วนดอกออกเป็นช่อสีม่วงอมน้ำเงินแกมสีขาวตรงกลางดอก แถมยังมีกลิ่นหอม อยู่กับต้นได้ประมาณ 1 สัปดาห์ และออกดอกได้ตลอดทั้งปี ขยายพันธุ์ได้ทั้งการปักชำและเพาะเมล็ด ปลูกเลี้ยงง่าย โดยเฉพาะในดินร่วนซุย ชอบน้ำปานกลาง ที่โล่งแจ้งมีแดดส่องถึงตลอดวัน ดูแลด้วยการหมั่นตัดแต่งทรงพุ่มบ่อย ๆ

 

 

 

5. แววมยุรา

แววมยุราหรือเทอราเนีย (Torania) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Torenia fournieri เป็นไม้ล้มลุกที่มีอายุประมาณ 1 ปี ลำต้นเป็นสันเหลี่ยม ตั้งตรง มีขนปกคลุม มีใบเป็นรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบเว้าคล้ายรูปหัวใจ ออกดอกเป็นช่อขึ้นตามซอกใบและปลายกิ่ง ออกดอกได้ตลอดทั้งปี มีทั้งดอกสีแดง ชมพู ม่วง หรือมีหลายสีในดอกเดียวกัน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดในดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี และควรปลูกในพื้นที่ที่โดนแสงแดดตลอดทั้งวัน

 

 

 

6. ถั่วบราซิล

ถั่วบราซิลหรือถั่วลิสงเถา มีถิ่นกำเนิดมาจากบราซิล ภาษาอังกฤษเรียกว่า pinto peanut มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Arachis pintoi เป็นพืชเลื้อยคลุมดินตระกูลถั่ว ลำต้นเตี้ย สูงเพียงแค่ 5 นิ้ว ออกดอกเป็นสีเหลืองสวยตลอดทั้งปี ส่วนใหญ่นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด อีกทั้งยังปลูกง่ายโตได้ดีและเร็วในดินแทบทุกชนิดและทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะมีน้ำท่วมขังหรืออากาศแห้งแล้งก็ปลูกได้ แถมถั่วบราซิลยังมีความทนต่อการเหยียบย่ำได้ดี จึงนิยมปลูกเป็นพืชคลุมดินแทนหญ้ากันมาก ๆ และนอกจากจะให้ความสวยและปลูกได้ง่ายแล้ว ถั่วบราซิลยังช่วยตรึงไนโตรเจน ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น คงความชุ่มชื้น และป้องกันวัชพืชไปได้ในตัวอีกด้วย

 

 

 

7. โคลงเคลงเลื้อย

โคลงเคลงเลื้อย (Spanish Shawl) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Heterocentron elegans (Schltdl.) เป็นไม้เลื้อยคลุมดินขนาดเล็ก อายุหลายปี มีลำต้น กิ่ง และก้านเป็นสีม่วงแดง มีลักษณะอวบน้ำและมีขน ส่วนใบมีสีเขียวเข้ม ทรงไข่ ขอบเรียบ มีดอกสีม่วงสดหรือม่วงอมชมพูอยู่บริเวณปลายยอด สามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งวิธีเพาะเมล็ด ปักชำ และตอนกิ่ง ชอบดินร่วนเป็นกรดอ่อน ๆ ชุ่มชื้น ปลูกได้ในที่มีแดดเต็มวันหรือครึ่งวัน และรดน้ำปานกลาง

 

 

 

8. บัวดิน

บัวดิน (Rain lily) หรือที่บางคนเรียกว่าบัวสวรรค์หรือบัวจีน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zephyranthes spp. เป็นพืชอีกหนึ่งชนิดที่มีขนาดเล็ก แต่ออกดอกสวยงาม แถมทนทาน เหมาะแก่การปลูกประดับสวนหรือปลูกเป็นพืชคลุมดิน โดยบัวดินเป็นพืชล้มลุก มีหัวอยู่ใต้ดิน ส่วนใบที่โผล่พ้นมาเหนือดินเป็นเส้นแบน ๆ แคบ ๆ คล้ายใบหอม ซึ่งถ้าหากเป็นใบอ่อนจะชูตั้ง แต่ถ้าเป็นใบแก่จะโค้งลง ส่วนดอกออกเป็นช่อ บานในตอนเช้าและหุบตอนค่ำ มีลักษณะเป็นรูปกรวย มีหลายสี เช่น สีขาว สีเหลือง สีชมพู ในส่วนของการปลูกบัวดิน สามารถปลูกได้ด้วยการแบ่งหัวปลูกและเพาะเมล็ด (หัวจะง่ายกว่า) โดยใช้ดินปลูกที่ระบายน้ำได้ดี ไม่มีปัญหาน้ำขัง และควรปลูกในพื้นที่ที่มีแดดจัด เพราะบัวดินเป็นพืชที่ชอบแดด โดยในการปลูกควรระมัดระวังโรครากเน่าที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายในฤดูฝน รวมถึงระวังหนอนผีเสื้อที่อาจจะมากินใบและดอกของบัวดินด้วย

 

 

 

9. กระดุมเงิน

กระดุมเงิน (Plains blackfoot) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Eriocaulon henryanum Ruhle เป็นไม้ล้มลุกประเภทหญ้าที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อน โดยลำต้นมีลักษณะเป็นกอจากเหง้าใต้ดิน ส่วนใบเป็นใบเดี่ยวเรียงยาว ปลายแหลม และมีดอกสีขาวที่ออกเป็นช่ออยู่บริเวณปลายยอด โดยจะออกในช่วงปลายฤดูฝนถึงฤดูหนาว ขยายพันธุ์ได้ด้วยการเพาะเมล็ดหรือแยกกอ ส่วนเรื่องการดูแล กระดุมเงินเป็นพืชที่ชอบพื้นที่ที่มีความชื้นแฉะ โล่งโปร่ง ชุ่มชื้น อีกทั้งยังมีความทนทานสูง จึงไม่จำเป็นต้องดูแลมาก

 

 

 

10. กระดุมทองเลื้อย

กระดุมทองเลื้อยหรือเบญจมาศเครือ (Creeping daisy) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Wedelia trilobata (L.) เป็นพืชในวงศ์ทานตะวัน ที่นอกจากจะสวยงามเหมาะปลูกคลุมดินแทนหญ้าแล้ว กระดุมทองเลื้อยยังสามารถนำมาใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคและใช้เป็นสีย้อมผ้าหรือผสมอาหารได้ด้วย โดยกระดุมทองเลื้อยมีลักษณะลำต้นแผ่ทอดกิ่งราบไปกับพื้น มีใบสีเขียวสด เป็นมัน มีขนหยาบ ปลายแหลม โคนมน ส่วนดอกออกเป็นช่อสีเหลือง ซึ่งการปลูกและดูแลกระดุมทองเลื้อยก็ไม่ยาก เพราะเป็นพืชที่ทนความแล้งได้ดี ชอบดินชุ่ม ชอบพื้นที่โล่ง ชอบแดดตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังเจริญเติบโตได้ดีในดินทุกสภาพ