บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับ 10 อันดับทุ่งดอกไม้ญี่ปุ่นแสนสวย ต้องมาเยือนให้ได้กันนะคะ การชมทุ่งดอกไม้แสนสวยหลากสี เป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะมากับเพื่อน คนรัก หรือครอบครัว สามารถพาผู้สูงอายุหรือเด็กๆ มาเที่ยวได้ครบทุกวัยเลยนะคะ รับรองว่าได้รูปสวยๆ กลับไปกันอย่างแน่นอนค่ะ แต่ด้วยความที่ญี่ปุ่นมีถึง 4 ฤดู แต่ละฤดูจึงมีดอกไม้ที่ผลิบานแตกต่างกันไป บางแห่งชมได้แค่บางเดือนเท่านั้นนะคะ แต่บางแห่งก็สามารถชมได้ตลอดทั้งปีกันเลยค่ะ พร้อมแล้วตามมาดูกันเลยค่ะ ว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง
10 อันดับทุ่งดอกไม้ญี่ปุ่นแสนสวย ต้องมาเยือนให้ได้
1. เทศกาล ฟูจิชิบะซากุระ ที่ จังหวัดยามานาชิ
เทศกาล ฟูจิชิบะซากุระ (Fuji Shibazakura Festival) จะจัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่ ดอกชิบะซากุระ หรือ พิงค์มอส (Pink Moss) จำนวนกว่า 800,000 ต้น ผลิบานพร้อมกัน จนเหมือนพื้นที่จัดงานถูกปูด้วยพรมดอกไม้ และยังมีฉากหลังเป็นวิวของภูเขาไฟฟูจิที่ตั้งตระหง่าน สวยจนไม่อยากจะละสายตา นอกจากนี้ภายในยังมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูป มีจุดแช่เท้าชมวิว รวมถึงร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก ให้ช้อปปิ้งกันด้วย
2. ฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค ที่ จังหวัดอิบารากิ
ฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค (Hitachi Seaside Park) เป็น ทุ่งดอกไม้ ญี่ปุ่น ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่ง ในเมืองฮิตาชินากะ (Hitachinaka) แห่งจังหวัดอิบารากิ ห่างจากโตเกียวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 130 กิโลเมตร พื้นที่กว้างขวางมาก มีการแบ่งโซนเป็นสวนต่างๆ มีดอกไม้ให้ชมตลอดทั้งปี โดยจะสลับสับเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ ช่วงที่จัดว่าเป็นไฮไลต์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากสุดๆ ก็คือ
– ทุ่งดอกเนโมฟีลา ดอกไม้สีฟ้า เข้าชมได้ตั้งแต่เดือนเมษายน – พฤษภาคม และ
– ทุ่งโคเคีย พุ่มกลมๆ เล็กๆ ชมได้ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม – ตุลาคม
เนื่องจากพื้นที่ของสวนมีขนาดใหญ่มากๆ หากใครไม่อยากเดินสามารถนั่งรถรางชมรอบๆ สวนได้นะคะ มีบริการตั๋วแบบ 1 DAY จะนั่งยาวไปเลย 40 นาทีจนจบรอบ หรือจะขึ้นลงตามป้ายต่างๆ ก็ได้ ไฮไลต์เด็ดอยู่ที่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมนะคะ จะมีการแสดง Light Up Kochia ในช่วงค่ำด้วยค่ะ
ช่วงเวลาแนะนำในการชม
– กุมภาพันธ์ – กลางเดือนมีนาคม : ดอกบ๊วย
– ปลายเดือนมีนาคม – กลางเดือนเมษายน : ดอกนาร์ซิสซัส, ดอกแดฟโฟดิล
– กลาง – ปลายเดือนเมษายน : ดอกทิวลิป
– เมษายน – พฤษภาคม : ดอกเนโมฟีลา
– ปลายเดือนพฤษภาคม – ต้นเดือนมิถุนายน : ดอกกุหลาบ, ดอกป๊อปปี้, ดอกลินนาเรีย
– กลางเดือนกรกฏาคม – กลางเดือนตุลาคม : ดอกซินเนีย
– กลางเดือนกรกฎาคม – ปลายเดือนกันยายน : พุ่มโคเคียสีเขียว
– ปลายเดือนกันยายน – กลางเดือนตุลาคม : พุ่มโคเคียสีแดงสด
– ปลายเดือนตุลาคม : พุ่มโคเคียสีเหลืองน้ำตาล
– ตุลาคม : ดอกคอสมอส
– ต้น – กลางเดือนพฤศจิกายน : ดอกกุหลาบ
– ปลายเดือนธันวาคม – ต้นเดือนมกราคม : ดอกไอซ์ทิวลิป
3. สวนซากุระ ฟูรูซาโตะ ที่ จังหวัดชิบะ
ที่นี่คือสวนดอกไม้แห่งเมืองซากุระ ในจังหวัดชิบะ โดยดอกไม้หลักของที่นี่คือ ดอกทิวลิปหลากสี ที่เรียงรายอยู่เป็นแสนต้น จากกว่าร้อยสายพันธุ์ และยังมีกังหันลมอันใหญ่สไตล์ดั้งเดิมของเนเธอร์แลนด์ที่เรียกว่า Liefde ตั้งโดดเด่นเป็นสง่า ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินเล่นกลางทุ่งดอกไม้ในแถบยุโรป บริเวณโดยรอบถูกโอบล้อมด้วยทะเลสาบอินบะนุมะ (Lake Inbanuma) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัด ทัศนียภาพสวยงาม มองแล้วสบายตาสบายใจสุดๆ ทั้งยังมีกิจกรรมน่ารักๆ อย่าง การเช่าชุดประจำชาติของเนเธอร์แลนด์, การเก็บดอกทิวลิปกลับบ้าน และการปั่นจักรบานชมสวน เป็นต้น
4. ฟาร์มโทมิตะ ที่ เมืองฟุราโนะ จังหวัดฮอกไกโด
ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm) ตั้งอยู่ในเมืองฟุราโนะ แห่งฮอกไกโด ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1903 มีชื่อเสียงโด่งดังในการปลูกดอกลาเวนเดอร์ในช่วงฤดูร้อน ขึ้นชื่อว่าเป็น “จุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดของเมือง” ที่นี่เป็นหนึ่งใน ทุ่งดอกไม้ ญี่ปุ่น ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากัน เพราะมีมุมเด็ดที่สามารถมองเห็นทุ่งดอกไม้พร้อมกับฉากหลังที่เป็นภูเขาโทกะชิ และนอกจากดอกลาเวนเดอร์แล้ว ก็ยังมีสวนดอกไม้ชนิดอื่นๆ ที่จะผลัดเปลี่ยนกันออกดอกให้ได้ชม รวมทั้งมีโซนต่างๆ เช่น โซนแกลอรี่ โซนจำหน่ายของฝาก ของที่ทำจากดอกลาเวนเดอร์ คาเฟ่ที่มีขนม เครื่องดื่ม ไอศกรีม และบ้านดอกไม้แห้ง ผลงานของ Len Alkemade นักจัดดอกไม้ชาวฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่จัดแสดงดอกไม้แห้งที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย
ช่วงเวลาแนะนำในการชม
– มิถุนายน : ดอกป๊อปปี้ไอซ์แลนด์, ดอกป๊อปปี้ตะวันออก, Chives, ดอกลูปิ และไม้ยืนต้นอื่นๆ
– กรกฏาคม : ดอกป๊อปปี้สีแดง สีขาว สีชมพู และดอกไม้หลากสีสันกระจายตัวอยู่ในป่าบนภูเขา
– กลางเดือนกรกฎาคม – กลางเดือนสิงหาคม : ดอกลาเวนเดอร์
– สิงหาคม – กันยายน : ดอกทานตะวัน, ดอกซัลเวีย และคอสมอส
5. สวนคาวาจิ ฟูจิ – เมืองคิตะ จังหวัดฟุกุโอกะ
สวนคาวาจิ ฟูจิ (Kawachi Fuji Garden) เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ.1978 มีพื้นที่ครอบคลุมประมาณ 10,000 ตารางเมตร เกิดจากความปรารถนาในวัยเด็กของ Masao Higuchi ที่อยากจะสร้าง สวนดอกวิสทีเรีย หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า ดอกฟูจิ ให้คนทั่วไปสามารถเข้ามาชมได้ ซึ่งปัจจุบันสวนแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดฟุกุโอกะ และยังถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 34 สถานที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น โดย CNN อเมริกาอีกด้วย จุดเด่นคือ อุโมงค์ดอกวิสทีเรีย ระยะทาง 110 เมตร ที่มีดอกวิสทีเรียเฉดสีต่างๆ มากถึง 22 สายพันธุ์ ห้อยระย้าส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ปลายอุโมงค์มีต้นวิสทีเรียเก่าแก่อายุนับร้อยปีตั้งสวยงามอยู่เพียงต้นเดียว เป็นอีกหนึ่ง ทุ่งดอกไม้ในต่างประเทศ ที่ไม่ควรพลาด ที่นี่จะเปิดให้ชมเฉพาะบางช่วงเท่านั้น และต้องซื้อตั๋วล่วงหน้า ไม่มีจำหน่ายหน้างานนะคะ ช่วงเวลาแนะนำในการชม : ปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม
6. เฮาส์เทนบอช ที่ จังหวัดนางาซากิ
เฮาส์เทนบอช (Huis Ten Bosch) เป็นธีมปาร์คขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชู ตั้งอยู่ในจังหวัดนางาซากิ จุดเด่นของที่นี่คือ สถาปัตยกรรม การตกแต่ง รวมถึงสวนที่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ยุโรป จนหลายคนขนานนามให้ว่าเป็น “หมู่บ้านฮอลแลนด์” ภายในมีสวนดอกไม้สวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปกันตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะได้ชมดอกทิวลิปกว่า 1 ล้านดอก สีสันสวยงามตระการตา และยังมีดอกไฮเดรนเยีย กุหลาบ ทานตะวัน และอีกมากมาย มีจุดถ่ายรูปน่ารักๆ มีการแสดงโชว์ ตอนกลางคืนก็จะมีการประดับไฟ และการแสดงดอกไม้ไฟสุดอลังการอีกด้วย
ช่วงเวลาแนะนำในการชม
– ต้นเดือนกุมภาพันธ์ – ต้นเดือนเมษายน : ดอกทิวลิป
– ต้น – ปลายเดือนพฤษภาคม : กุหลาบ
– ปลายเดือนพฤษภาคม – ปลายเดือนมิถุนายน : ไฮเดรนเยีย
– ปลายเดือนกรกฎาคม – ต้นเดือนสิงหาคม : ทานตะวัน
7. สวนดอกไม้คูจู ที่ จังหวัดโออิตะ
ส่วนใครที่อยากไปเที่ยว ทุ่งดอกไม้ในต่างประเทศ ที่มีดอกไม้เยอะๆ หลายสายพันธุ์ แนะนำให้มาที่ สวนดอกไม้คูจู (Kuju Hana Koen) ในจังหวัดโออิตะ ที่นี่มีพื้นที่กว่า 130 ไร่ และมีดอกไม้รวมกว่า 5 ล้านดอก จาก 500 สายพันธุ์ เช่น ดอกลาเวนเดอร์ ดอกซัลเวีย ดอกพิงค์มอส ดอกทิวลิป ดอกทานตะวัน และดอกป๊อปปี้ แข่งกันอวดโฉมให้ชื่นชมความสวยงามตลอดทั้งปี ยกเว้นในฤดูหนาวช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ ที่ทางสวนจะปิดทำการ หากวันไหนอากาศดีๆ จะมองเห็นวิวของเทือกเขาคูจูที่อยู่ด้านหลังได้ด้วยค่ะ
ช่วงเวลาแนะนำในการชม
– กลางเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม : ดอกทิวลิป
– ปลายเดือนมิถุนายน – กลางเดือนกรกฎาคม : ดอกลาเวนเดอร์
– กลางเดือนกรกฏาคม – ปลายเดือนกรกฏาคม : ดอกไฮเดรนเยีย
– ต้นเดือนตุลาคม – ปลายเดือนตุลาคม : ดอกคอสมอส
8. สวนดอกไม้ทตโตริ ฮานะไคโร ที่ จังหวัดทตโตริ
สวนดอกไม้ทตโตริ ฮานะไคโร (Tottori Hanakairo Flower Park) เป็น ทุ่งดอกไม้ ญี่ปุ่น ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ เพราะเขาไม่ได้แค่ปลูกดอกไม้เยอะ หรือจัดสวนสวยเท่านั้น แต่ยังมีไฮไลต์เด็ดหลายอย่าง Circular Walkway ทางเดินสกายวอล์กรอบสวน ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ลานดอกไม้ลอยน้ำ และโดมดอกไม้ที่เป็นเรือนกระจกขนาดใหญ่ สูง 21 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 50 เมตร ภายในมีการจัดตกแต่งดอกไม้อย่างสวยงาม มีมุมกิจกรรมประดิษฐ์ของจากดอกไม้แห้ง นอกจากนี้ยังมี Flower Illumination หรือการประดับไฟผสมผสานกับเหล่าดอกไม้นานาพันธุ์ในช่วงฤดูหนาว ที่จะจัดขึ้นในตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนมกราคมของทุกปี ซึ่งจะให้บรรยากาศสวยงามแตกต่างจากตอนกลางวันอีกด้วย
ช่วงเวลาแนะนำในการชม : เดือนเมษายน – เดือนพฤศจิกายน
9. สวนฮิสึจิยามะ ที่ จังหวัดไซตะมะ
เดินเข้ามาใน สวนฮิสึจิยามะ (Hitsujiyama Park) ทุ่งดอกไม้ ญี่ปุ่น ในจังหวัดไซตามะแห่งนี้แล้วเหมือนคนกำลังมีความรัก เพราะมองไปทางไหนก็เป็นสีชมพูไปหมด ในช่วงฤดูใบไม้ผลิทั่วพื้นที่กว่า 17,600 ตารางเมตร ถูกปกคลุมไปด้วย ดอกพิงค์มอส ที่มีทั้งสีชมพู สีม่วง และสีขาว มากถึง 400,000 ดอก จาก 9 สายพันธุ์ ซึ่งถือเป็นแหล่งปลูกพิงค์มอสที่ใหญ่ที่สุดในแถบคันโตเลยทีเดียว ด้านหลังจะมองเห็นวิวของภูเขาบูโกะ สัญลักษณ์ของเมืองจิจิบุ ภายในสวนก็ยังมีดอกไม้ชนิดอื่นๆ รวมถึงฟาร์มแกะเล็กๆ และร้านขายของกิน ของฝากชื่อดังจากเมืองจิจิบุด้วย
ช่วงเวลาแนะนำในการชม : กลางเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม
10. Nasu Flower World ที่ จังหวัดโทจิงิ
สวน Nasu Flower World เหมือนเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ พร้อมวิวสวยๆ ของ เทือกเขานาสุ ในจังหวัดโทจิงิที่อยู่ด้านหลัง ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ดอกทิวลิปกว่า 220,000 ดอก ผลิบานพร้อมกัน ถ่ายรูปออกมาสวยงามอลังการมาก นอกจากนี้ยังมีดอกกุหลาบ ดอกสร้อยไก่ ดอกบลูซัลเวีย ดอกเนโมฟีลา ดอกเดย์ลิลลี่หรือดอกไม้จีน และดอกคอสมอสอีกด้วย มาชมกันได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ
ช่วงเวลาแนะนำในการชม : ตลอดทั้งปี (ดอกทิวลิปจะบานประมาณช่วงกลางเดือนพฤษภาคม)