บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง 10 ปัจจัยที่คนออกกำลังกายเป็นประจำ ก็ยังอาจเส้นเลือดสมองตีบได้ กันนะคะ

 

โรคเส้นเลือดสมองตีบ (Ischemic Stroke)

 

 

คือภาวะที่หลอดเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงสมองเกิดการตีบ หรืออุดตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ส่งผลให้เซลล์สมองขาดออกซิเจน และอาจทำให้เกิดความพิการ หรือเสียชีวิตได้ค่ะ  พร้อมแล้วตามมาดูกันเลยค่ะว่า 10 ปัจจัยที่คนออกกำลังกายเป็นประจำ ก็ยังอาจเส้นเลือดสมองตีบได้ จะมีอะไรกันบ้างนะคะ

 

 

10 ปัจจัยที่คนออกกำลังกายเป็นประจำ ก็ยังอาจเส้นเลือดสมองตีบได้

 

 

 

1. ความดันสูงไม่รู้ตัว ความดันสูงแต่ไม่รู้ตัว

คุณอาจเป็น “ความดันสูงแบบเงียบ” โดยไม่เคยรู้ตัวเลย ผู้ป่วย stroke กว่าครึ่งไม่เคยตรวจสุขภาพ หรือไม่รู้ว่าความดันตัวเองสูงเกิน 140/90 มาหลายปีแล้วนั่นเองค่ะ

– ความดันสูงเรื้อรัง ทำให้เยื่อบุผนังหลอดเลือด (endothelium) เสียหายทีละน้อย

– เส้นเลือดเริ่มหนา แข็ง และเปราะ เกิดจังหวะ “ตีบ–แตก–ตัน” ได้ง่ายมาก โดยเฉพาะตอนออกแรงหนัก

– เวลาออกกำลังกาย ความดัน systolic อาจพุ่งสูงมาก ถ้าไม่มีการควบคุม เกิดความเสี่ยง stroke เพิ่มทันที

 

แนะนำ

– วัดความดันทุกเช้า และก่อนออกกำลังกาย

– ถ้ามากกว่า 135/85 ควรเริ่มปรับอาหาร + lifestyle + เสริมด้วยสูตร D3–K2–Magnesium ตามสูตรหมอโอ๊ค

– พบแพทย์ประจำ เพื่อติดตามความดันระยะยาว

 

2. sdLDL และ oxLDL ที่ซ่อนอยู่ คิดว่า “ไขมันในเลือดดี” แต่จริงๆ มี sdLDL ซ่อนอยู่

– sdLDL มีขนาดเล็กและแทรกเยื่อบุหลอดเลือดได้ง่าย → กระตุ้นอักเสบเรื้อรัง

– พบมากในคนดื้ออินซูลิน, น้ำตาลสูง, นอนน้อย, เครียด, และกินหวาน

– เมื่อ sdLDL ถูกออกซิไดซ์ → กลายเป็น oxLDL → เป็นอาหารชั้นดีของเม็ดเลือดขาว → เริ่มกระบวนการอักเสบในหลอดเลือดแบบเงียบ

 

แนะนำ

– ตรวจ sdLDL เพิ่ม หากมีประวัติครอบครัว stroke

– ปรับด้วยอาหารสูตร “ลดดื้ออินซูลิน – ต้านอักเสบ”

– เสริม โอเมก้า 3, D3, NAC, Astaxanthin ช่วยลด sdLDL และ oxLDL

 

3. ดื้ออินซูลิน–น้ำตาลสูง ดื้ออินซูลินแบบไม่รู้ตัว แม้ไม่อ้วน ก็เสี่ยงได้

– ดื้ออินซูลินทำให้ไขมันในเลือดผิดปกติ: ↑ TG, ↓ HDL, ↑ sdLDL

– น้ำตาลจะพุ่งและตกง่าย → ทำร้ายหลอดเลือด + สมองขาดพลังงาน

– อินซูลินสูง = อักเสบทั้งระบบ + เส้นเลือดแข็งตัวแบบไม่รู้ตัว

 

แนะนำ

– ตรวจค่า fasting insulin, HOMA-IR

– เสริมสูตร: แมกนีเซียมไกลซิเนต + อินนูลิน + ชาเขียวมัทฉะ + D3–K2

– ออกกำลังกายเน้นเวทเทรนนิ่ง + พักผ่อนอย่างเพียงพอ

 

4. นอนไม่พอ เครียดเรื้อรัง เครียด

– นอนไม่พอ = วงจรทำลายหลอดเลือดสมอง

– เครียด → คอร์ติซอลสูงเรื้อรัง → ความดันขึ้นโดยไม่รู้ตัว

– นอนไม่พอ → ลดการซ่อมแซม endothelium → เกิด micro-tear (รอยแตกลึกระดับเซลล์)

วงจรนี้ส่งผลให้เกิด plaque buildup + เพิ่มโอกาสลิ่มเลือด

 

แนะนำ

– นอนให้ได้ 7–8 ชั่วโมง/คืน (มีคุณภาพ)

– เสริม GABA, แมกนีเซียม, L-theanine, Passionflower

– งด Blue light และ ใส่ แว่นตาตัดแสงสีฟ้าก่อนนอน, ฝึก breathing 4-7-8

 

5. กิน “ของหวาน–ขนมปัง–น้ำอัดลม” มากกว่าน้ำเปล่า

– น้ำตาลพุ่งไว → กระตุ้น AGEs (Advanced Glycation End products) → ทำลายเยื่อบุเส้นเลือด

– น้ำตาลสูง → เปลี่ยน LDL → oxLDL ง่ายขึ้น

– ฟรุกโตสสะสมในตับ → TG สูง + d-LDL เพิ่ม

– อินซูลินสูง → อักเสบเรื้อรังทั่วร่างกาย → เส้นเลือดเปราะแตกง่าย

 

แนะนำ

– งดน้ำหวานทุกชนิด (รวมถึงกาแฟ 3-in-1)

– ดื่มน้ำเปล่า หรือมัทฉะไม่ใส่น้ำตาลแทน

– เสริมด้วยใยอาหารจาก Sunfiber, อินนูลิน, Psyllium Husk

 

6. ดื่มน้ำหวานมากกว่าน้ำเปล่า

ทำไมดื่มน้ำหวานประจำถึงเพิ่มความเสี่ยง Stroke?

1. น้ำตาลสูง → ดื้ออินซูลิน → เพิ่ม sdLDL ที่แทรกหลอดเลือดได้ง่าย

2. เพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ (TG) → ทำลายผนังหลอดเลือด + เสี่ยงตับอ่อนอักเสบ

3. น้ำตาลที่สูงนาน ๆ ทำลายผนังหลอดเลือดฝอย ทั่วร่างกายโดยไม่มีอาการ

4. กระตุ้นการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย → หลอดเลือดสมองอักเสบแบบไม่มีสัญญาณเตือน

5. ยิ่งดื่มหลังออกกำลังกาย → น้ำตาลพุ่งเร็ว เพราะหลอดเลือดเปิดรับทันทีหลังเคลื่อนไหว

 

7. ใช้ยาฮอร์โมนโดยไม่ติดตาม กินยาฮอร์โมนเพศหญิง (โดยเฉพาะแบบกินประจำ)

“ฮอร์โมนเพศหญิง” เช่น ยาคุม, HRT (hormone replacement therapy) อาจเพิ่มความเสี่ยงเส้นเลือดอุดตันในผู้หญิงบางคน ความเสี่ยงของยาฮอร์โมน

1. ฮอร์โมนบางชนิดเพิ่มการแข็งตัวของเลือด → เสี่ยงลิ่มเลือดอุดตัน

2. เพิ่ม CRP (ตัวอักเสบในหลอดเลือด) → กระตุ้นเส้นเลือดสมองอักเสบ

3. ส่งผลต่อไขมันในเลือด → LDL ขึ้น, HDL ลง (ขึ้นกับสูตร)

4. ยิ่งใช้ร่วมกับบุหรี่หรืออ้วน → ความเสี่ยงเพิ่มทวีคูณ

5. ผู้หญิงวัยทองที่ใช้ HRT ควรได้รับการติดตามระดับไขมัน และ coagulant factor

 

8. หยุดยาลดความดันเอง

ไม่กินยาที่แพทย์จ่าย โดยเฉพาะ “ยาลดความดัน” อันตรายของการหยุดยาความดัน

1. แรงดันภายในเส้นเลือดสูงขึ้นทุกวัน โดยที่เราไม่รู้ตัว

2. ทำให้เยื่อบุหลอดเลือดเสื่อมไว → oxLDL เข้าแทรกง่ายขึ้น

3. หัวใจต้องบีบแรงขึ้น → หัวใจโต หลอดเลือดแข็ง

4. ความดันเหวี่ยงตอนเช้า (Morning surge) อันตรายมาก → เป็นจังหวะที่เส้นเลือดแตกได้

5. หยุดยาเองเท่ากับละเลย “ตัวยืดอายุ” ที่ถูกคิดค้นมาแล้ว

 

9. ขาด D3 & Omega-3

ขาดวิตามิน D3 & โอเมก้า 3   เสี่ยงเส้นเลือดเสื่อมแบบเงียบ ๆ

 

ทำไมการขาด D3 & Omega-3 ทำให้เส้นเลือดเสื่อม?

1. D3 ขาด → แคลเซียมไม่เข้าสู่กระดูก แต่สะสมในหลอดเลือดแทน

2. D3 ขาด → เสี่ยง endothelial dysfunction (เยื่อบุเสื่อม)

3. โอเมก้า 3 ต่ำ → เพิ่มการอักเสบทั่วร่างกาย

4. โอเมก้า 3 ต่ำ → HDL ทำงานไม่ดี LDL ถูกออกซิไดซ์ง่ายขึ้น

5. สมองขาด DHA → เพิ่มความเสี่ยง stroke ได้โดยไม่รู้ตัว

 

10. เหล้า บุหรี่ อาหารทอด + สารพิษรอบตัว

ปัจจัยซ่อนร้าย เหล้า บุหรี่ สารพิษ อาหารทอด สิ่งที่คนมองข้ามบ่อย แต่ทำลายหลอดเลือดโดยตรง

1. เหล้า: เพิ่มไขมันในตับ → เพิ่ม TG → ทำให้ตับอ่อนอักเสบและหลอดเลือดเสื่อม

2. บุหรี่: เพิ่มอนุมูลอิสระมหาศาล → LDL กลายเป็น oxLDL ทันที

3. ของทอด & ไขมันทรานส์: เปลี่ยนผนังหลอดเลือดให้แข็ง + สะสม plaque

4. PM2.5, สารพิษในอาหาร: เข้าทางระบบหายใจ + กินสะสม → อักเสบเรื้อรังทั่วร่างกาย

5. การนอนไม่พอ: ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง → เพิ่มความดันโดยไม่รู้ตัว