บทความนี้จะมานำเสนอ 10 อันดับสิ่งประดิษฐ์ ที่สามารถเปลี่ยนโลกของเราไปเลยนะคะ ต้องยอมรับนะคะว่า สิ่งของที่อยู่รอบตัวเราตั้งแต่เกิดจนวันสุดท้ายของชีวิตนั้น ทุกๆสิ่งอย่างมีผลต่อชีวิตคนเราไม่มากก็น้อย บางสิ่งช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น เดินทางได้เร็วขึ้น สื่อสารได้ง่ายขึ้น  และสิ่งประดิษฐ์บางอย่างก็สามารถเปลี่ยนโลกไปตลอดกาลได้อีกด้วยนะคะ มาดูกันเลยค่ะ ว่าจะมีสิ่งประดิษฐ์ไหนกันบ้างที่สามารถเปลี่ยนโลกได้

 

10 อันดับสิ่งประดิษฐ์ เปลี่ยนโลก

 

 

1. ล้อ (Wheel)

ล้อคือหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ทางวิศวกรรม ที่เปลี่ยนแปลงโลกนี้มากที่สุดชิ้นหนึ่ง และล้ออาจจะไม่ได้เก่าแบบที่เราคิด หลักฐานวงล้อที่เก่าแก่ที่สุดย้อนไปช่วงยุคเมโสโปเตเมียเมื่อราวๆ 3,500 ปีก่อนคริสตกาล ล้อไม่ใช่แค่ทำให้เดินทาง และการขนส่งง่ายขึ้นเท่านั้นนะคะ แต่ยังเป็นฐานของเทคโนโลยีนวัตกรรมอื่นๆที่ตามมาอีกมากมาย หากมองภาพรวมจริงๆ ล้อนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งหลักที่ทำให้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนโลก แต่เป็นการนำล้อรวมกับแกนที่มั่นคง และสามารถพามันเคลื่อนไปได้เช่น รถยนต์ รถลากต่างๆ นั่นเองค่ะ

 

 

2. รถยนต์ (Automoblie)

รถยนต์นั้นเป็นที่รู้จักกันในช่วงปี 1886 เมื่อ Karl Benz นักประดิษฐ์ชาวเยอรมันจดลิทธิบัตร Benz Patent-Motorwagen  แต่จริงๆแล้วรถยนต์สามารถย้อนไปได้ตั้งแต่ปี 1769 เมื่อ Micolas Joseph Cogno ได้พัฒนารถยนตร์ที่ขับเคลื่อนด้วยไอน้ำสำเร็จ
อีกคนที่ต้องพูดถึงคือ Henry Ford ที่พัฒนาและคิดค้นทำเทคนิคการผลิตต่างๆที่ช่วยให้รถยนต์มีราคาที่ถูก และคนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ จนกลายเป็นมาตรฐานสำหรับการผลิตรถยนต์  รถยนตร์นั้นพัฒนาโลกนี้อย่างแท้จริง นอกจากประโยชน์ที่รู้กันอยู่แล้ว รถยนตร์ยังพัฒนาในด้านอุตสาหกรรมน้ำมันและเหล็กกล้าให้เติบโตอีกด้วยค่ะ

 

 

3. เครื่องจักรไอน้ำ (Steam Engine)

สิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่จนทำให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม ได้แก่ เครื่องจักรไอน้ำ ว่ากันว่าเริ่มต้นมาจากผู้ดูแลเหมืองชาวสเปนชื่อ Jerónimo de Ayanz ต่อมาคือ Thomas Savery ชาวอังกฤษ เพราะผลงานที่โชว์ออกมากับเครื่องจักรไอน้ำที่ใช้งานได้จริงในปี 1698 ต่อมาในปี 1711 กับชายที่เราคุ้นชื่อกันมากที่สุดอย่าง James Watt ได้พัฒนาเครื่องจักรไอน้ำ เครื่องปั่นด้าย และอื่นๆอีกมากมาย จากจุดนี้เองทำให้เกิดการพัฒนาต่อได้มากมายจนมาเป็นเครื่องจักร รถไฟ ที่ทำให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้คนเรานั้นไม่ต้องใช้แรงมากเท่าเดิมอีกต่อไปนั่นเองค่ะ

 

 

4. เครื่องบิน (Airplane)

17 ธันวาคม 1903 วันที่เปลี่ยนโลกนี้ไปตลอดกาล เมื่อสองพี่น้อง Wilbur และ Orville แห่งตระกูล Wright ได้นำเครื่องบินของพวกเขาขึ้นบินได้สำเร็จ ย้อนไปในประวัติศาตร์ของเครื่องบินนั้น มีมาตั้งแต่ Leonardo da Vinci ที่ได้วาดฝันไว้แต่ด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโยยีต่างๆทำให้มันยังไม่เป็นจริงขึ้นมา นอกจากนี้ต้องขอบคุณนักประดิษฐ์อีกนับไม่ถ้วนเลยนะคะ ที่พยายามจะสร้างฝันนี้ให้สำเร็จจนส่งต่อมาถึงพี่น้องตระกูลไรท์ได้ จากจุดนี้ทำให้เป็นพื้นฐานวิศวกรรมการบินสมัยใหม่ที่ได้รับการพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ

 

 

5. ตะปู (Nalis)

หากไม่มีตะปู ลองคิดว่าชีวิตของมนุษย์จะยุ่งยากขึ้นอีกขนาดไหน ลองย้อนกลับไปในอดีตก่อนที่จะมีตะปู โครงสร้างไม้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เชือกเพื่อเชื่อมแผ่นไม้ให้อยู่ติดกัน หลักฐานการประดิษฐ์ตะปูที่สามารถพบได้คือ ตะปูที่ทำจากทองสัมฤทธิ์ตั้งแต่ช่วงประมาณ 3400 ปีก่อนคริสตกาลในประเทศอียิปต์ จากนั้นตะปูก็ทำเรื่อยมาจนในปี 1913 ที่ประเทศสหรัฐฯได้ผลิตตะปูลวดเหล็กทำให้เกิดความนิยม และใช้กันทั่วโลก

 

 

6. หลอดไฟ (Lightbulb)

หลอดไฟฟ้าที่เราคุ้นเคยและใช้กันอยู่ทุกวันนี้นั้น มาจากแนวคิดเมื่อ 150 ปีที่แล้ว  ในยุคบุกเบิกหลอดไฟฟ้าอยู่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โดย Humphry Davy ผู้ทดลองและประดิษฐ์แบตเตอรี่ไฟฟ้า เขาได้ทดลองต่อสายไฟระหว่างแบตเตอรี่กับชิ้นส่วนคาร์บอน เมื่อครบวงจร คาร์บอนนั้นก็เปล่งแสงออกมา ตอนนั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อ The electric arc lam จากนั้นประมาณเจ็ดทศวรรษนักประดิษฐ์มากมายก็ได้สร้าง หลอดไฟ ขึ้นมา แต่ก็ยังมีข้อจำกัดมากมายทำให้ยังไม่สามารถใช้ได้ในเชิงพาณิชย์  จนในปี 1850 นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษชื่อว่า Joseph Wlison Swan ได้ประดิษฐ์หลอดไฟ ที่ใช้การห่อไส้กระดาษคาร์บอไนซ์ไว้ในหลอดแก้ว แต่อายุการใช้งานของมันนั้น สั้นเกินไปแม้จะมาปรับปรุงอีกครั้งให้มีอายุนานขึ้นแล้วก็ตาม แต่นี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้ Thomas A. Edison พัฒนาการออกแบบของ Swan’s โดยเปลี่ยนมาใช้เส้นในโลหะ จนเขาได้ยื่นจดสิทธิบัตร และเขาก็ได้ค้นพบเส้นในจากไม้ไผ่ ที่ทำให้หลอดไฟนั้นสามารถใช้งานได้นานถึง 1200 ชั่วโมง การค้นพบนี้เองทำให้หลอดไฟเป็นที่รู้จัก และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ หลอดไฟ ได้ส่องสว่างไปทั่วโลกค่ะ

 

 

7. แบตเตอรี่ (Battery) 

ความน่าสนใจของแบตเตอรี่นั้น คือเรื่องราวที่สามารถย้อนไปได้ถึง 2,000 ปี เป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก มีการตั้งข้อสงสัยว่าในอาณาจักรพาร์เธียน มีแบตเตอรี่โบราณที่ทำมาจากโถดินที่ภายในเต็มไปด้วยน้ำส้มสายชู ซึ่งมีแท่งเหล็กล้อมรอบด้วบกระบอกทองแดง โดยอาจมีการใช้เพื่อชุบเงินด้วยไฟฟ้า แต่นั้นก็เป็นข้อสงสัยที่ตั้งขึ้นมา ผู้ที่ได้รับการยอมอย่างเป็นทางการคือ Alessandro Volta ที่ได้พัฒนาก้อนแบตเตอรี่ขึ้นมา ต่อมาในปี 1802 William Cruickshank ก็ได้พัฒนาต่อ และในปี 1859 นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Gaston Planté ก็ได้พัฒนาแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จไฟได้สำเร็จ จนกลายมาเป็นพื้นฐานแบตเตอรี่ที่อยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเช่นทุกวันนี้

 

 

8. แท่นพิมพ์ (Printing Press)

ก่อนที่อินเทอร์เน็ตจะก้าวมาเป็นศูนย์กลางการกระจายข้อมูลได้ ในอดีตแท่นพิมพ์คือตัวช่วยที่ทำให้ข่าวสารต่างๆส่งไปทั่วโลก ช่างทองชาวเยอรมันนามว่า Johannes Gutenberg คือผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนประดิษฐ์แท่นพิมพ์อย่างเป็นทางการ แม้ว่าประวัติศาสตร์การพิมพ์สามารถย้อนไปได้ตั้งแต่ การพิมพ์ด้วยไม้ในประเทศจีนตั้งต้นศตวรรษที่ 9 แต่ด้วยการพัฒนาของเขาที่ทำให้มันสามารถทำงานได้อย่างดีเยี่ยม จนนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ทั่วยุโปรตั้งแต่การพิมพ์แผ่นพับ หนังสือพิมพ์ หนังสือทั่วไป และกลายมาเป็นฐานสำคัญจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ

 

 

9. ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)

ยาปฏิชีวนะ คือสิ่งที่ช่วยคนนับล้านจากเชื้อไวรัส และแบคทีเรียที่เป็นอันตราย Louis Pasteur และ Robert Koch อธิบายการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นครั้งแรกในปี 1877 ต่อมาในปี 1928 Alexander Flening ได้ค้นพบระบุว่ายา Pemicillin นั้นสามารถทำได้จาก ราชนิดหนึ่ง และในช่วงศตวรรษที่ 20 นี้ยาปฏิชีวนะได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วและส่งไปทั่วโลก ด้วยความสามารถที่ช่วยให้มนุษย์อย่างเราสามารถสู้ และจัดการกับเชื้อได้ทุกรูปแบบ และยังช่วยทำให้สุขภาพของเรานั้นปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

 

10. อินเทอร์เน็ต (Internet)

หากไม่มีอินเทอร์เน็ตเราอาจจะได้อ่านบทความนี้จากหนังสือสักเล่ม ต้องขอบคุณเหล่านักวิจัยและนักประดิษฐ์ที่ช่วยกันสร้างอินเทอร์เน็ตขึ้นมาเลยนะคะ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นหนึ่งในโครงการที่ทำกันหลายคน พัฒนาร่วมกับระบบคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ช่วงปี 1950 ต้นแบบแรกที่สามารถใช้งานได้อยู่ในช่วงปลายปี 1960 ต้นแบบชื่อว่า ARPANET หรือ Advanced Research Projects Agency Network หลังจากนั้นนักวิจัยทั้งหลายก็ได้รวบรวมเป็น เครือข่าย Network of networks ขึ้น และกลายมาเป็นอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ และพัฒนาเรื่อยมาจนเป็นสิ่งที่เรากำลังใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันนี้นั่นเองค่ะ

 

ในโลกปัจจุบันนี้ ยังมีสิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนโลกนั้นยังมีอีกมากมายเลยนะคะ และนี่ก็เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นค่ะ