QRCODE.in.th
  • รับทำ SEO
  • SMS
  • สร้าง QR CODE (current)
  • วิธีการใช้งาน?
  • ผลงานศิลปะของศิลปินระดับโลก
  • เบอร์ทรู call center ฟรี
  • เช็คเครือข่ายมือถือ
  • เกี่ยวกับเรา
  • เงื่อนไขการใช้บริการ

เครื่องใช้ไฟฟ้า 6 ชนิด ไม่ควรถอดปลั๊กบ่อย เสี่ยงพังไวกว่าเดิม

 บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้า 6 ชนิด ไม่ควรถอดปลั๊กบ่อย เสี่ยงพังไวกว่าเดิมกันนะคะ โดยผู้เชี่ยวชาญเตือน 6 เครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ควรถอดปลั๊กบ่อย ไม่ได้ช่วยประหยัดไฟ แถมเสี่ยงมีปัญหา หรือพังไวกว่าเดิมอีกด้วยนะคะ พร้อมแล้วตามมาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
เครื่องใช้ไฟฟ้า 6 ชนิด ไม่ควรถอดปลั๊กบ่อย เสี่ยงพังไวกว่าเดิม

การถอดปลั๊กนั้น ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภท เนื่องจากการตัด/ต่อกระแสไฟบ่อยครั้ง อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง และสร้างความเสียหายต่อระบบภายในได้นะคะ ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า หลายครอบครัวมีความเชื่อว่า การถอดปลั๊กเมื่อไม่ได้ใช้งานจะช่วยประหยัดไฟหรือยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ทุกอุปกรณ์ที่เหมาะกับวิธีนี้ และบางชนิดอาจยิ่งสิ้นเปลืองไฟเมื่อเปิดใช้งานใหม่ เพราะระบบต้องทำงานหนักเพื่อคืนสภาพเดิมอีกด้วยนะคะ
1. ตู้เย็น
ตู้เย็นจำเป็นต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงที่และเก็บรักษาอาหารให้สดใหม่ การถอดปลั๊กบ่อยครั้งทำให้อุณหภูมิภายในสูงขึ้น ส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตและอาหารเสียเร็วขึ้น อีกทั้งเมื่อเสียบปลั๊กใหม่ คอมเพรสเซอร์จะต้องทำงานหนักเพื่อลดอุณหภูมิ ทำให้กินไฟมากขึ้นและเร่งการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วน นอกจากนี้ตู้เย็นรุ่นใหม่มีระบบเซนเซอร์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจเสียการตั้งค่าหากถูกตัดไฟบ่อยครั้ง
2. เราเตอร์ Wi-Fi และโมเด็ม
อุปกรณ์เครือข่ายต้องทำงานต่อเนื่องเพื่อรักษาความเสถียรของสัญญาณ การตัดไฟบ่อยครั้งอาจทำให้การเชื่อมต่อขาดช่วง ส่งผลกระทบต่อการทำงาน การเรียน หรือความบันเทิงในครอบครัว อีกทั้งการเปิด–ปิดบ่อยทำให้หม้อแปลงและวงจรภายในเสื่อมเร็ว โดยเฉพาะรุ่นใหม่ที่มีระบบจัดการเครือข่ายซับซ้อน
3. เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้มาพร้อมระบบอัจฉริยะ เช่น โปรแกรมตั้งเวลา การตรวจหาความผิดปกติ และฟังก์ชันแจ้งเตือน การถอดปลั๊กบ่อยครั้งอาจทำให้ข้อมูลระบบถูกรีเซ็ต ส่งผลให้เครื่องทำงานผิดโปรแกรม อีกทั้งยังทำให้เต้ารับและสายไฟสึกหรอเร็วขึ้น โดยเฉพาะเครื่องอบผ้าที่ต้องพึ่งพาเซนเซอร์วัดอุณหภูมิและวงจรควบคุม อาจทำให้ประสิทธิภาพการอบลดลงและสิ้นเปลืองไฟมากกว่าเดิม
4. เครื่องล้างจาน
เครื่องล้างจานรุ่นใหม่มีแผงควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรมตั้งเวลา และโหมดล้างหลากหลายแบบ หากต้องถอดปลั๊กเป็นประจำ การตั้งค่าต่าง ๆ อาจหายไป ทำให้นาฬิกาและโปรแกรมไม่ทำงานตามปกติ ส่งผลต่อความสะดวกในการใช้งานและประสิทธิภาพการล้าง รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการขัดข้องในระยะยาว
5. เครื่องทำน้ำอุ่นและเครื่องทำน้ำร้อนแบบหม้อต้ม
อุปกรณ์ประเภทนี้ต้องรักษาอุณหภูมิของน้ำให้พร้อมใช้งานตลอดวัน หากถอดปลั๊ก น้ำจะเย็นลง และเมื่อกลับมาเปิดเครื่อง ระบบต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อทำให้น้ำร้อนอีกครั้ง ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองไฟและทำให้แท่งทำความร้อนสึกหรอเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้น้ำร้อนไม่สม่ำเสมอและลดอายุการใช้งานของเครื่องอีกด้วย
6. เตาอบ และเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบบิลต์อิน
อุปกรณ์ครัวแบบฝังต้องใช้กระแสไฟสูงและจำเป็นต้องมีแหล่งจ่ายไฟที่เสถียร การถอดปลั๊กหลังใช้งานทุกครั้งนอกจากจะยุ่งยากแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัย หากเต้ารับไม่ได้มาตรฐาน การตัด–ต่อไฟบ่อยครั้งอาจทำให้เกิดความร้อนสะสมจนเสี่ยงไฟลุกหรือสายไฟชำรุด การเสียบปลั๊กคงไว้จะช่วยให้ระบบควบคุมและแผงอิเล็กทรอนิกส์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
จะเห็นได้ว่า สำหรับอุปกรณ์เหล่านี้ การเสียบปลั๊กคงไว้ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าและช่วยให้อุปกรณ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว ที่มา SOHA
  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine