บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง 10 ต้นไม้ทนแดด ร้อนแค่ไหนก็ไม่ตายง่ายๆ กันนะคะ สำหรับอากาศที่ร้อนมากๆแบบบ้านเรานั้น ต้นไม้บางชนิดที่ไม่ทนความร้อนและแสงแดดอาจจะแห้ง เหี่ยวเฉา จนในที่สุดก็ล้มตายจากไปได้นะคะ ดังนั้นบทความนี้จะมาแนะนำ ต้นไม้จัดสวนทนแดด พรรณไม้ ที่เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทย ซึ่งทนร้อน ทนแดด และไม่ตายง่ายๆมาฝากกันค่ะ พร้อมแล้วตามมาดูกันเลยค่ะ
10 ต้นไม้ทนแดด ร้อนแค่ไหนก็ไม่ตายง่ายๆ

1. โมก
ไม้พุ่มยืนต้นที่ตัดแต่งทรงได้ มีดอกสีขาวหอมขนาดเล็ก ก้านดอกเล็กเรียวอ่อนห้อยย้อยเป็นพวง ชนิดกลีบชั้นเดียวเรียก “โมกลา” และกลีบหลายชั้นเรียก “โมกซ้อน” โมกลามีทรงลำต้นคดเคี้ยวสวยมาก โดยเฉพาะต้นที่มีอายุนานหลายปี โมกซ้อนมีทรงต้นเป็นพุ่มแน่น ปลูกเป็นแนวริมกำแพง โมกเป็นไม้พื้นเมืองของบ้านเรา ชอบขึ้นตามริมน้ำ ลำคลอง จึงอยู่ได้ในที่แล้งยามน้ำลดและทนน้ำท่วมขังได้นาน นอกจากปลูกในสวนกลางแดดจัด ริมบ่อ หรือชายน้ำแล้ว ยังทำเป็นไม้กระถางประดับ หรือปลูกในอ่างเติมน้ำหล่อโคนสัก 5 เซนติเมตรได้ด้วย แต่ควรให้ได้แสงเต็มที่ บางท่านปลูกลงดินใต้ชายคา ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ โมกก็ยังอยู่ได้ทนทาน โมกถือเป็นต้นไม้จัดสวนทนแดดที่นิยมกันมาก
2. เฟื่องฟ้า
เฟื่องฟ้า ต้นไม้จัดสวนทนแดด ที่เป็นไม้รอเลื้อยที่พาดกิ่งก้านเรือนยอดกับรั้วกำแพงหรืออาคารได้ดี พบขึ้นเกาะอาคารสูง 4 – 5 ชั้น ผลิดอกพรู เนื่องจากมีหนามตามกิ่งช่วยในการพาดพัน แม้เฟื่องฟ้าจะมีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศ แต่งอกงามได้ดีในบ้านเรา เฟื่องฟ้าทนแล้งได้ดี การงดให้น้ำเป็นช่วงจะทำให้ใบร่วง จากนั้นจะผลิดอกพรูทั้งต้น เป็นไม้ที่ขึ้นได้ในดินทราย ชอบแสงจัด ปลูกในสวนแถบชายทะเลได้ ถ้าไม่เน้นสีของช่อดอกมากนัก ดินชุ่มชื้นทั่วไปทำให้เกิดใบเขียวสะพรั่งได้ร่มเงา
3. วาสนา
มีโครงต้นสวยและพุ่มใบงาม บางชนิดใบด่างเป็นลายเส้น เช่น ขาวเขียว เหลืองเขียว ยิ่งอายุมากยิ่งขึ้นเป็นกลุ่มกองดงาม สูงได้ถึง 10 เมตร ปัจจุบันเป็นไม้สงวน ห้ามนำออกมาจากป่าเขา ในท้องตลาดจึงมีเฉพาะลูกไม้ที่เพาะเลี้ยงเอง วาสนาผลิดอกเป็นช่อใหญ่ ส่งกลิ่นหอมแรง เหมาะจะปลูกในสวนหิน ปลูกเป็นจุดเด่นในสวน ทำไม้กระถาง ทนแล้งได้ดี แต่ก็อยู่ได้ในดินชุ่มชื้น ชอบแสงแดดจัด แต่ปรับตัวอยู่ในแสงรำไรได้ บางท่านตัดลำต้นเป็นท่อนสั้นๆวางแช่น้ำตื้นๆ จะแตกตายอดเกิดช่อใบ วางประดับในห้องได้
4. ผกากรอง
เป็นไม้พุ่มเตี้ยที่ปลูกเป็นแปลงคลุมดิน เป็นต้นไม้จัดสวนทนแดดที่สามารถแทรกก้อนหิน หรือทำเป็นไม้กระถางแขวน ตัดแต่งได้ดี ผกากรองพื้นเมืองดอกสีส้มสดมักพบขึ้นแถบเชิงเขาหิน ดินทรายแล้ง มีหลากสี ตั้งแต่ขาวนวล ชมพูอ่อนจนถึงชมพูสดแปร๊ด เหลืองนวล เหลืองสด บางพันธุ์มีสีสลับกลางดอกและขอบดอก ทุกชนิดเลี้ยงง่าย แม้อยู่ในดินแล้งแสงจัดก็ยังผลิดอก ถ้าปลูกในดินร่วนชุ่มชื้นจะเกิดช่อดอกไม่ขาด ผกากรองไม่มีศัตรูพวกหนอน แมลง หรือโรคต่างๆมากนัก เพราะกลิ่นฉุนทุกส่วน และดอกช่วยป้องกันศัตรูพืชได้ดี
5. อากาเว่
เป็นพันธุ์ไม้จากต่างประเทศที่ปรับตัวเข้ากับภูมิอากาศบ้านเราได้ดี มีมากมายหลายชนิด อากาเว่เป็นไม้ทนแล้ง ขึ้นได้ดีในดินทรายแดดจัด บางต้นงอกงามอยู่ตามริมถนนและที่รกร้าง ไม่มีการดูแลรดน้ำ แต่ก็ยังเติบโตได้ดีและมีอายุนานหลายปี ขอบใบอากาเว่มักมีหนามแหลมและปลายใบคมแข็งเหมือนเข็ม การปลูกริมรั้วหรือกำแพงทั้งด้านนอกและด้านในช่วยป้องกันการบุกรุกได้ดีมาก ปลูกอากาเว่ในสวนหิน สวนทะเลทรายกับไม้อวบน้ำอื่นๆ ตั้งเป็นไม้กระถางประดับ หรือสวนโมเดิร์นก็ดูเรียบเก๋ดี หญ้าและต้นไม้ลักษณะคล้ายหญ้า ลักษณะเส้นสายของใบและช่อดอกตลอดจนการเติบโตไม่ยาก ทำให้หญ้าต่างๆ ไผ่หลายชนิดซึ่งอยู่ในตระกูลหญ้า รวมถึงพันธุ์ไม้ที่มีความคล้ายคลึง เช่น กกต่างๆ เป็นที่นิยมของสวนในบ้านเรา โดยเฉพาะสวนสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน สวนโมเดิร์น สวนหิน และยังเหมาะกับการปลูกเป็นแนว แถว หรือแปลงตามริมรั้ว ปลูกล้อมแท่นตั้งประติมากรรมหรือน้ำพุ ปลูกแทรกก้อนหิน โขดหิน พันธุ์ที่น่าสนใจมีดังนี้
6. หญ้าน้ำพุ (Fountain Grass)
มีช่อดอกทรงหางกระรอก สีใบเขียวอ่อนอมฟ้าสวยงาม ใบยาว 50 – 80 เซนติเมตร เรียวเล็กคล้ายเส้นผม ช่อดอกทรงหางกระรอกฟูขาว ผลิดอกบ่อยกว่าหญ้าแดง ออกเป็นชุดๆค่อนข้างต่อเนื่อง ชอบแสงแดด 5 – 6 ชั่วโมงขึ้นไป ถ้าร่มไปกอจะแบะ ใบพับอ่อน ชอบดินชุ่มชื้น ควรตัดแต่งทุก 4 – 5 เดือน มิฉะนั้นกอจะไม่ตั้งสวย
7. หญ้าด่างออสเตรเลีย (Australian Grass)
ลักษณะกอค่อนข้างเตี้ยและฟู ชอบแสงจัด 4 – 5 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น และหากตัดแต่งทุก 6 – 8 เดือน ใบยาว 30 – 60 เซนติเมตร แต่ถ้าเลี้ยงในแสงรำไร ใบยาวได้มากกว่า 50 – 60 เซนติเมตร แต่ทรงต้นยังไม่ล้ม เป็นหญ้าทนแล้ง ไม่ชอบอากาศชื้นจัด หลีกเลี่ยงการปลูกใกล้น้ำตกหรือขอบบ่อ
8. หญ้าริบบิ้น (White Ribbon Grass)
ลักษณะคล้ายหญ้าด่างออสเตรเลีย แต่ใบกว้างกว่าและยาว 50 – 80 เซนติเมตร หรือได้ถึง 1 เมตร สีใบเขียวขอบนอก กลางใบเป็นริ้วขาวสลับเขียว เป็นหญ้ากอใหญ่ที่ชอบแสงรำไรจนถึงจัด อยู่ในแดด 4 – 5 ชั่วโมง ทนแล้ง แม้ดินแห้งก็ยังชูใบและดอก ดอกเป็นแฉกแตกตรงปลายหลายเส้นเช่นเดียวกับดอกของหญ้าด่างออสเตรเลีย ควรตัดแต่งทุก 6 – 8 เดือน และอย่าปลูกใกล้น้ำตกหรือรดน้ำจากสปริงเกลอร์นานเกินควร
9. หญ้าสีน้ำตาล (Copper Sedge, Weeping Brown New Zealand Sedge)
เป็นกกชนิดหนึ่ง แต่เนื่องจากมีลักษณะของทรงต้นคล้ายหญ้า จึงเรียกกันว่าหญ้าใบเรียวเล็ก ยาวประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร ใบสีน้ำตาลลักษณะคล้ายเชือกขนาดเล็ก ปลายใบลู่ลงพื้น กอแน่นแตกใบเรียงเวียนสลับกัน เหมาะจะปลูกเป็นไม้คลุมดินหรือบริเวณที่ต้องการผิวสัมผัสละเอียดเพื่อตัดกับสีเขียวของพรรณไม้ชนิดอื่น ไม้กลุ่มนี้มีหลากหลายพันธุ์ มีคุณสมบัติที่ดีหลายด้าน เช่น ให้ดอกสวย ใบงาม ทรงต้นเด่น ให้ร่มเงา ทุกต้นที่คัดเลือกมาให้ชมล้วนเลี้ยงง่าย ไม่ต้องดูแลมากนัก ทั้งยังอยู่ในความนิยมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พบได้ในสวนแทบทุกแห่งทั่วเมืองไทย
10. แพรเซี่ยงไฮ้
เป็นไม้อวบน้ำคลุมดินที่เติบโตเร็ว แต่ไม่ลุกลามรุงรัง ทำเป็นไม้กระถางแขวนหรือปลูกในกระถางทรงอ่างเตี้ยกว้างได้ดี ผลิดอกทั้งปี มีหลากสี เช่น ขาว ชมพูด่างขาว ชมพูอ่อน ส้มอ่อน แดง ปลูกแทรกก้อนหินในสวน ปลูกตามขอบถนน ในกระบะหน้าบ้าน ริมรั้ว ตลอดจนในสวนหิน สวนทะเลทราย สวนเมดิเตอร์เรเนียน สวนโมเดิร์น หรือสวนบนระเบียง ชอบแสงจัด อยู่ได้ในดินทรายจนถึงดินร่วน ทนแล้ง แต่ไม่เหมาะกับบริเวณน้ำขังเฉอะแฉะ เป็นต้นไม้จัดสวนทนแดด ที่ได้รับความนิยมมากเพื่อเพิ่มสีสนให้สวนดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
