บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง เปิดสาเหตุน้ำท่วมหนัก หาดใหญ่ ปี 2568 กันนะคะ จากสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ล่าสุด ซึ่งมีฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมหาดใหญ่ 2568 นับเป็นอีกครั้งที่เกิดอุทกภัยหนักและรุนแรงมากที่สุด โดยทางกรมชลประทานระบุว่ามีฝนหนักสุดในรอบ 300 ปี ครอบคลุมแทบทุกพื้นที่ในอำเภอหาดใหญ่ กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างมาก หลายครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน น้ำท่วมบ้านเรือน ถนน และสถานที่สำคัญ พร้อมแล้วตามมาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
เปิดสาเหตุน้ำท่วมหนัก หาดใหญ่ ปี 2568

เนื่องจากพื้นที่ของหาดใหญ่ส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่ราบต่ำ ลักษณะภูมิประเทศคล้ายแอ่งกระทะ โดยมีคลองอู่ตะเภาเป็นคลองสายหลัก ที่รับน้ำจากป่าต้นน้ำของอำเภออื่นๆ ในจังหวัดสงขลา เช่น สะเดา คลองหอยโข่ง นาหม่อม บางกล่ำ อีกทั้งน้ำจากเขาคอหงส์ ก็ต้องไหลผ่านตัวเมืองหาดใหญ่ก่อนไปสู่ทะเลสาบสงขลา สรุปคือหาดใหญ่เป็นพื้นที่แอ่งกระทะที่น้ำจากพื้นที่สูงรอบเมืองไหลมารวมกันได้ง่ายนั่นเองค่ะ
กรมชลประทานเผย หาดใหญ่มีปริมาณฝนตกหนักในรอบ 300 ปี ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสาเหตุน้ำท่วมหนักในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ว่า เกิดจากฝนตกหนัก 24 ชั่วโมง มีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 300 – 500 มิลลิเมตร (มม.) รวมถึงปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักและสายรองก็เพิ่มสูงอย่างรวดเร็วจนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ทั้งนี้ จากที่วัดปริมาณฝนสูงสุดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา วัดได้ 335 มม. ซึ่งเป็นปริมาณฝนตกหนักในรอบ 300 ปี
สำหรับปริมาณฝนสะสม 3 วันย้อนหลัง (19 – 21 พ.ย. 68) วัดได้สูงสุดถึง 630 มม. (มากกว่าครั้งที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ของอำเภอหาดใหญ่ เมื่อปี พ.ศ. 2553 ที่มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 428 มม. น้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน โดยทางด้าน นายสนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ได้เผยถึงสาเหตุที่มีส่วนทำให้เกิดน้ำท่วมหาดใหญ่อย่างหนักในปี 2568 ดังนี้ค่ะ
1. ภูมิประเทศที่ราบต่ำ และระบบระบายน้ำมีจำกัด
หาดใหญ่เป็นพื้นที่ราบลุ่มต่ำ น้ำไหลมารวมกันง่าย แต่ระบายออกสู่ทะเลสาบสงขลายาก แม้จะมีคลองหลักและคลองบรรเทาอุทกภัย ก็ยังรองรับน้ำจำนวนมากได้จำกัด น้ำจากพื้นที่สูงรอบเมืองหาดใหญ่ไหลรวมเข้าสู่ “คลองอู่ตะเภา” ทั้งจากเขาคอหงส์ อำเภอนาหม่อม อำเภอจะนะ และเทือกเขานครศรีธรรมราช ดังนั้นการไหลมารวมของน้ำจากทุกทิศทางนี้ ทำให้หาดใหญ่มีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะช่วงฝนตกหนักหรือเมื่อน้ำทะเลหนุน
2. สภาพอากาศแปรปรวนทำให้ฝนตกหนักมากกว่าปกติ
โดยมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนกดร่องมรสุมที่พัดผ่านภาคกลาง ส่งผลให้ภาคใต้เกิดฝนตกหนักใกล้ชายแดนมาเลเซีย ช่วงนี้ยังอยู่ในภาวะลานิญา ทำให้ความชื้นในอากาศสูงกว่าปกติ ยิ่งเพิ่มความเข้มของฝนตกต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 19–22 พฤศจิกายน 2568 ฝนตกสะสมใน 10 จังหวัดภาคใต้รวมถึง 595 มม. มากกว่าฝนหนักในปี 2543 และ 2553 ที่เคยมีสูงสุด 515 มม. เฉพาะเขาคอหงส์ อ.นาหม่อม วันที่ 22 พฤศจิกายน มีฝนตกสูงถึง 365 มม. น้ำฝนจากทุกพื้นที่ไหลลงสู่ คลองอู่ตะเภา ทำให้ล้นท่วมเมืองหาดใหญ่และพื้นที่รอบๆ
3. ปัญหาเรื่องการเตรียมพร้อมและบริหารจัดการน้ำ
แม้หลายพื้นที่ทราบว่าปีนี้เป็นช่วงลานีญาและอากาศแปรปรวน มีวิกฤตน้ำท่วมหนักทั่วทุกภาคของประเทศ การแจ้งเตือนภัยทำได้ล่วงหน้า 1–2 วันผ่านระบบ Cell Broadcast ทำให้ประชาชนได้รับข่าวสาร แต่การเตรียมการอพยพและจัดการช่วยเหลือในภาวะวิกฤตยังไม่เพียงพอ หลายพื้นที่ในอำเภอหาดใหญ่มีประชาชนเดือดร้อน ติดอยู่บนหลังคาบ้าน ขาดอาหารและน้ำ สะท้อนถึงความล่าช้าและช่องว่างในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
สรุปสาเหตุน้ำท่วมที่อำเภอหาดใหญ่ 2568 เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งภูมิประเทศต่ำ น้ำไหลรวมหลายทิศทาง สภาพอากาศแปรปรวน และการจัดการน้ำที่ยังมีช่องว่าง ทำให้เกิดน้ำท่วมอุทกภัยรุนแรง พื้นที่ลุ่มต่ำจึงต้องมีระบบระบายน้ำและการเตรียมพร้อม ส่วนผู้ที่อยู่พื้นที่เสี่ยงควรติดตามข่าว สำรองสิ่งจำเป็น และศึกษาเส้นทางอพยพเพื่อความปลอดภัย
ที่มา : เฟซบุ๊กเพจ Sonthi Kotchawat, เฟซบุ๊กเพจกรมชลประทาน, Thailand Environment Institute Foundation (TEI)

