บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง สัญญาณเตือน “โรคหลอดเลือดสมอง” อย่าละเลยเด็ดขาดกันนะคะ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) มักเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งในความเป็นจริง ผู้ป่วยหลายรายแสดงอาการเตือนล่วงหน้า ซึ่งหากได้รับการวินิจฉัย และรักษาอย่างทันเวลา ก็อาจช่วยป้องกันอาการรุนแรงที่จะเกิดขึ้นได้นะคะ

 

นพ.เลอวัน เตวียน จากโรงพยาบาลตัมอันห์ โฮจิมินห์ เปิดเผยว่า 43% ของผู้ป่วยเคยมีอาการ “TIA” หรือ Transient Ischemic Attack ในภาษาไทยเรียกว่า ภาวะขาดเลือดไปเลี้ยงสมองชั่วคราว หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อว่า “อัมพฤกษ์ชั่วคราว” เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อสมองได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอชั่วครู่ ซึ่งทำให้เกิดอาการคล้ายโรคหลอดเลือดสมอง แต่จะ หายเองได้ภายในไม่กี่นาทีถึงไม่เกิน 24 ชั่วโมง โดยไม่มีความเสียหายถาวรต่อสมอง

 

โดยผู้ป่วยจะมีอาการ TIA ภายในหนึ่งสัปดาห์ก่อนเกิดโรคหลอดเลือดสมองจริง อาการของภาวะนี้มีความรุนแรงน้อยกว่าโรคหลอดเลือดสมอง เนื่องจากอาการที่เกิดขึ้นจะสามารถหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมง โดยผู้ป่วยจะมีอาการ ดังนี้ค่ะ

 

สัญญาณเตือน “โรคหลอดเลือดสมอง” อย่าละเลยเด็ดขาด

 

 

-ปวดหรือเวียนศีรษะอย่างรุนแรง

– ความจำเสื่อมชั่วขณะ ไม่ค่อยมีสติ

– พูดลำบากติด ๆ ขัด ๆ

– เกิดอัมพาตครึ่งซีกที่แขนขา และใบหน้า

– การมองเห็นมีปัญหา เช่น การมองเห็นภาพซ้อน

– กล้ามเนื้อเกิดอาการชา และอ่อนแรง

หากพบอาการของภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว (TIA) ถึงแม้ไม่นานจะหายไปได้เองก็ไม่ควรปล่อยไว้นะคะ ควรรีบเข้าพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อรับการวินิจฉัยรวมถึงหาแนวทางในการรักษาเพื่อลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองนั่นเองค่ะ

 

หนึ่งในวิธีจดจำอาการเบื้องต้นที่ง่ายและแม่นยำ คือ หลัก FAST ได้แก่

F – Face (ใบหน้า): ใบหน้าผิดปกติครึ่งซีก ยิ้มแล้วมุมปากตก

A – Arm (แขน): แขนอ่อนแรง ยกแขนสองข้างแล้วข้างหนึ่งตกลง

S – Speech (การพูด): พูดไม่ชัด พูดติดอ่าง หรือออกเสียงลำบาก

T – Time (เวลา): ถ้าเกิดอาการข้างต้น ต้องรีบพาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที “เวลา” คือหัวใจสำคัญในการรักษา

 

นอกจากนี้ อาการบ้านหมุน เดินเซ มองไม่ชัด สมาธิสั้น หรือสับสนกะทันหัน ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมองได้เช่นกันค่ะ

 

 

 

บุคคลที่มีความเสี่ยงสูงได้แก่

– ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดสมอง

– ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง

– ผู้ที่อ้วน ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือใช้ยาคุมกำเนิดระยะยาว

– ผู้ที่มีภาวะเครียดเรื้อรัง นอนไม่หลับ หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ

 

วิธีป้องกัน

– ปรับอาหารการกิน ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก ผลไม้ ไขมันดีจากปลา

– ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที

– ควบคุมน้ำหนั เพราะโรคอ้วนเพิ่มโอกาสเส้นเลือดอุดตัน

– บริหารความเครียด ฟังเพลง อ่านหนังสือ ทำสมาธิ หรือเดินทางพักผ่อน

– ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง

 

สิ่งสำคัญที่สุด อย่าละเลยสัญญาณเล็กๆ ที่อาจบอกโรคใหญ่กันนะคะ การรู้ทัน รีบดูแล และรีบไปหาหมอ คือกุญแจสำคัญในการป้องกันและเอาชนะโรคหลอดเลือดสมองอย่างดีที่สุดค่ะ