จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอ Page เฟสบุ๊ก เต็มไปหมดเลยใช่ไหมคะ จัดเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่ผู้คนนิยมใช้กันมาก เนื่องจากเป็นเครื่องมือทำการตลาดที่ราคาถูกที่สุดเลยก็ว่าได้นะคะ วันนี้ใครกำลังมองหาวิธีสร้าง Page บน Facebook ให้น่าสนใจ ให้ปังปัง จะต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ

 

 

เพราะบทความนี้เราได้รวบรวมเคล็ดลับเด็ดๆ ในการทำ Page แบบมืออาชีพมาฝากกันแล้วค่ะ สำหรับเคล็ดลับ วิธีสร้าง Page บน Facebook ให้น่าสนใจที่ได้นำมาฝากกันครั้งนี้จะเผยกลยุทธ์ ตั้งแต่การสร้าง Page การใส่ข้อมูลต่างๆ และการอัปเดตคอนเทนต์ ซึ่งทั้งหมดนี้ ฟรีค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการยิงแอดโฆษณาสักบาทเดียวเลยค่ะ พร้อมแล้วมาเรียนรู้ไปพร้อมกันเลยนะคะ

7 วิธีสร้าง Page บน  Facebook ให้น่าสนใจ

 

 

1. การตั้งชื่อ Page และ URL ให้น่าจดจำและโดดเด่น

 

 

การตั้งชื่อ Page นั้น จำเป็นจะต้องมี “ คีย์เวิร์ด “ และต้องสามารถจดจำได้ง่ายเลยนะคะ เพราะชื่อเป็นสิ่งแรก ที่ทำให้ผู้คนรู้ว่า Page ของคุณเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร หรือต้องการจะขายอะไร ยกตัวอย่างเช่น เพจท่องเที่ยวจะตั้งชื่อธรรมดา ๆ ก็คงจะไม่สะดุดตา ต้องอาศัยใส่ความครีเอททีฟเพิ่มเติมเข้าไป ยกตัวอย่าง เช่น อาสา พาไปหลง, ผมม้า พาเที่ยว และ Journey (เจอนี่) มา เป็นต้นนะคะ หรือใครขายของอย่างพวกเสื้อผ้าก็อาจจะตั้งต่อท้ายด้วย เสื้อผ้าเกาหลี เสื้อผ้ามือสอง เพราะคนส่วนใหญ่จะค้นหาจากคำคีย์เวิร์ดเหล่านี้กันนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นเมื่อใส่ คีย์เวิร์ด เหล่านี้เข้าไปแล้วกลุ่มลูกค้าก็จะสามารถมองเห็น Page มากขึ้นแน่นเลยค่ะ

เช่นเดียวกันกับ URL เพจ ซึ่งเฟสบุ๊กจะแสดง www.facebook.com/username ซึ่งหากมีคีย์เวิร์ดที่กระชับ และเป็นคำที่คนมักค้นหากัน จะมองเห็นได้ง่ายกว่าและมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้มากกว่า เพราะติดทั้งอันดับ Google ไปในตัวด้วยค่ะ

 

2. About คือ การขยายความเป็นตัวตนให้ลึกขึ้น

 

 

เมื่อมีคนคลิกเข้ามายับหน้า Page แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นที่สังเกตก็คือ About นั่นเองค่ะ โดยเฉพาะ Intro คือส่วนที่จะบอกให้คนแปลกหน้าที่เข้ามาได้ทำความเข้าใจว่า คุณคือใคร หรือหากทํา Facebook Page ธุรกิจ อาจจะใช้สโลแกนทางการตลาดที่สั้น กระชับและเป็นที่จดจำนั่นเองค่ะ เมื่อเราสามารถหาความสนใจของกลุ่มเป้าหมายตรงกันได้ ก็จะส่งผลให้เกิดการกดไลค์ และติดตามเพจนั่นเองค่ะ

 

3. ต้องใส่ใจเรื่องความสวยงรม เพื่อเพิ่มความสะดุดตา

 

 

อีกหนึ่งวิธีสร้าง Page บน Facebook ให้น่าสนใจ ที่ไม่ควรมองข้ามนั่นก็ คือภาพลักษณ์ของ Page นะคะ ปัจจุบัน Mood&Tone ก็เป็นตัวตัดสินของกลุ่มเป้าหมายค่ะ เพราะจะมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และดูเป็นมืออาชีพนั่นเองค่ะ ทั้งนี้เรื่องรูปโปรไฟล์และภาพหน้าปก (Cover) นั้น ก็ควรจะมีความโดดเด่น บ่งบอกเอกลักษณ์ของ Page และสามารถทำให้เข้าใจได้เลยทันที ว่าเกี่ยวกับอะไร สำหรับภาพที่ใช้โพสต์และภาพโปรไฟล์เหล่านี้ ควรใช้ขนาดตาม pixel ที่ทาง Facebook ระบุมาเลยนะคะ เพื่อให้ขนาดพอดี เห็นครบทุกรายละเอียดบนทุกแพลตฟอร์มนั่นเองค่ะ

 

4. การตั้งชื่อ Page เพื่อเพิ่มโอกาสการถูกแชร์เยอะๆ

 

 

คอนเทนต์ เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของวิธีสร้าง Page บน Facebook ให้น่าสนใจเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยวิธีการเขียนนั้นจะแตกต่าง กับบนความบนกระทู้ทั่วไปนะคะ เพราะผู้คนไม่นิยมอ่านเนื้อหายาวเหยียดเป็นหน้ากระดาษ แต่มักถูกใจข้อความสั้นกระชับ เข้าใจง่าย และน่าติดตามจนต้องกด Read more… นั่นเองค่ะ ซึ่งจะสามารถดึง Traffic บน google เข้ามายังเพจได้อีกด้วยค่ะ โดยนักเขียนต้องจัดเรียงคอนเทนต์ให้สวยงามเว้นวรรคตอน และเครื่องหมายที่ดูสะอาดตา พร้อมกับภาพประกอบที่สวยงามค่ะ

 

5. ต้องโพสต์อย่างสม่ำเสมอ และกำหนดความถี่

 

 

หาก Page ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นระยะเวลานาน จะทำให้กลุ่มเป้าหมายสงสัยว่ายังอยู่ดีหรือไม่ ซึ่งหากเป็นสินค้าและบริการ จะมีการสงสัยได้ว่า จะส่งสินค้าอยู่หรือไม่ ในทางกลับกันหากโพสต์บ่อยเกินไป ก็อาจจะสร้างความรำคาญได้เช่นกันนะคะ โดยเนื้อหาอาจจะไม่ใช่สินค้าเพียงอย่างเดียว แต่อาจเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันนั่นเองค่ะ ซึ่งสิ่งสำคัญที่อยากเน้นย้ำก็คือ การใส่คีย์เวิร์ดในแต่ละโพสต์ เพื่อให้มีการค้นหาง่ายขึ้นจะแท็กสินค้า หรือคำที่เกี่ยวข้องก็ดี เพราะอัลกอริทึ่มของ Facebook จะตรวจจับเพจของคุณได้ดีขึ้นด้วยนั่นเองค่ะ

 

6. การจัดกิจกรรม

 

 

อีกหนึ่งวิธีสร้าง Page บน Facebook ให้น่าสนใจ ที่น่าจับตามอง คือ การสร้างกิจกรรมโปรโมท เพื่อดึง Traffic ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการแจกรางวัล และเข้าร่วมฟรี ยกตัวอย่างเช่น “ประเทศในฝันของคุณคือประเทศไหน?” กดไลก์แชร์แชร์หน้าโปรไฟล์พร้อมเปิดเป็น Pubic Status คำตอบใดโดนใจรับไปเลยที่พักโรงแรม 5 ดาว เป็นต้นค่ะ  และการทำกิจกรรมในPage นั้น นอกจากจะได้ Traffic แล้วคุณยังจะได้รับข้อมูลมาวิเคราะห์ต่ออีกด้วยนะคะ ว่าประเทศที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบเป็นประเทศใด ต่อยอดบริการหรือสินค้าในอนาคตได้อีกด้วยค่ะ

 

7. การไลฟ์สด

 

 

นาทีนี้แพลตฟอร์มโซเชียลทั้งหลายคงไม่มีอะไรมาแรงไปกว่าการไลฟ์สดอีกแล้วล่ะค่ะ เพราะผู้ชมนั้นได้มีส่วนร่วมด้วยนั่นเองค่ะ โดยเฉพาะการขายสินค้าจะช่วยดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้ เพราะสามารถเลือกชมสินค้าจริงที่ต้องการได้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสสร้างฐานลูกค้าหน้าใหม่อีกด้วยค่ะ