บทความนี้จะมานำเสนอ 10 อันดับ ประเทศทั่วโลก ที่เหมาะสำหรับคู่รักจะพากันไปฮันนีมูนมาฝากกันค่ะ สำหรับคู่รักคู่ไหนที่กำลังมองหาสถานที่สวยๆ สถานที่โรแมนติกที่จะไปสวีทกับแฟน เพื่อไปฉลองฮันนีมูนหลังแต่งงาน หรือจะไปเที่ยวเพื่อเพิ่มความหวานกับคู่รักอยู่แล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดบทความนี้กันนะคะ จะมีที่ไหนกันบ้างนั้น ตามมาดูพร้อมกันเลยค่ะ
Top 10 ประเทศทั่วโลก เหมาะสำหรับคู่รักไปฮันนีมูน
1. อินโดนีเซีย (Indonesia)
อินโดนีเซียนั้น มีที่เที่ยวมากมายให้คู่รักได้ไปเยือนเลยนะคะ และที่ที่ถือได้ว่าเป็นสวรรค์แห่งคู่รักเลยก็คือ ‘บาหลี’ เมืองที่มีศิลปะทางวัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม หลายๆคนมักจะนึกถึงประตูซุ้มวัด และชายหาด แต่รู้ไหมคะยังมี สถานที่ที่คุณคาดไม่ถึงในบาหลี อีกมากมายที่ไม่ควรพลาดเลย ไม่ว่าจะเป็น บันดุง, เซอมารัง, ปาดัง, ปาเล็มบัง และอีกมากมายเลยค่ะ
– Batur Natural Hot Spring
แช่บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งเป็นแบบบ่อรวม พร้อมวิวหุบเขา ละท้องฟ้า มีหลายบ่อแต่ละบ่อจะมีอุณหภูมิต่างกัน
– หาดโลวิน่า (Lovina)
นั่งเรือชมโลมายามเช้า เลือกนั่งเรือแบบสองต่อสองได้ โดยเรือจะเป็นเรือแบบโบราณ พายไปใกล้ชิดโลมาแบบสุดๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางทะเลทั่วไปอย่างดำน้ำตื้น และนั่งเรือชมวิว
– ปุรากัวกาจาห์ (Pura Goa Gajah)
เข้าวัดขอพรให้สมหวังเรืองการมีบุตร คู่รักคู่ไหนต้องการมีลูก แนะนำให้ฝ่ายหญิงลองดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์จากที่นี่ เป็นน้ำที่ไหลจากรูปปั้นหินสลักสตรี 6 นาง
2. เกาหลี
‘ปูซาน’ เมืองติดทะเลของประเทศเกาหลี มีสีสันของตัวเมือง และพักผ่อนสบายๆที่ชายหาด ซึ่งการพักผ่อน ใช้เวลากับคู่รัก แนะนำให้พักที่ Gamcheon Culture Village, Busan หมู่บ้านหลากสีสัน เป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมที่มีการแสดงงานศิลป์สอดแทรกอยู่ จุดเด่นที่ถ่ายภาพมี 2 จุด คือ ป้ายปลาไม้ยักษ์ และจุดชมวิวเจ้าชายน้อย ที่จะเห็นวิวหมู่บ้านสีลูกกวาดได้ทั้งหมู่บ้านเลยค่ะ
3. ปารีส (Paris)
เมืองที่คนที่มีคนรักอยากจะพาคู่รักไปมากที่สุด และทั้งเป็นเมืองที่สนับสนุนให้คนได้เวลาร่วมกัน ทางเดินเท้าสะดวกสบาย และมีสถาปัตยกรรมสวยๆตลอดทาง สถานที่แต่ละจุดไม่ไกลกันมากนัก สามารถใช้เวลาเดินทาง พูดคุย ระหว่างท่องเที่ยวได้อย่างเพลิดเพลินกันเลยค่ะ
– หอไอเฟล (Eiffel Tower)
หนึ่งในไอคอนของเมืองปารีส ที่คนขอแต่งงานกันมากที่สุด โดยเฉพาะเหล่าดารา ไฮโซของประเทศไทย ก่อนจะเข้าวิวาห์กันไปหลายคู่ ภาพที่สื่อออกมาก็ดูหวาน และมีความสุขกันมากที่เดียว ถ่ายรูปสวยทั้งกลางวันและกลางคืน บรรยากาศสุดโรแมนติก ทั้งผู้คนและเมือง
– พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musee du Louvre)
แฟนใครชอบงานศิลปะ ต้องพาไปที่ที่รวมงานศิลปะขึ้นชื่อของโลกไว้อย่าง พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หนึ่งในศิลปะที่ควรเข้าชม คือ ภาพวาดโมนาลิซ่า ของศิลปินลีโอนาโด ดาวินซี และรูปปั้น Venus de Milo ถ้าจะให้เป็นคู่ที่ถ่ายรูปเกร๋ๆ ลองแต่งธีมแนวสายลับกันมาดู เสมือนคุณเข้ามาไขรหัสลับดาร์วินชีอย่างในหนังกันเลยล่ะ
– มหาวิหารน็อทร์-ดาม (Notre-Dame Cathedral)
ขอแต่งงาน ขอเป็นแฟนที่หน้าโบสถ์น็อทร์ – ดาม วิหารที่คงงานสถาปัตยกรรมแนวโกธิกช่วงก่อนเกิดการปฏิวัติฝรั่งเศส ช่วงปลายศตวรรษที่ 10 และได้บูรณะให้คงสภาพจากสถาปนิกชาวฝรั่งเศษ เออแฌน วียอแล-เลอ-ดุก โดยรอบโบสถ์มีรูปปั้นอยู่หลายจุด ภานในโบส์ประดับด้วยสีทองให้ดูหรูหรา ทำให้การขอแต่งงานที่นี่อาจตีความได้ว่าจะมีความที่ยาวนาน และมีการปรับปรุง ช่วยเหลือกัน จนมีอนาคตที่สวยงามนั่นเองค่ะ
4. อิตาลี (Italy)
ประเทศที่สามารถเที่ยวได้ทั้งปี มีเสน่ห์ด้านสถาปัตยกรรมสวยงาม และดูอบอุ่น พร้อมทั้งมีสิ่ง unseen หาชมได้ยากรวบรวมอยู่ในประเทศโซนยุโรปแห่งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มองดูแล้วงดงามราวกับศิลปะชิ้นหนึ่งของเมืองเลยทีเดียว
– หอเอนปิซ่า (La Torre di Pisa)
หอคอยระฆังของชาวคริสต์นิกายโรมันแคทอลิก สูงถึง 8 ชั้น นักท่องเที่ยวมักถ่ายรูปทำท่ารองรับหอกันไว้ เอาไปเป็นไอเดียถ่ายรูปกับแฟนกันได้นะ และสิ่งที่เราไม่ค่อยได้เห็นกัน คือ จริงๆเข้าชมหอคอยด้านในได้ด้วย ราคาเข้าชม 18 ยูโร
– เวนิส (Venice)
ลงเรือพายชมเมืองเวนิส รวบรวมเมืองที่ติดทะเลสาบเวนิเทีย ทำให้ที่นี่เดินทางทางน้ำเป็นหลัก เรือที่นักท่องเที่ยวชอบถ่ายรูปนั้นคือ เรือกอนโดลา โดยจะพายไปจุดนิยมถ่ายภาพ คือ สะพานรีอัลโต สะพานหิน ที่เชื่อมสองฝากฝั่ง ทั้งสองฝั่งเต็มไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหารมากมาย
5. สวิตเซอร์แลนด์
สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติที่สวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนแห่งขุนเขาและฟาร์ม รวมถึงช็อคโกแลตที่มีคุณภาพที่เป็นตัวแทนส่งมอบความรักในวันวาเลนไทน์อีกด้วย ถ้าคู่ของคุณชื่นชอบกิจกรรมที่หลากหลาย ต้องการความสะดวกสบาย บรรยากาศดี และค่อนข้างเงียบสงบ ที่นี่ตอบโจทย์เป็นอย่างมากเลยค่ะ
– เทือกเขา Titlis เมือง Engelberg
ก้าวแรกที่เข้าสู่เมือง Engelberg คุณอาจจะลืมหายใจไปชั่วขณะได้ เพราะเมืองสวยมาก เป็นเมืองที่มีบ้านน้อยหลัง มีพื้นที่ติดภูเขาสีเขียว มีลำธารตัดผ่าน เมื่อมองไกลออกไปเป็นเทือกเขา Titlis สีขาวปกคลุมด้วยหิมะ นั่งกระเช้าขึ้นไปบนเทือกเขาเพื่อเล่นสกีได้เลย
– Interlaken
เมืองเล็กๆอันเงียบสงบที่ตั้งระหว่างทะเลสาบ Thun Lake และ Brienz Lake เดินทางในเมืองด้วยรถม้าได้ และหากมองหากิจกรรม ที่นี่มีพาราไกลดิ้ง พาแฟนคุณบินขึ้นสู่ท้องฟ้า และแลนดิ้ง ณ สนามหญ้าใจกลางเมือง มาที่นี่อย่าลืมแวะซื้อของฝาก ช็อคโกแลตคราฟต์จากร้านท้องถิ่นด้วยนะ เพราะเดี๋ยวจะเหมือนมาไม่ถึงสวิตเซอร์แลนด์
6. ปราก (Prague)
ปราก เป็นเมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวของประเทศสาธารณรัฐเช็ค มีสถาปัตยกรรมโด่งดังซ่อนอยู่ และของเด็ดอย่างเบียร์ของชาวเช็ก ที่นี่มีทั้งเสน่ห์และอารยธรรมที่ล้วนตราตรึงใจ
– สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge)
สะพานที่สมัยก่อนถูกใช้สำหรับเชื้อพระวงศ์เท่านั้น การพาแฟนมาที่นี่เหมือนบอกเป็นนัยๆว่าคุณมองเธอเป็นเจ้าหญิง หรือเจ้าชาย สำหรับเขา สะพานเป็นสะพานหิน มีรูปปั้นขนาบสองข้างทาง เมื่อมองออกไปยังทะเลสาบจะมีฝูงห่านอยู่ ถ่ายภาพช่วงเช้า หรือเย็น ที่บรรยากาศสดใสจะสวยมากๆ
– จัตุรัสเมืองเก่า
มาถึงที่นี่แล้ว ต้องพาแฟนไปลองเบียร์สัญชาติเช็กกันสักหน่อย ที่เบียร์ได้ถูกผลิตขึ้นมา เพราะ คนในเมืองเช็กเป็นกลุ่มผู้บริโภคเบียร์อันดับ 1 ของโลก จนถึงต้องผลิตขึ้นมาเป็นของตนเองกันเลยล่ะ เบียร์จากชาวนักดื่มนี่จะมีรสชาติหอมหวาน และมีความเข้มนุ่มลึก ควบคู่กันไป
7. ญี่ปุ่น (Japan)
เชื่อว่าต้องมีหลายคู่ที่ชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่นแน่นอน ทั้งภาษา อาหาร สื่อภาพยนตร์และอนิเมะต่างๆที่ทุกคนชื่นชอบ แต่ที่นี่ยังมีสถานที่ธรรมชาติที่ให้คู่รักได้สวีทกันอยู่ด้วยนะคะ
– หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-Go)
สถานที่ที่ถูกยกให้เป็นมรดกโลก ผู้คนนิยมมาในช่วงฤดูหิมะตก หมู่บ้านที่มีบ้านรูปร่างเก่าแก่ สร้างด้วยไม้ ภายในค่อนข้างดั้งเดิม มีเตาต้มน้ำให้ความอบอุ่นภายใน มีร้านอาหารกระจายอยู่ สิ่งที่ไม่ควรพลาด คือ เนื้อฮิดะ เนื้อที่มีกลิ่นเฉพาะ แปลกใหม่สำหรับสายเนื้อ และหาทานได้เฉพาะพื้นที่เท่านั้น
– อุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ (Shikotsu-Toya National park)
เดินทางจากตัวเมืองซัปโปโรไป 1 ชั่วโมง เพื่อพาแฟนไปแช่ออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติ ที่โจซังเค ออนเซ็น สามารถเลือกโรงแรมเข้าพักได้กับ Traveloka เรามีโรงแรมหลากหลายในราคาที่ถูกที่สุดให้คุณได้เลือกพัก ค่าแช่ออนเซ็นมีหลากหลายราคาตั้งแต่ 500 – 1,500 เยน สำหรับการแช่เท้าสามารถแช่ได้ฟรี มีจุดบริการหลายจุด
8. นิวซีแลนด์ (New Zealand)
เป็นเมืองน่ารัก มีทั้งธรรมชาติ และตัวเมืองให้ได้ท่องเที่ยว มีทั้งเกาะเหนือ และเกาะใต้ แต่ละเกาะทีความน่าสนใจต่างกัน มีเสน่ห์ไปคนละแบบเลยค่ะ
– โรโตรัว (ROTORUA) (เกาะเหนือ)
สาวๆคนไหนชอบเข้าสปา มาลองสปาธรรมชาติ ทั้งสปาน้ำพุร้อน หรือบ่อโคลนตามรรมชาติมีอยู่เมืองนี้ ราคามีตั้งแต่ NZ$ 10 – NZ$50 หรืออยากศึกษาวัฒนธรรมใหม่ๆ เมืองโรโตรัวก็เป็นจุดรวมของชาวชนเผ่าเมารีในสมัยก่อน และมีวัฒนธรรมอยู่ให้เห็น สามารถศึกษาได้ที Mitai Maori Village
– เมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch) (เกาะใต้)
เมืองนี้ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ จะสวยที่สุดในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งบ้านเรือน และสถาปัตยกรรมของเมืองนี้เป็นสไตล์อังกฤษโบราณ สร้างบรรยากาศให้อบอุ่นหัวใจ ตัวเมืองมีแทรมผ่าน มีคาเฟ่ ร้านอาหาร หอศิลปะ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เราจะเห็นต้นไม้ได้ในทุกๆที่ เพราะคนที่นี่นิยมปลูกกันมาก
9. มัลดีฟ (Maldives)
แหล่งท่องเที่ยวแรกๆที่คู่รักมักนึกถึงหลังจากแต่งงานแล้ว ช่วงเวลาฮันนีมูนที่มีแต่สองเรา ล้อมรอบด้วยทะเลใสๆ และดวงดาวยามค่ำคืน มัลดีฟนั้นมีมากถึง 1,192 เกาะ แต่ผู้อยู่อาศัย 250 เกาะ เมื่อคู่รักต้องการตั้งจุดหมายปลายทาง แนะนำให้ดูจากที่พักของตนเป็นหลัก และโดยสารระหว่างเกาะทางเรือ ที่พักนั้นมีหลากหลายรูปแบบมาก ทั้งที่พักกลางน้ำ อยู่บนชายหาด และวิวตะวันออก ตะวันตก
10. ตุรกี (Türkiye)
เมืองที่ราคาตั๋วเอื้อมถึง หากคุณต้องการไปยังเมืองที่มีความเป็นยุโรป และตะวันออกกลางนิดๆ เราแนะนำให้ปักหมุดมาที่ตุรกีกันเลยค่ะ
– แคปปาโดเชีย (Cappadocia)
ถ่ายรูปกับบอลลูนหลากสีสัน และลวดลายที่ขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมาก แนะนำว่าควรดูสภาพอากาศก่อนเดินทางมายังที่นี่ เนื่องจากจะต้องมีสภาพอากาศที่ดี บอลลูนจึงถูกปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้าได้
– พาซาแบค (Monk Valley)
พาซาแบค (Pasabag) หรือที่นิยมเรียกกันว่าหุบเขาพระ (Monks Valley) ที่เป็นภูเขาหินในรูปทรงแปลกตา เหมือนกรวยที่มีหมวกวางอยู่ด้านบน แต่ก่อนเคยเป็นสำนักสงฆ์มาก่อน จึงทำให้หลายครั้งที่บริเวณนี้ มีคนเรียกว่าเป็น The Valley of Monks หากใครที่อยากได้รูปสวยๆ แนะนำให้เช่าอูฐมาสักหนึ่งตัวเป็นพร็อบ แล้วแค่ยืนโพสท่าเก๋ๆ ก็ได้รูปที่สวยชิคอย่าบอกใครกันแล้วค่ะ