บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง เช็กก่อนกิน ยาและวิตามินห้ามทานคู่ วิตามินซี เพื่อความปลอดภัยกันนะคะ ต้องบอกเลยนะคะว่า วิตามินซี (Vitamin C) นั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นวิตามินสามัญประจำบ้านที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและบำรุงผิวพรรณ เป็นที่นิยมของคนทั่วไปมากเลยนะคะ แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอค่ะ เพราะวิตามินซีไม่ได้เป็นมิตรกับยาทุกชนิด การจับคู่วิตามินซีกับยาหรืออาหารเสริมบางประเภท อาจส่งผลร้ายมากกว่าผลดีนะคะ พร้อมแล้วตามมาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ

เช็กก่อนกิน ยาและวิตามินห้ามทานคู่ วิตามินซี เพื่อความปลอดภัย

เพื่อความปลอดภัยและให้ยาออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ เช็กด่วนว่ายาที่ทานอยู่ จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ “ไม่ควรทานพร้อมวิตามินซี” หรือไม่นะคะ

1. วิตามินบี 12 (Vitamin B12)

คู่ที่คนรักสุขภาพต้องระวัง เพราะวิตามินซีมีฤทธิ์ขัดขวางการดูดซึม และอาจทำลายโครงสร้างของวิตามินบี 12 ได้ หากทานพร้อมกัน ร่างกายอาจได้รับวิตามินบี 12 น้อยกว่าที่ควรจะเป็น คำแนะนำ : ควรเว้นระยะห่างในการทานอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง หรือแยกทานคนละมื้ออาหารไปเลยจะดีที่สุด

2. ยาที่มีส่วนผสมของอะลูมินัม (Aluminum)

กลุ่มยาเคลือบกระเพาะ ยาลดกรด หรือยาสำหรับผู้ป่วยโรคไต ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะวิตามินซีจะไปเร่งให้ร่างกายดูดซึมอะลูมินัมเข้าสู่กระแสเลือดมากเกินปกติ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อไตและเกิดความเป็นพิษต่อร่างกายได้

3. ยาคุมกำเนิดและฮอร์โมนทดแทน

สาวๆ ที่ทานยาคุมกำเนิดหรือยาฮอร์โมนที่มีเอสโตรเจน (Estrogen) ควรทราบว่า วิตามินซีอาจทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในเลือดสูงขึ้นกว่าปกติ แม้จะไม่ได้ลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด แต่ก็อาจเพิ่มผลข้างเคียงของฮอร์โมน เช่น อาการคลื่นไส้ หรือปวดศีรษะได้

4. ยาสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (เบาหวาน, ไขมัน, ลิ่มเลือด)

ผู้ที่มีโรคประจำตัวต้องเช็กยารักษาโรคของตัวเองให้ดี เพราะวิตามินซีอาจทำปฏิกิริยากับยากลุ่มสำคัญ ดังนี้

– ยารักษาเบาหวาน: อาจทำให้ประสิทธิภาพในการควบคุมระดับน้ำตาลลดลง

– ยาลดไขมัน (Statins & Niacin): วิตามินซีอาจลดฤทธิ์ยาในการช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL)

– ยาละลายลิ่มเลือด (Warfarin): อาจทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ เสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด

5. ยากลุ่มเฉพาะทาง (เคมีบำบัด & ต้านไวรัส)

สำหรับผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาเฉพาะทาง การทานอาหารเสริมต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะ

– ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy): เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงอาจไปขัดขวางกลไกการออกฤทธิ์ของยาเคมีบำบัดบางชนิดได้

– ยาต้านไวรัส HIV (Protease inhibitors): การทานคู่วิตามินซีอาจทำให้ระดับยาในเลือดลดลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรักษา

จะเห็นได้ว่า แม้วิตามินซีจะมีประโยชน์มหาศาล แต่หากกำลังทานยาตามรายชื่อด้านบน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอนะคะ หรือใช้วิธีง่ายๆ คือ “เลี่ยงการทานพร้อมกัน” โดยเว้นระยะห่างสัก 2-4 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจและปลอดภัยต่อสุขภาพนั่นเองค่ะ