บทความนี้จะมานำเสนอมาตรการดีๆที่เหมาะกับคนในยุคนี้มาฝากกันค่ะ นั่นก็คือมาตรการส่งดี dee-delivery กฎหมายใหม่ที่ต้องจับตากันเลยนะคะ จุดประสงค์หลักคือแก้กลโกงหลอกเก็บเงินปลายทาง ,ขายสินค้าไม่ตรงปก ,สั่งบริษัทขนส่งเผยชื่อพนักงาน ให้ข้อมูลติดต่อร้านค้า ให้สิทธิผู้บริโภคเช็กของก่อนจ่าย ขอคืนเงินได้ใน 5 วัน เตรียมลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา กรกฎาคมนี้กันแล้วค่ะ
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีประชาชนจำนวนมากได้สะท้อนความเดือดร้อนจากการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์หรือแอปชอปปิ้งออนไลน์ มายังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หลายกรณี เช่น ผู้บริโภคไม่ได้สั่งซื้อสินค้าแต่มีพัสดุจัดส่งไปยังที่บ้าน โดยมีการเรียกเก็บเงิน ณ ที่จัดส่งปลายทาง และกรณีที่ผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าแล้วเกิดปัญหาในรูปแบบต่างๆ แต่กลับไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้ หรือติดต่อได้แต่ไม่ได้รับการแก้ไข
นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ผู้บริโภคเลือกชำระเงินค่าสินค้าโดยการเก็บเงินปลายทาง แล้วเกิดปัญหาแต่ไม่ได้รับเงินคืน เนื่องจากผู้ให้บริการขนส่งสินค้าให้เหตุผลว่า จ่ายเงินให้กับผู้ขายสินค้าไปแล้ว ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย
เพื่อแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภค ล่าสุดคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ภายใต้ สคบ. ได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ‘เรื่องให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. ….’ ซึ่งจะลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา กรกฎาคมนี้
โดยกฎหมายฉบับนี้ จะช่วยแก้ปัญหาให้นักชอปออนไลน์โดยการใช้
“มาตรการส่งดี (Dee-Delivery)”
– ให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้า ต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ส่งสินค้าและผู้ประกอบธุรกิจ
– ชื่อสกุลผู้รับเงินพร้อมหมายเลขติดตามพัสดุ
– พร้อมกำหนดให้ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าถือเงินค่าสินค้าเป็นระยะเวลา 5 วันก่อนนำส่งเงินให้กับผู้ขาย เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสแจ้งเหตุที่ขอคืนสินค้าและขอเงินคืน
– นอกจากนี้ ยังให้สิทธิผู้บริโภคสามารถเปิดดูสินค้าก่อนชำระเงินได้ หากพบว่ามีปัญหา ผู้บริโภคสามารถปฏิเสธการชำระเงินและไม่รับสินค้าได้
น่าจับตากันว่า หลังกฎหมายใหม่บังคับใช้ จะแก้ปัญหากลโกงหลอกเก็บเงินปลายทาง สินค้าไม่ตรงปก ลดน้อยลงได้หรือไม่ ก็ต้องรอดูผลการต่อไปนะคะ
ที่มา : รัฐบาลไทย