ช่วงนี้ ค่าฝุ่น PM2.5 สูงมากๆ ครอบคลุมเกือบทั่วทุกภาคของเมืองไทยเลยนะคะ เพราะฉะนั้นมีผลต่อสุขภาพทุกคนแน่นอนเลยค่ะ ต้องระวังป่วยเป็นภูมิแพ้อากาศกันได้เลยนะคะ กับภาวะมลพิษทางอากาศที่ต้องเผชิญกันในช่วงเวลานี้ หลายพื้นที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมากเลยค่ะ ตกอยู่ในภาวะจมใต้ฝุ่นกันเลยทีเดียวค่ะ โดยเฉพาะภาคกลาง ภาคเหนือ และอีสาน ต้องระวังตัวกันให้ดีนะคะ อาจจะทำให้ป่วย มีอาการภูมิแพ้ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม และโรคร้ายอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกันค่ะ มาเช็กกันดีกว่าค่ะว่า พื้นที่ไหนบ้างที่ควรต้องระวัง พร้อมชี้ 7 อาการบ่งบอกว่า คุณโดนฝุ่นพิษจิ๋ว PM 2.5 ทำร้ายเข้าให้แล้วนะคะ

 

 

 

อันดับแรกเลย เรามาดู วิธีดูดัชนีคุณภาพอากาศกันก่อนนะคะ ว่าสูงแค่ไหนถึงจะมีอันตรายต่อสุขภาพกันค่ะ

โดยกรมควบคุมมลพิษ ดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) จะเป็นการรายงาน ข้อมูลคุณภาพอากาศ เพื่อเผยแพร่บุคคลทั่วไป ให้ได้รับทราบถึงสถานการณ์มลพิษทางอากาศในแต่ละพื้นที่ว่าอยู่ในระดับใด มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยหรือไม่ ดัชนีคุณภาพอากาศ 1 ค่า ใช้เป็นตัวแทนค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศ 6 ชนิด ได้แก่

 

 

1. ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)
2. ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10)
3. ก๊าซโอโซน (O3)
4. ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO)
5. ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2)
6. ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2)

เกณฑ์ของดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย

 

 

AQI 0-25 = คุณภาพอากาศดีมาก
เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง และการท่องเที่ยว

AQI 26-50 = คุณภาพอากาศดี
สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งและการท่องเที่ยวได้ตามปกติ

AQI 51-100 = คุณภาพปานกลาง
– ประชาชนทั่วไป สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ
– ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

AQI 101-200 = เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
– ประชาชนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น– ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์

AQI 201 ขึ้นไป = มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ทุกคนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์

 

ต่อไปเรามาดูกันต่อค่ะ ว่าหากเราโดนพิษของฝุ่น PM 2.5 เข้าไปแล้วจะส่งผลอะไรกับร่างกายกันบ้าง หรือจะมีอาการอย่างไรบ้างนะคะ

 

อาการที่แสดงว่าโดนพิษจากฝุ่น PM2.5

 

 

1. อาการภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ

2. ระคายเคืองตา ตาแดง

3. คัดจมูก น้ำมูกไหล

4. ไอ

5. แน่นหน้าอก

6. หายใจไม่สะดวก

7. คันผิวหนัง มีผื่นคัน

รู้ไหมคะ ว่า 7 อาการเบื้องต้นด้านบนนี้ เป็นตัวบ่งบอกได้ว่าฝุ่นพิษ PM 2.5 นั้น ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราเข้าแล้วนะคะ

ส่วนผลกระทบระยะยาวได้แก่

– จะทำให้การทำงานของปอดแย่ลง
– เสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และ โรคหลอดเลือดสมอง
– เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปอด ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัย

 

 

จะเห็นได้ว่า PM 2.5 นั้น ส่งผลกระทบกับสุขภาพของผู้คนเป็นอย่างมากเลยนะคะ เพราะฉะนั้นเราทุกคนต้องหมั่นดูแลตัวเองและคนที่เรารัก รักษาสุขภาพกันให้มากยิ่งขึ้นนะคะ สำหรับใครที่มีอาการแพ้อากาศเข้าให้แล้ว ก็สามารถทานยาแก้แพ้ ช่วยบรรเทาอาการได้นะคะ “ยาแก้แพ้ ไม่ใช่ยาอันตราย” แต่ควรใช้ให้ถูกต้อง สามารถปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทกครั้ง จะเป็นการดีที่สุดค่ะ