บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง กินทุเรียนอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพ ที่คนรักทุเรียนควรรู้กันนะคะ ทุเรียน เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายเลยนะคะ แม้ว่าจะเป็นผลไม้ที่มีพลังงานสูง และมีกลิ่นเฉพาะตัวที่หลายคนไม่ชอบก็ตามค่ะ แต่ก็มีสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายมากทีเดียวนะคะ ด้วยรสชาติหวานมันที่ตราตรึง ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทุเรียนจึงไม่ใช่แค่ผลไม้ธรรมดา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรม การเกษตร และเศรษฐกิจในหลายประเทศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วยนะคะ โดยเฉพาะประเทศไทย จนได้รับสมญานามว่าเป็น “ราชาแห่งผลไม้” ไม่เพียงแค่ความอร่อยเท่านั้น ทุเรียนยังเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากอีกด้วยค่ะ
ประโยชน์ของทุเรียน
– ใยอาหารในทุเรียนช่วยลดอาการท้องผูก ทำให้ขับถ่ายดีขึ้น
– ในทุเรียนมีวิตามิน C และ Polyphenols ช่วยชะลอวัยและต้านอนุมูลอิสระ
– การรับประทานทุเรียนในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยเรื่องการหด คลายตัวของกล้ามเนื้อ
– สารอาหารในทุเรียนช่วยบำรุงสายตา สมอง ผิวพรรณ และบำรุงเลือด
– ทุเรียนมีคาร์โบไฮเดรตสูง เหมาะสำหรับคนที่ใช้พลังงานเยอะ
ข้อเสียของทุเรียน
– ทุเรียนเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง หากกินในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้อ้วนได้
– น้ำตาลสูง ไม่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน
– การกินทุเรียนคู่กับแอลกอฮอล์อาจทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิต
– หลังกินทุเรียนบางคนอาจมีอาการแน่นท้อง เพราะระบบย่อยอาหารทำงานหนัก
กินทุเรียนอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพ ที่คนรักทุเรียนควรรู้
ทุเรียน เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แม้ว่าจะเป็นผลไม้ที่มีพลังงานสูงและมีกลิ่นเฉพาะตัวที่หลายคนไม่ชอบ แต่ก็มีสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย โดยทุเรียนพันธุ์ต่างกัน ให้พลังงานต่างกัน การกินทุเรียนให้มีประโยชน์ ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้วทุเรียน 100 กรัม หรือ 1 ขีด ให้พลังงาน 174 กิโลแคลอรี เทียบโดยใช้ปริมาณของเนื้อผลไม้ 100 กรัม มีสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้
– ไขมัน
– โปรตีน
– วิตามินเอ
– คาร์โบไฮเดรต
– เส้นใย
– วิตามินบี 1, 2, 3, 5, 6 และ 9
– วิตามินซี
– แมกนีเซียม
– แมงกานีส
– แคลเซียม
– ธาตุเหล็ก
– ฟอสฟอรัส
– โพแทสเซียม
– โซเดียม
– สังกะสี
ทุเรียนไม่ได้เป็นศัตรูของสุขภาพอย่างที่ใครหลายคนคิด การกินทุเรียนให้มีประโยชน์ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแค่กินในปริมาณที่เหมาะสมนั่นเองค่ะ
กินทุเรียนอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพ
– ใครที่อยากลดพุงเร่งด่วนไม่ควรกินทุเรียนเกิน 1 พู หรือประมาณ 2 เม็ดต่อครั้ง และ ไม่ควรกินทุเรียนเยอะเกิน 3 วันต่อสัปดาห์ หากอยากกินมากกว่านั้น แนะนำให้เลือกทุเรียนที่ยังไม่สุกจัดหรือเละเกินไป เพราะยิ่งสุกรสชาติจะยิ่งหวานจัด ซึ่งหมายถึงน้ำตาลและแป้งที่สูงขึ้น ควรเลือกทุเรียนแบบกึ่งห่ามจะดีกว่า เพราะมีน้ำตาลน้อยกว่านั่นเองค่ะ
– ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต เบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือด ยังคงสามารถกินทุเรียนได้ แต่ควรลดปริมาณลงจากที่คนทั่วไปกิน และควรระวังมากเป็นพิเศษ
– กินทุเรียนตอนไหนไม่อ้วน ? แนะนำว่าควรกินทุเรียนตอนท้องว่าง โดยหลังจากกินแล้วควรปรับปริมาณข้าวหรืออาหารจำพวกแป้งในมื้อหลักให้ลดลง เพราะทุเรียนให้พลังงานสูง หากกินข้าวตามปกติจะทำให้ได้รับพลังงานเกินความจำเป็นนั่นเองค่ะ
– กินทุเรียนตอนเช้าได้ไหม ? กินได้ แต่ไม่ควรกินเยอะ และควรกินอาหารเช้าที่มีประโยชน์ควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้ ถ้ากินทุเรียนตอนเช้าแล้ว ช่วงมื้อกลางวันควรกินอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำเพื่อรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
– การกินทุเรียนก่อนนอนเป็นสิ่งไม่แนะนำอย่างยิ่ง เพราะทุเรียนให้พลังงานเยอะมาก หากกินแล้วไม่ได้เผาผลาญพลังงานต่อ อาจส่งผลให้อ้วนได้นะคะ
– หลังจากกินทุเรียนแล้วควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที เช่น การเดินเร็ว เพื่อช่วยเผาผลาญน้ำตาลที่ได้รับ
– ไม่ควรดื่ม น้ำอัดลม หรือ กาแฟ ตามหลังการกินทุเรียน เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีทั้งน้ำตาลสูงและฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ซึ่งอาจทำให้ร่างกายทำงานหนักเกินไป
– ควรดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่ร่างกายต้องการ เพื่อขับโซเดียมที่มากเกินไปจากการกินทุเรียน
เหตุผลที่ห้ามกินทุเรียนกับแอลกอฮอล์
สิ่งที่ห้ามกินกับทุเรียนเลยคือแอลกอฮอล์ เพราะทุเรียนมีสารซัลเฟอร์ (กำมะถัน) ที่ขัดขวางกระบวนการกำจัดแอลกอฮอล์ในร่างกาย อาจทำให้แอลกอฮอล์ตกค้าง ส่งผลให้เกิดอาการรุนแรง เช่น ระบบหายใจล้มเหลว หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้
จะเห็นได้ว่าสุขภาพดีเริ่มที่การกินทุเรียนอย่างรู้จักพอดีนั่นเองค่ะ และทุเรียน ไม่ได้เป็นเพียงผลไม้ที่มีรสชาติและกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งคาร์โบไฮเดรต, ไขมันดี, วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายนะคะ แต่อย่างไรก็ตาม การบริโภคทุเรียนควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะมีพลังงานสูง และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหากกินร่วมกับอาหารบางชนิด เช่น แอลกอฮอล์ หรือของหวานจัด ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือโรคหัวใจนะคะ
ดังนั้นทุเรียนจึงเป็นผลไม้ที่สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย หากรู้จักเลือกกินให้พอดี และเข้าใจว่ารสชาติที่อร่อยนั้นควรมาพร้อมกับความรู้เท่าทัน เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวนั่นเองค่ะ