บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่องFind My Device รีแบรนด์กลายเป็น Find Hub กันนะคะ และยังพร้อมใช้ในเดือนพฤษภาคม 2025 นี้ด้วยนะคะ โดย Google ประกาศเปิดตัว Find My Device network เครือข่ายค้นหาอุปกรณ์แบบใหม่ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ขั้นสูง ช่วยติดตามอุปกรณ์ Android ที่หายได้แม้ในขณะออฟไลน์ โดยผู้ใช้นิยมเรียกระบบใหม่นี้ว่า Find Hub
เพราะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการติดตามอุปกรณ์ทุกรูปแบบนั่นเองค่ะ Find My Device รีแบรนด์กลายเป็น Find Hub ระบบใหม่นี้ไม่ได้จำกัดแค่การค้นหาสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเท่านั้น แต่ยังรองรับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น หูฟังไร้สาย และแท็กบลูทูธจากแบรนด์ที่เข้าร่วม เช่น Chipolo และ Pebblebee โดยมีแบรนด์อื่นๆ อย่าง Motorola, Jio, Eufy และอีกหลายเจ้าที่เตรียมเข้าร่วมในปี 2025 นี้กันเลยทีเดียวค่ะ
ไฮไลต์เด่นของ Find Hub
– ค้นหาอุปกรณ์ Android ได้แม้จะออฟไลน์
– ใช้เครือข่าย Android หลายพันล้านเครื่องช่วยระบุตำแหน่ง
– แสดงตำแหน่งแม่นยำแม้อยู่ในอาคาร
– แจ้งเตือนเมื่อคุณลืมของไว้
– ปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสแบบ end-to-end
ระบบ Find My Device network เริ่มทยอยเปิดให้ใช้งานทั่วโลกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025 เป็นต้นไป โดยผู้ใช้สามารถอัปเดตแอป Find My Device ผ่าน Google Play Store เพื่อใช้ความสามารถใหม่ได้ทันที ใช้ได้ตั้งแต่ Android 6 ขึ้นไป สำหรับใครที่ใช้ Android และมีอุปกรณ์เสริมมากมาย ฟีเจอร์นี้ถือว่าเป็นตัวช่วยใหม่ที่น่าจับตาในการติดตามและป้องกันของหายได้แบบครบวงจร นอกจากนี้จะมีรูปแบบที่ปรับแต่งได้มากกว่านี้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาสัมภาระในตัว Mokobara การเก็บสกีของคุณให้ปลอดภัยบนภูเขา ปลายเดือนนี้ Google ยังนำเสนอความสามารถใหม่ในการค้นหาบริเวณใกล้เคียงพร้อมแท็กที่รองรับแบนด์วิดท์กว้างพิเศษ (UWB) ซึ่งพร้อมใช้งานครั้งแรกในแท็ก moto ปลายปีนี้
Find Hub จะยกระดับความปลอดภัยไปอีกขั้นด้วยการผสานการเชื่อมต่อดาวเทียม ช่วยให้คุณสามารถติดต่อกับเพื่อนและครอบครัวได้แม้จะไม่มีการเชื่อมต่อเซลลูลาร์ก็ตาม ส่วนการเดินทางกำลังจะราบรื่นยิ่งขึ้นไปอีก คุณจะสามารถแชร์ตำแหน่งของแท็กบลูทูธของคุณกับสายการบินที่คุณชื่นชอบได้อย่างง่ายดายในช่วงต้นปี 2026 ทำให้การค้นหาสัมภาระที่สูญหายของคุณกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากเลยค่ะ