“เลือกตั้ง 2566” นับว่าเป็นอีกช่วงเวลาสำคัญของคนไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้งเลยนะคะ เพราะถึงเวลาแล้วที่จะได้ใช้สิทธิของตัวเอง ในการเลือกผู้แทนราษฎรเข้าไปทำงานบริหารประเทศกันอีกครั้งหนึ่งแล้วค่ะ ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนด รายละเอียดในการใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 โดยกำหนดเวลาการเปิด-ปิดหีบเลือกตั้ง เริ่มกี่โมง ถึงกี่โมง เอาไว้อย่างชัดเจนนะคะ ดังนั้นบทความนี้ จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้ง มาเพื่อให้คนไทยที่เตรียมตัวออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งใหญ่ครั้งนี้ สามารถตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดการเลือกตั้งทั้งหมดได้ ก่อนที่จะเข้าคูหาเลือกคนที่ใช่ และพรรคที่ชอบ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้นะคะ
วันเลือกตั้ง
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566
เวลาเลือกตั้ง
ตั้งแต่เวลา 08.00 -17.00 น. ไม่มีการพักเที่ยง
คุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
– มีสัญชาติไทย หากเคยแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
– อายุไม่ตํ่ากว่า 18 ปี ในวันเลือกตั้ง
– มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง
ลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
– เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
– อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง
– ต้องคุมขังโดยหมายของศาล หรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
หลักฐานในการแสดงตนเพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้ง
– บัตรประจำตัวประชาชน (บัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุก็สามารถใช้แสดงตนได้
– บัตรหรือหลักฐานอื่นที่ทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกโดยต้องเป็นบัตรที่มีรูปถ่าย และมีเลขประจำตัวประชาชนของผู้ถือบัตร เช่น บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
– ใช้แอปพลิเคชันแสดงตนได้
หากใครเกิดหลงลืมหรือบัตร หรือหลักฐานข้างต้นไม่อยู่กับตัว สามารถใช้ภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดผ่านแอปพลิเคชัน ของหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ 3 แอปพลิเคชัน ดังนี้
– แอปพลิเคชัน ThaID (ไทยดี) เพื่อแสดงบัตรประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์
– แอปพลิเคชัน DLT QR LICENCE เพื่อแสดงใบอนุญาตขับขี่อิเล็กทรอนิกส์
– แอปพลิเคชันบัตรคนพิการ เพื่อแสดงบัตรประจำตัวคนพิการอิเล็กทรอนิกส์
5 ขั้นตอนการลงคะแนนเลือกตั้ง
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบรายชื่อ
ตรวจสอบรายชื่อและลำดับที่จากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ประกาศไว้หน้าหน่วยเลือกตั้ง หรือตรวจสอบข้อมูลการใช้สิทธิทางแอปพลิเคชัน Smart Vote
ขั้นตอนที่ 2 ยื่นหลักฐานแสดงตน
ยื่นบัตรประชาชนหรือหลักฐานแสดงตน ให้กรรมการประจำที่เลือกตั้งกลางเพื่อตรวจสอบข้อมูลและยืนยันตัวตน พร้อมลงลายมือชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ขั้นตอนที่ 3 รับบัตรเลือกตั้ง
รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ บัตรเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (บัตรสีม่วง) และ บัตรเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ (บัตรเขียว) พร้อมลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้ว หัวแม่มือขวา บนต้นขั้วบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 ประเภท โดยกรรมการประจำที่เลือกตั้งลงลายมือชื่อในต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง
ขั้นตอนที่ 4 ทำเครื่องหมายกากบาท X
เข้าคูหาลงคะแนน ทำเครื่องหมายกากบาท X ลงในช่องทำเครื่องหมายในบัตรเลือกตั้ง แต่ละประเภท โดยสามารถเลือกผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ได้เพียงบัตรละหมายเลขเดียว หากไม่ต้องการเลือกผู้สมัครใดหรือบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใดเลยให้ทำเครื่องหมายกากบาท X ในช่องไม่ประสงค์เลือกผู้สมัครผู้ใด หรือ ไม่เลือกบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใด
ขั้นตอนที่ 5 หย่อนบัตรด้วยตนเอง
เมื่อลงคะแนนเสร็จแล้วพับบัตรเลือกตั้งแต่ละประเภท ให้เรียบร้อย และหย่อนบัตรลงในหีบบัตรเลือกตั้งแต่ละประเภทให้ถูกต้องด้วยตนเอง
วิธีกาบัตรเลือกตั้งที่ถูกวิธี
วิธีกาบัตรเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องกาเครื่องหมาย X ลงในบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 ประเภท คือ บัตรเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ
รู้จักบัตรเลือกตั้ง 2 สี ใช้เลือก ส.ส. เขต – ส.ส. บัญชีรายชื่อ
บัตรเลือก ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ‘สีม่วง’
1. ระบุประเภทของบัตรเลือกตั้ง
2. คำอธิบาย
3. ช่อง ‘หมายเลขผู้สมัคร’
4. ช่อง ‘ช่องทำเครื่องหมาย’
5. ช่อง ‘ช่องไม่เลือกผู้สมัครใด’
บัตรเลือก ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ / ปาร์ตี้ลิสต์ ‘สีเขียว’
1. ระบุประเภทของบัตรเลือกตั้ง
2. คำอธิบาย
3. ช่อง ‘หมายเลขของบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง’
4. ช่อง ‘ช่องทำเครื่องหมาย’
5. ช่อง ‘ชื่อพรรคการเมืองและภาพเครื่องหมายพรรคการเมือง’
6. ช่อง ‘ไม่เลือกบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใด’
หมายเหตุ:
* หากต้องการเลือก ‘ผู้สมัครผู้ใด’ หรือ ‘บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใด’ ให้ทำเครื่องหมายกากบาทในช่องทำเครื่องหมายเพียงหมายเลขเดียว
* หากผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ประสงค์เลือก ‘ผู้สมัครผู้ใด’ หรือ ‘บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใด’ ให้ทำเครื่องหมายกากบาทในช่องไม่เลือก
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกคนนะคะ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แล้วพากันออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงในการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้กันนะคะทุกคน เลือกคนที่ใช่ และพรรคที่ชอบ เพื่อประเทศชาติของเราค่ะ