บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับ Adobe Fresco แอปใหม่และฟรี จาก Adobe เพื่อแข่งกับ Procreate โดยเฉพาะกันนะคะ

มาทำความรู้จัก Adobe Fresco กันค่ะ

 

 

Adobe Fresco คือ แอปพลิเคชันสำหรับวาดภาพ และระบายสีดิจิทัล ที่พัฒนาโดย Adobe ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การวาดภาพที่สมจริง และเป็นธรรมชาติราวกับวาดบนผืนผ้าใบจริง ความโดดเด่นของแอปนี้ได้แก่ คอลเลกชันแปรงที่หลากหลาย ทั้งแปรงเวกเตอร์ และแปรงแรสเตอร์ รวมถึงแปรงสีที่ให้เอฟเฟกต์เหมือนสีน้ำและสีน้ำมัน Adobe พยายามดึงดูดนักวาดภาพประกอบให้เข้าร่วมแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์สร้างสรรค์ โดยทำให้แอปวาดภาพ และระบายสีเฉพาะของตนใช้งานได้ฟรีสำหรับทุกคนนั่นเองค่ะ ดังนั้น Adobe Fresco จึงได้รับการออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์ที่รองรับการสัมผัสและสไตลัส และพร้อมใช้งานบน iPad , iPhone และพีซี Windows

แอปนี้ใช้งานฟรีอยู่แล้ว แต่ฟีเจอร์พรีเมียม เช่น การเข้าถึงไลบรารี Adobe Fonts เต็มรูปแบบ ตัวเลือกแปรงที่หลากหลายกว่ามาก และความสามารถในการนำเข้าแปรงแบบกำหนดเองนั้น จำเป็นต้องสมัครสมาชิกรายปีในราคา 9.99 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าคุ้มราคาสำหรับการสมัครสมาชิก Adobe แต่ก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับรุ่นซื้อครั้งเดียวราคา 12.99 ดอลลาร์ของ Procreate ได้ค่ะ

 

จุดเด่นของ Adobe Fresco

 

 

– แปรงหลากหลาย มีแปรงให้เลือกใช้มากมาย ทั้งแปรงที่เลียนแบบวัสดุจริง เช่น ถ่าน ไม้ถูพื้น และแปรงที่ออกแบบมาสำหรับงานศิลปะดิจิทัลโดยเฉพาะ

 

 

– Live Brushes แปรงที่ใช้เทคโนโลยี Adobe Sensei ทำให้ได้เอฟเฟกต์เหมือนวาดสีน้ำและสีน้ำมันบนผ้าใบจริง

 

 

– เลเยอร์ สามารถจัดการเลเยอร์ได้อย่างง่ายดาย เพื่อสร้างงานศิลปะที่ซับซ้อน

– เข้ากันได้กับอุปกรณ์หลากหลาย สามารถใช้งานได้บน iPad, iPhone และอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ Apple Pencil

– เชื่อมต่อกับ Adobe Cloud สามารถซิงค์ไฟล์และทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันอื่นๆ ในตระกูล Adobe ได้

 

 

จะเห็นได้ว่า Adobe Fresco เป็นแอปวาดภาพที่ทรงพลัง และน่าสนใจสำหรับทั้งมืออาชีพ และผู้ที่ชื่นชอบการวาดภาพกันเลยนะคะ หากคุณกำลังมองหาแอปวาดภาพที่ให้ความรู้สึกเหมือนวาดบนกระดาษจริง Adobe Fresco อาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ และยังสามารถใช้งานได้ฟรีอีกเ้วยนะคะ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างตรงที่อุปกรณ์ที่รองรับ เฉพาะบน iPhone , iPad และ Windows ซึ่งยังไม่รองรับ Android รวมถึงฟีเจอร์บางอย่างอาจต้องสมัคร Adobe Creative Cloud เพื่อเข้าถึง Library และฟีเจอร์ระดับพรีเมียมบางฟีเจอร์ และยังไม่รองรับการรวม Generative AI ของ Adobe นั่นเองค่ะ

 

 

 

ที่มา : Adobe  , The Verge cover Adobe