บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับ 10 อันดับโรคที่ต้องระวังและหมั่นนตรวจเช็คในวัย 50 อัพ กันนะคะ ต้องยอมรับนะคะว่าเมื่ออายุถึงวัยเลข 5 แล้วนั้น แน่นอนว่าความเสื่อมทางร่างกายย่อมมาเยี่ยมเยือนทุกคนแน่นอนค่ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือความเสี่ยงโรคต่าง ๆ ที่เป็นผลมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ผ่านมาของแต่ละคนนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นอย่าการรู้เท่าทันความเสี่ยงจากโรคต่างๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลยนะคะ ซึ่งมีหลายโรคในวัย 50 อัพที่ต้องระวังและหมั่นตรวจเช็กก่อนสายเกินไป จะมีโรคไหนบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

 

10 อันดับโรคที่ต้องระวังและหมั่นนตรวจเช็คในวัย 50 อัพ

 

 

1. หลอดเลือดสมอง

หลอดเลือดสมองอุดตัน ตีบ แตก มักมีสาเหตุมาจากการอุดตันของหลอดเลือด การเสื่อม การแข็งตัวของหลอดเลือด เป็นโรคที่อันตราย ทำให้สมองหยุดทำงานทันที ความรุนแรงขึ้นอยู่กับระยะเวลา ตำแหน่งการตีบ และขนาดหลอดเลือด

 

 

โดยอาการที่สังเกตได้คือ เดินเซ เวียนศีรษะ บ้านหมุนฉับพลัน ตามัว มองไม่เห็น เห็นภาพซ้อนฉับพลัน หน้าเบี้ยวหรือปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด พูดไม่ออก ปัจจัยเสี่ยงโรคนี้คือ ความอ้วน ความเครียด ไม่ออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ รวมถึงคนที่มีโรคประจำตัวอย่างหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง การเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ จึงควรดูแลตัวเองให้ดีเพื่อป้องกันโรค

 

2. หลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน

หลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน (Peripheral Arterial Disease – PAD) มักเกิดจากตะกอนติดผนังด้านในเส้นเลือดแดง ส่งผลให้หลอดเลือดแดงแข็ง เส้นเลือดแดงปลายแขนและขาตีบและอุดตัน ความรุนแรงขึ้นอยู่กับระดับความอุดตัน

 

 

อาการที่สังเกตได้คือ ปวดขา ปวดน่อง ปวดตั้งแต่น้อยไปจนถึงปวดตลอดเวลา หากหลอดเลือดแดงตีบแคบจนเลือดไปเลี้ยงน้อยลง อาจทำให้มีแผลเรื้อรังที่เท้าหรือนิ้วเท้าจึงควรรีบรักษาโดยเร็วที่สุด

 

3. เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง

เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เป็นโรคยอดฮิตของคนไทยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยเบาหวานเกิดจากการที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปส่งผลให้หลอดเลือดแดงเสียหายและเสื่อมเร็ว ความดันโลหิตสูงส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจหนา หากความดันโลหิตสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้หัวใจโตและหัวใจล้มเหลวได้ ไขมันในเลือดสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบและอุดตัน รุนแรงถึงขั้นอัมพฤกษ์และอัมพาตได้

 

 

ดังนั้นจึงควรดูแลพฤติกรรมเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม เลิกบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ ไม่เครียด ตรวจสุขภาพทุกปีเพื่อดูแลตัวเองให้ห่างไกลโรค

 

4. กระดูกพรุน

กระดูกพรุนพบมากในคนวัย 50 ปีขึ้นไป โดยพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงเมื่อหมดประจำเดือนร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยลง ทำให้กระดูกเปราะบางหักได้ง่าย ที่น่ากังวลคือโรคกระดูกพรุนมักไม่มีอาการบอกล่วงหน้า รู้ตัวอีกทีกระดูกหักไปแล้ว

 

 

อาการที่สังเกตได้บ่อยคือ ปวดหลังจากการที่กระดูกบางและปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสามารถยับยั้งความเสื่อมได้ แต่ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮฮล์ ที่สำคัญระวังการหกล้ม หากมีอาการผิดปกติควรมาพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

 

5. ภาวะพร่องวิตามิน

เพราะวิตามินช่วยให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้ดี เมื่อร่างกายขาดวิตามินแม้ไม่ส่งผลรุนแรง แต่ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ ซึ่งวิตามินที่คนวัย 50 อัพมักขาดคือวิตามินดี เป็นวิตามินที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเพื่อเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เมื่อขาดวิตามินดีอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนได้

 

 

นอกจากนี้วิตามินแร่ธาตุต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่มีส่วนช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล หากมีภาวะพร่องวิตามินจึงควรรับประทานอาหารอย่างเหมาะสมเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารและวิตามินครบถ้วน

 

6. นอนไม่หลับ

เพราะการนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด เมื่อนอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท กรน หยุดหายใจขณะหลับ อาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้ ส่งผลให้เสี่ยงหัวใจโตและความดันโลหิตสูง ควบคุมโรคประจำตัวได้ยากขึ้น มีโอกาสหัวใจเต้นผิดจังหวะซึ่งร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต เพราะฉะนั้นหากมีอาการนอนไม่หลับ อย่าปล่อยทิ้งไว้ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจเช็กสุขภาพการนอนก่อนสายเกินไป

 

 

 

7. ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ

ต่อมไทรอยด์ผิดปกติคือภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ จนเกิดผลเสียกับร่างกาย พบได้ทุกช่วงวัยและพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย สังเกตได้จากอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ใจสั่น ผมร่วง นอนไม่หลับ รู้สึกง่วงตลอดเวลา อ้วนขึ้นหรือผอมลงผิดปกติ หิวบ่อยหรือไม่หิวกินไม่ค่อยลง ขับถ่ายไม่ปกติ รู้สึกหนาวตลอดเวลาหรือขี้ร้อนมากขึ้น ผิวแห้ง ใจสั่น หากเกิดอาการผิดปกติควรรีบตรวจเช็กเพื่อรักษาโดยเร็ว

 

 

 

8. ต่อมลูกหมากโต

ต่อมลูกหมากโตพบมากในผู้ชายตั้งแต่อายุ 45 ปีขึ้นไป เป็นภาวะที่ต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ผิดปกติ จนไปเบียดท่อปัสสาวะให้แคบลง โดยจะมีอาการปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เบ่งปัสสาวะ ปัสสาวะไม่พุ่ง ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะไม่ออก ปวดปัสสาวะรุนแรงมาก ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตอย่างมาก ควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจเช็ก เพราะถ้าไม่รีบรักษาอาจร้ายแรงถึงขั้นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ปัสสาวะเป็นเลือด ไตเสื่อม และไตวายได้

 


 

9. มะเร็ง

มะเร็งส่วนใหญ่พบในคนอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เกิดจากเซลล์ผิดปกติในร่างกายโตเร็วจนร่างกายคุมไม่ได้ ลามไปอวัยวะใกล้เคียง หรือกระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยมะเร็งที่พบมากในวัย 50 อัพ ได้แก่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งรังไข่ มะเร็งตับอ่อน ฯลฯ

 

 

สังเกตอาการมะเร็งได้จากมีเลือด หรือสิ่งผิดปกติออกจากร่างกาย มีก้อนหรือตุ่มเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งและโตเร็วผิดปกติ มีแผลเรื้อรัง ถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะผิดปกติ เสียงแหบ ไอเรื้อรัง กลืนอาหารลำบาก เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หูด ไฝ ปานเปลี่ยนแปลงไปอย่างผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาทันที

 

10. โรคไต

โรคไตไม่ไกลตัวอย่างที่คิด สามารถเป็นได้ทั้งไตวายเฉียบพลันและไตวายเรื้อรัง สาเหตุเกิดจากโรคที่ส่งผลให้เลือดมาเลี้ยงไตลดลง เช่น หลอดเลือดเลี้ยงไตตีบ รวมถึงการอักเสบจากการติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ การได้รับสารพิษที่เป็นอันตรายกับไต ภาวะหลอดเลือดในไตอักเสบ

 

 

โรคไตที่เกิดกับระบบทางเดินปัสสาวะ สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้คือ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน คันตามผิวหนัง ปัสสาวะน้อยหรือบ่อยผิดปกติ ตาบวม ขาบวม เหนื่อยง่าย ความดันโลหิตสูง ตะคริว เป็นต้น การตรวจเช็กสุขภาพเพื่อประเมินการทำงานของไตเป็นสิ่งสำคัญ อย่าปล่อยไว้จนไตเสื่อมฟื้นฟูไม่ได้

ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ตาม การตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพ คือเรื่องสำคัญนะคะ เฉพาะฉะนั้นการตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำทุกปีคือเรื่องที่ไม่ควรละเลยอย่างเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะการรู้เท่าทันสุขภาพจะช่วยให้เราสามารถดูแลรักษา และป้องกันตัวเองได้อย่างถูกต้องนั่นเองค่ะ เพื่อการมีสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากโรคร้ายในอนาคตค่ะ