บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง ระดับความเข้มข้นของหัวน้ำหอมกันนะคะ ในการเลือกซื้อน้ำนั้นอย่างแรกที่ต้องดูเลยก็คือ ความเข้มข้นของน้ำหอมนี่แหละค่ะ ยกตัวเช่น Eau de Parfum, Eau de Toilette, Eau de Cologne และสำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกน้ำหอมแบบไหนดี พร้อมแล้วมาดูไปพร้อมกันได้เลยค่ะ
5 ระดับความเข้มข้นของหัวน้ำหอม
1. Parfum หรือ Perfume
เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นสูงสุด มีหัวน้ำหอมถึง 20-40% และติดทน 8-10 ชั่วโมง เป็นน้ำหอมที่ติดทนนานและราคาแพงที่สุดในน้ำหอมทุกประเภท เพราะมีหัวน้ำหอมเยอะ เหมาะกับคนที่ผิว Sensitive มากกว่าน้ำหอมประเภทอื่น เพราะมีปริมาณแอลกอฮอล์น้อย
2. Eau de Parfum (EDP)
เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นรองจาก Parfum มีปริมาณหัวน้ำหอม 15-20% ติดทน 7-8 ชั่วโมง ราคาถูกกว่า Parfum และกลิ่นน้ำหอมติดทนนานน้อยกว่า เพราะมีแอลกอฮอล์มากกว่า ใช้งานได้ทุกวัน และเหมาะกับคนที่ผิว Sensitive ด้วยเช่นกันค่ะ
3. Eau de Toilette (EDT)
เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นอยู่ที่ 5-15% ราคาถูกกว่า Eau de Perfum และเป็นน้ำหอมประเภทที่คนนิยมที่สุด กลิ่นน้ำหอมติดทนนานประมาณ 4-6 ชั่วโมง บางคนจะเลือกใช้ตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนจะใช้เป็น Eau de Parfum
4. Eau de Cologne (EDC)
เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นน้อยสุดในทุกประเภท มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์สูงและมีน้ำหอมเพียง 2-4% เท่านั้น ทำให้ราคาค่อนข้างถูกและได้ปริมาณที่เยอะ กลิ่นน้ำหอมติดทนนานประมาณ 3-4 ชั่วโมง
5. Eau Fraiche
คล้ายกับ Eau de Cologne ตรงที่กลิ่นน้ำหอมจะอยู่ได้ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่มีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมที่น้อยกว่า มีแค่ 1-3% เท่านั้น ไม่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์เพราะใช้น้ำแทน
และที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งก็คือ อุณหภูมิก็มีผลต่อการใช้น้ำหอมนะคะ เพราะฉะนั้นควรเลือกน้ำหอมให้เหมาะสมกับฤดูกาลนั้น ๆ ด้วยค่ะ แต่ปกติน้ำหอมส่วนใหญ่จะมี Collection ที่เหมาะกับแต่ละฤดูออกมาอยู่แล้วค่ะ เช่น ถ้าเป็นหน้าร้อนมักจะเป็นน้ำหอม Eau de Toilette (EDT) ที่สกัดจากดอกไม้และผลไม้ ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น เพราะถ้าเป็น Eau de Parfum (EDP) อาจกลิ่นแรงเกินไปนั่นเองค่ะ