หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหาที่เที่ยวสำหรับทริปถัดไป แล้วก็อยากพาคนรู้ใจไปด้วย ต้องไม่พลาดบทความนี้เลยนะคะ เพราะบทความนี้จะมาแนะนำ โลเคชั่น หรือที่เที่ยวสวยๆในไทยที่เหมาะกับการพาแฟนไปเดทมาฝากกันค่ะ จะมีที่ไหนกันบ้างนั้น ตามมาดูพร้อมกันได้เลยค่ะ
Top 10 สถานที่เหมาะสำหรับพาแฟนไปเดท สวยๆในไทย
1. ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (Chaopraya River)
สำหรับริมแม่น้ำเจ้าพระยานับว่าเป็นสถานที่เที่ยวสุดโรแมนติก บรรยากาศดีทั้งตอนเช้า และตอนกลางคืน มีกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลาย ทั้งที่พักริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีให้เลือกมากมายตั้งแต่โฮมสเตย์ ที่พักริมแม่น้ำเจ้าพระยาราคาประหยัด หรือแม้แต่ที่พักกรุงเทพหรูหราห้าดาวก็มีให้เลือกครบ หากคุณอยากเซอร์ไพร์สแฟน ลองจองร้านอาหารริมน้ำ หรือพาไปล่องเรือกินข้าวชมวิวสองฝั่งแม่น้ำก็ฟินอยู่ไม่ใช่น้อยเลยนะคะ
แนะนำคู่รักที่อยากไปเดทกันริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้ลองเลือกหาทริปแบบวันเดียวไปกลับ ไปล่องเรือชมวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำ หรือใครชอบถ่ายรูปก็มีโลเคชั่นสวยๆ ริมน้ำให้เลือกเพียบ ยิ่งไปกว่านั้นหากมองหาสถานที่สำหรับดินเนอร์ ก็เลือกได้ตั้งแต่ในโรงแรม ร้านอาหารริมน้ำ หรือบาร์เก๋ๆ สักหนึ่งแห่ง ชมบรรยากาศค่ำคืนก็ดีต่อใจไม่น้อยเลยจริงๆ ให้เลือกเก็บสถานที่เที่ยวสวยริมแม่น้ำเอาไว้เป็นตัวเลือก สำหรับชาวกรุงเทพฯ ที่ไม่ว่างเดินทางไปต่างจังหวัด ก็ไปเดทกับแฟนได้ไม่ต้องลางานอีกด้วยนะคะ
2. เสม็ดนางชี (Samed Nang Chee)
เป็นหนึ่งในที่เที่ยวดังของจังหวัดพังงาเลยนะคะ ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คอันซีน (Unseen) ที่ตอนนี้โด่งดัง และกลายมาเป็นจุดท่องเที่ยวยอดฮิตไปซะแล้ว รับรองว่าทั้งคุณและคู่รักจะต้องหลงรักวิวสวยของจุดชมวิวเสม็ดนางชี เพราะมองเห็นได้ทั้งวิวของภูเขาหินปูนเป็นฉากหลัง พร้อมกับน้ำทะเลที่เขียวมรกตของฝั่งอันดามัน งดงามราวกับอยู่ในภาพวาด หลักๆ แล้วบริเวณจุดสมวิวเสม็ดนางชีจะมีด้วยกันสองจุดใหญ่ ต้องเดินเท้าขึ้นไปประมาณ 300 – 500 เมตร แต่รับรองเลยว่าเกินคุ้ม บริเวณนี้ยังเป็นจุดขึ้นชื่อของการมาชมพระอาทิตย์ขึ้น ถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของพังงา และของประเทศไทยกันเลยทีเดียวค่ะ
ใครเดินทางมาเที่ยวเสม็ดนางชี สามารถขับรถมาได้ หรือว่าอยากใช้เวลาชมวิวสวยกันสักคืนสองคืนก็ย่อมได้ เพราะมีที่เที่ยวพังงาใกล้เสม็ดนางชีให้เลือก หรือถ้าอยากได้ฟีลตั้งแคมป์ ที่นี่สามารถกางเต้นท์ได้ มีจุดกางเต้นท์ให้บริการ นอกจากส่วนของที่พักแล้วนั้น ยังรวมไปถึงคาเฟ่ และท่าเรือบ้านหิมร่ม อันเป็นจุดเช็คอินหลักของเสม็ดนางชีเลยทีเดียวค่ะ
3. ปางอุ๋ง (Pang Oung)
แม้ว่าจะต้องเดินทางขึ้นเขา นั่งรถต่อเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่เมื่อคุณเดินทางไปถึงปางอุ๋งรับรองว่าจะต้องหายเหนื่อยอย่างแน่นอน เพราะวิวอันสวยงามของอ่างเก็บน้ำที่ด้านหลังเป็นวิวภูเขาสวย จนปางอุ๋งได้รับการขนานนามว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทยนั้นไม่ไกลเกินจริงเลยนะคะ
บริเวณปางอุ๋งจะเป็นลักษณะเหมือนกับป่าสน มีบ้านพักให้เช่าค้างคืน หรือใครจะเอาเต้นท์มากางก็มีบริเวณลานให้กางเต้นท์ ได้บรรยากาศเหมาะกับการแคมป์ปิ้ง ส่วนความโรแมนติกของปางอุ๋ง ไฮไลท์เลยคือตอนช่วงเช้ามืดที่พระอาทิตย์กำลังขึ้น หากไปฤดูหนาว หรือช่วงปลายฝนต้นหนาวจะสังเกตเห็นหมอกที่ค่อยๆ ลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือผืนน้ำ รวมถึงในช่วงกลางคืนหลังจากที่ดับไฟ คุณจะเห็นดาวพร่างพรายบนท้องฟ้าระยิบระยับ สร้างความโรแมนติกแบบคูณสองกันไปเลยทีเดียวค่ะ
การเดินทางไปยังปางอุ๋งแม้จะไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป เพราะถ้าคุณไม่อยากนั่งรถขึ้นไปยังแม่ฮ่องสอน ก็สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินไปแม่ฮ่องสอนได้ แล้วนั่งรถต่อไปยังปางอุ๋ง สำหรับที่พักปางอุ๋งมีให้เลือกหลายแบบ อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นนี้จะมีพื้นที่ให้กางเต้นท์ นอกจากนั้นยังมีโฮมสเตย์ของชาวบ้านให้เลือกพัก ราคาไม่แพง และเดินไปบริเวณอ่างเก็บน้ำได้ไม่ไกล ยิ่งช่วงเทศกาลแนะนำให้จองที่พักปางอุ๋งเอาไว้ล่วงหน้าเลย เพราะคนเยอะมากเลยนะคะ
4. เกาะพีพี (Phi Phi Island)
หนึ่งในสถานที่แสนสวยสุดโรแมนติกที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมากมาย ทั้งยังเป็นที่เที่ยวฮันนีมูนยอดฮิตอีกด้วยนะคะ ทะเลสวย น้ำใส ชายหาดสีขาว และเกาะน้อยใหญ่มากมายที่เดินทางไปเที่ยวได้แบบวันเดย์ทริปกับ “เกาะพีพี” หนึ่งในส่วนของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ประกอบไปด้วยสองส่วนด้วยกันคือ เกาะพีพีดอน และเกาะพีพีเล ทั้งสองเกาะนี้มีส่วนที่เหมือนกันคือความสวยงาม หาดทรายที่ขาวสะอาด แต่ความแตกต่างกันก็คือบนเกาะพีพีดอน จะมีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งร้านอาหาร ร้านค้า และมีที่พักเปิดให้บริการ เหมาะกับใครที่อยากจะฮันนีมูนใต้แสงจันทร์ และตื่นขึ้นมาชมความงามของเกาะพีพี ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างคือสามารถไปเที่ยวเกาะ และจุดดำน้ำบริเวณข้างเคียงเกาะพีพีได้ เพราะระหว่างทางเส้นทางเรือจะมีเกาะมากมาย อาทิ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน
ไฮไลท์ของเกาะพีพีไม่ใช่แค่ความสวยงามบริเวณนั้น ยังมีอ่าวมากมายกระจายตัวอยู่โดยรอบ กิจกรรมที่คนส่วนใหญ่นิยมทำเมื่อเดินทางไปที่นั่น คือการล่องเรือไปเที่ยวรอบๆ หรือการดำน้ำก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ ส่วนอ่าวมาหยาก็เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวแนะนำบริเวณนั้น เพราะขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม แต่จะเปิดให้เข้าไปเที่ยวแค่เพียงบางช่วง เนื่องจากการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และธรรมชาติให้กลับมาสวยอีกครั้ง หากอยากไปเที่ยวทะเลอันดามันให้สวย ไม่ใช่แค่ที่พีพีเท่านั้น แต่รวมไปถึงที่อื่นด้วย ควรเช็คฤดูมรสุมให้ดี เพราะถ้าไปช่วงไฮซีซั่นทะเลจะสวยเป็นพิเศษเลยค่ะ
5. หาดในหาน (Nai Harn Beach)
หาดในหาน ถือเป็นหนึ่งในหาดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ เนื่องจากโดดเด่นเรื่องทัศนียภาพที่งดงาม เหตุผลหนึ่งที่เลือกหาดในหาน เพราะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกเลื่องชื่อ หาดในหานเป็นชายหาดเล็กที่ไม่ยาวมาก มีระยะทางเพียงแค่ 700 เมตรเท่านั้น แต่มีลักษณะโค้งเล็กน้อยเหมือนกับเวิ้งอ่าว ห่างจากแหลมพรหมเทพขึ้นไปทางด้านเหนือ ทำให้ใครที่เดินทางไปหาดนี้ จะไปต่อแหลมพรหมเทพ หรือแหลมกระทิงก็ได้ เนื่องด้วยหาดในหานไม่มีถนนใหญ่ติดหาด และมีที่พักภูเก็ตติดทะเลเพียงแค่ไม่กี่ที ทำให้มีความเป็นส่วนตัว และคนไม่พลุกพลานมากนักเหมือนกับบางหาดในภูเก็ต แถมมีเรือยอร์ชจอดอยู่เรียงราย ได้บรรยากาศเหมือนกับไปเที่ยวทะเลในต่างประเทศเลย
6. บ้านป่าบงเปียง (Ban Pa Bong Piang)
อาจจะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากมายนักกับสถานที่แห่งนี้ แต่บ้านป่าบงเปียงถือเป็นหนึ่งในสุดยอดที่เที่ยวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ให้คุณได้หนีความวุ่นวาย พาคู่เดทของคุณไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดที่ห้อมล้อมไปด้วยสีเขียวขจีของนาข้าวขั้นบันได บ้านป่าบงเปียงไม่ได้มีความโดดเด่นแค่วิวนาข้าวยอดฮิตแต่เพียงเท่านั้น ยังมีทัศนียภาพสวยงามเพราะด้านหลังโอบล้อมไปด้วยภูเขา มองไปทางไหนก็เจอแต่สีเขียวมากมายเต็มไปหมด การเดินทางไปเที่ยวบ้านป่าบงเปียงก็ไม่ยาก เพราะขับรถไปเที่ยวกันได้เส้นทางไม่ทรหดเท่าไหร่ ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แจ่ม ส่วนใหญ่แล้วคนจะนิยมจองโฮมสเตย์แล้วนอนค้างคืน เพื่อตื่นมาชมทะเลหมอกสวยๆ พร้อมวิวทุ่งนาสูดลูกหูลูกตา ที่ช่วยทำให้จิตใจ และร่างกายผ่อนคลายอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ
7. เกาะสมุย(Koh Samui)
ถือเป็นสถานที่ฮันนีมูนยอดนิยม มีที่พักสมุยมากมายที่บรรยากาศดี โรแมนติก และเหมาะกับการแพลนมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ พูดถึงจุดเด่นของเกาะสมุยกันก่อน เป็นเกาะที่คนไม่ได้เยอะมากนักเหมือนเกาะอื่นๆ ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทย สามารถเดินทางไปได้ด้วยการนั่งรถแล้วต่อเรือ หรือใครอยากจะประหยัดเวลาก็ซื้อตั๋วเครื่องบินตรงลงสมุยกันได้เลย บนเกาะสมุยมีที่เที่ยวหลายแห่งด้วยกัน ทั้งหาดทราย น้ำตก วัด และจุดชมวิว ความสวยของน้ำทะเลใส และหาดทรายขาวก็ไม่เป็นสองรองใคร วันหยุดนี้ถ้ายังว่างอยู่ไม่รู้จะไปไหนดี จองตั๋วแพคกระเป๋า แล้วไปจองที่พักสมุยรอกันได้เลย หากใครอยากเซอร์ไพร์สคู่เดทของคุณด้วยการจูงมือพาไปเที่ยวสมุย รับรองว่าจะต้องถูกใจแน่นอนเลยค่ะ
8. เขาค้อ (Khao Kho)
เขาค้อก็เป็นหนึ่งสถานที่เที่ยวสวยในไทยที่มีความโรแมนติกเป็นอย่างมาก แถมยังอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ ขับรถไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเขาค้อแล้ว ซึ่งเขาค้อตั้งอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้เป็นชื่อเรียกของสถานที่รวมบริเวณนั้น ประกอบไปด้วยภูเขามากมาย ทั้งภูเขาน้อยและใหญ่บริเวณนั้น ความขึ้นชื่อของเขาค้อ ต้องยกให้กับวิวที่สวยงาม ตอนเช้าตื่นมาจะมองเห็นทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน จึงทำให้เขาค้อกลายมาเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในไทย แถมเรื่องที่พักเขาค้อก็ยังมีให้เลือกเยอะ มีมากมายหลายแนว ทั้งที่พักเขาค้อสุดหรู ที่พักเขาค้อแบบเต้นท์กระโจม ให้คุณได้พาแฟนไปนอนดูดาวสุดโรแมนติกบนเขาค้อ รวมไปถึงที่พักเขาค้อที่เปิดระเบียงออกมาก็เจอวิวสวย เอาเป็นว่าวันหยุดนี้พาแฟนไปเที่ยวเขาค้อแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน แถมที่เขาค้อยังมีที่เที่ยวให้เลือกเช็คอินอีกเพียบด้วยนะคะ
9. เกาะกูด(Koh Kood)
เกาะกูดเป็นหนึ่งในเกาะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมัลดีฟส์เมืองไทย ตั้งอยู่ภายในจังหวัดตราด เวลาที่ไปเที่ยวเกาะกูดจะต้องขับรถไปยังตราด แล้วนั่งเรือต่อไป ซึ่งเวลาที่ใช้ในการนั่งเรือจะมากกว่าการไปเกาะช้าง เพราะว่าเกาะกูดอยู่ไกลมากกว่า ไฮไลท์ของเกาะกูดคือทะเลที่สวยมาก น้ำทะเลยังใสสะอาด และธรรมชาติทางทะเลยังคงสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวปะการัง และระบบนิเวศน์ นอกจากนั้นยังมีบริเวณป่าชายเลน นับว่าเป็นเกาะที่มีความหลากหลาย เนื่องด้วยนอกจากที่เที่ยวทางทะเลแล้ว ยังมีน้ำตกด้วย ใครที่อยากไปเที่ยวเกาะกูดกับแฟนไม่ต้องกลัวเบื่อ เพราะที่เกาะกูดจะมีกิจกรรมมากมายให้ได้ทำ อย่างเช่น พายเรือคายัค แพดเดิ้ลบอร์ด ดำน้ำดูปะการัง หรือไปเยี่ยมชมบริเวณป่าชายเลนก็ได้ เชื่อเลยว่าไปเที่ยวเกาะกูดทริปหน้ากับแฟน หรือพาไปเดทก็จะช่วยสร้างความประทับใจได้ไม่น้อยเลยหล่ะค่ะ
10. เขาใหญ่(Khaoyai)
“เขาใหญ่” ไม่ได้เป็นแค่ที่เที่ยวบรรยากาศดี เน้นที่เที่ยวทางธรรมชาติ แต่ยังเป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เหมาะสำหรับคู่รักอยากไปเดทแต่ไม่อยากลางาน หรือกำลังมองหาที่เที่ยวสวยงามสำหรับเสาร์-อาทิตย์ อันที่จริงแล้วเขาใหญ่เป็นชื่อของอุทยานแห่งชาติ ครอบคลุมพื้นที่มากถึง 4 จังหวัด มีความอุดมสมบูรณ์มาก และแหล่งกำเนิดของทั้งต้นน้ำ และลำธารเยอะมาก หากคุณไปเที่ยวเขาใหญ่รับรองว่าจะไม่เหงา เพราะมีกิจกรรมให้ทำตลอด ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ หรือที่พักเขาใหญ่สวยๆ มีให้เลือกเพียบ แถมไฮไลท์คือบรรยากาศโดยรอบของเขาใหญ่ เต็มไปด้วยธรรมชาติ ยิ่งไปช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือฤดูหนาว อากาศจะค่อนข้างเย็นสบาย ถือว่าเป็นแหล่งโอโซนใกล้กรุงเทพฯ ที่อยากให้ทุกคนได้ไปเยือน หากว่าคุณเบื่อความวุ่นวายในเมืองหลวงแล้ว ชวนแฟนขับรถแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเขาใหญ่แล้ว จะไปเที่ยววันเดย์ทริปไปกลับ หรือค้างสักคืนสองคืนก็ได้นะคะ