บทความนี้จะมานำเสนอ 10 อันดับสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ที่สุดในโลกกันนะคะ ในโลกของเราทุกวันนี้นั้น สัตว์หลายแสนตัวทั่วโลกถูกคุกคามจากการกระทำของมนุษย์และการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม สภาพภูมิอากาศ และต้องการการปกป้องและอนุรักษ์นะคะ ไม่อย่างนั้นคงมีสัตว์อีกหลายสายพันธุ์ที่ต้องหายไปจากโลกนี้ เรามาดูกันนะคะว่า 10 อันดับสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ที่สุดในโลกนั้น จะมีอะไรกันบ้างค่ะ

 

 

10 อันดับสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ที่สุดในโลก

 

 

 

1. เสือดาวอามูร์

เสือดาวอามูร์ ระหว่างปี 2014 ถึง 2015 มีเพียงประมาณ 92 ตัวที่เหลืออยู่ตามธรรมชาติ ปัจจุบันจำนวนนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 84 ตัว พวกมันเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการถูกลอบล่าสัตว์ ซึ่งฆ่าพวกมันเพื่อเอาเสื้อโค้ทและกระดูก ซึ่งพวกมันจะถูกขายเพื่อใช้ในการแพทย์แผนโบราณของเอเชีย พวกมันมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียถิ่นที่อยู่เนื่องจากไฟตามธรรมชาติ และไฟที่มนุษย์สร้างขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

 

 

 

 

2. แรด

แรดเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ถูกล่ามากที่สุดในโลก เขาของพวกเขาถูกนำมาใช้ในการแพทย์แผนจีน และแสดงเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง นอแรดชวาสามารถขายในตลาดมืดได้มากถึง 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อกิโลกรัม เนื่องจากการล่า แรด 3 ใน 5 สายพันธุ์จึงเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ที่สุด ได้แก่ แรดดำ แรดชวา และแรดสุมาตรา แรดชวาเป็นแรดที่ใกล้จะสูญพันธุ์มากที่สุด โดยเหลือเพียงประมาณ 60 ตัว โดยทั้งหมดอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Ujung Kulon ในอินโดนีเซีย ขณะที่ประชากรแรดดำคาดว่าจะมีประมาณ 5,500 ตัว

 

 

 

 

3. อุรังอุตัง

อุรังอุตังสองชนิดได้แก่ บอร์เนียวและอุรังอุตังสุมาตรา ต่างประสบปัญหาจำนวนประชากรลดลงอย่างรวดเร็ว หนึ่งศตวรรษที่ผ่านมาอาจมีลิงอุรังอุตังรวมกันมากกว่า 230,000 ตัว แต่ปัจจุบันลิงอุรังอุตังบอร์เนียวมีประมาณ 104,700 ตัวตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่อัปเดต และสุมาตราประมาณ 13,846 ตัว พวกมันถูกคุกคามโดยหลักจากการสูญเสียที่อยู่อาศัยจากการตัดไม้ทำลายป่าโดยมนุษย์เพื่อผลิตน้ำมันปาล์ม

 

 

 

 

4. กอริลลา

มีกอริลล่าอยู่ 2 สายพันธุ์ คือกอริลลาตะวันออก และกอริลลาตะวันตก ซึ่งทั้งสองสายพันธุ์มี 2 สายพันธุ์ย่อย สามในสี่เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในบัญชีแดงของชนิดพันธุ์ที่ถูกคุกคามของ IUCN สิ่งเดียวที่ไม่ใช่คือ กอริลลาภูเขา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของกอริลลาตะวันออกซึ่งถือว่าใกล้สูญพันธุ์ มีกอริลล่าข้ามแม่น้ำที่โตเต็มวัยประมาณ 200-300 ตัวที่เหลืออยู่ในป่า เช่นเดียวกับสัตว์ใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด การลดลงของพวกมันส่วนใหญ่เกิดจากการล่า การสูญเสียที่อยู่อาศัย โรคภัยไข้เจ็บ และความขัดแย้งของมนุษย์ กอริลล่ายังฟื้นตัวได้ช้าเนื่องจากมีอัตราการสืบพันธุ์ต่ำ โดยตัวเมียจะออกลูกทุก 4-6 ปีเท่านั้น ตัวเมียจะผสมพันธุ์ 3-4 ครั้งในช่วงชีวิตของมัน

 

 

 

 

5. ซาวลา ( Saola )

มักถูกเรียกว่ายูนิคอร์นแห่งเอเชีย ซาโอลาเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่หายากที่สุดในโลก มันถูกค้นพบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2535 ในเทือกเขาอันนาไมต์ในเวียดนาม และพบไม่บ่อยนัก ยังไม่มีการสำรวจอย่างเป็นทางการ เพื่อระบุจำนวนประชากรที่ถูกต้อง แต่ IUCN ประมาณการว่าประชากรชาวซาโอลาทั้งหมดจะน้อยกว่า 750 ตัว

 

 

 

 

6. โลมา วากี ตา

ในฐานะที่เป็นทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลที่เล็กที่สุด และใกล้สูญพันธุ์ที่สุดในโลก วากี ตา ได้รับการจัดประเภทให้อยู่ในขั้นวิกฤตที่ใกล้สูญพันธุ์โดย IUCN ตั้งแต่ปี 1996 และผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าอาจเหลืออยู่ประมาณ10 ตัว เท่านั้น

 

 

 

 

7. ซุนดาไทเกอร์

ในบรรดาสัตว์ในตระกูลเสือทั้งหมด เสือซุนดาไทเกอร์เป็นสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์มากที่สุด ด้วยเสือโคร่งที่เหลืออยู่ในป่าน้อยกว่า 3,900 ตัว พวกมันมีอยู่เพียง 4% ของเสือโคร่งในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสือซุนดานั้นอ่อนแอเป็นพิเศษ ด้วยจำนวนที่ประเมินว่าน้อยกว่า 400 ตัวในปัจจุบัน การตัดไม้ทำลายป่าและการรุกล้ำพื้นที่ป่าอย่างมากอาจทำให้มันสูญพันธุ์ได้

 

 

 

 

8. ปลาโลมาไร้ครีบแยงซีเกียง

ปลาโลมาไร้ครีบอาศัยอยู่ในแม่น้ำแยงซีในประเทศจีน น่าเสียดายที่พวกเขาเสี่ยงต่อการตกปลา แม้ว่าพวกมันจะไม่ใช่เป้าหมายโดยตรงของชาวประมง แต่พวกมันจำนวนมากตายเมื่อพวกมันเข้าไปติดในเครื่องมือประมงโดยไม่ได้ตั้งใจ น่านน้ำที่พวกเขาอาศัยอยู่ยังมีความคับคั่งไปด้วยชาวประมงและผู้คนที่ใช้ทางน้ำเพื่อสัญจรไปมา ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเรือและเรือ นอกจากนี้ น้ำของพวกเขายังได้รับผลกระทบจากมลพิษที่เป็นพิษในระดับสูงอีกด้วย มีปลาโลมาไร้ครีบเหลืออยู่ระหว่าง 1,000 ถึง 1,800 ตัวในแม่น้ำแยงซี อัตราการลดลงต่อปีที่ 13% หมายความว่าสัตว์เหล่านี้คาดว่าจะสูญพันธุ์ภายใน 10 ปี หากไม่มีการดำเนินการอนุรักษ์ที่มีประสิทธิภาพ

 

 

 

9. เต่า

เต่าทะเล 2 สายพันธุ์อยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในรายชื่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของ IUCN ได้แก่ เต่ากระ และเต่าเคมพ์ส ริดลีย์ ในขณะที่เต่าทะเล Leatherback ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง แม้ว่าจำนวนประชากรจะลดลงและประชากรย่อยจำนวนมากกำลังเผชิญกับการสูญพันธุ์ การล่าเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อเต่าทะเล โดยผู้ลอบล่าสัตว์มุ่งเป้าที่ไข่ เปลือก เนื้อ และผิวหนังของพวกมัน พวกเขายังมีความเสี่ยงจากการสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งที่จับได้ และมลพิษ ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิของทรายกำหนดเพศของลูกฟักไข่โดยไข่จะพัฒนาเป็นตัวเมียในอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น นั่นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้อัตราส่วนเพศของประชากรคลาดเคลื่อนได้

 

 

ประมาณการล่าสุดแสดงให้เราเห็นว่ามีเต่าทะเลเกือบ 6.5 ล้านตัวหลงเหลืออยู่ในธรรมชาติ โดยแต่ละชนิดมีจำนวนแตกต่างกันมาก จำนวนประชากรโดยประมาณของเต่ากระมีตั้งแต่ 83,000 ถึง 57,000 ตัวทั่วโลก เต่า Ridley และ Flatback ของ Kemp แต่ละตัวมีการกระจายตัวที่แคบมาก โดยแต่ละชนิดเหลือน้อยกว่า 10,000 ตัว (ค่าประมาณปานกลาง: 25,000 และ 69,000 ตัวตามลำดับ)

 

 

10. ช้าง

ในขณะที่ประชากรช้างแอฟริกาบางส่วนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในแอฟริกาตอนใต้ แต่จำนวนช้างยังคงลดลงในพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะในแอฟริกากลาง และบางส่วนของแอฟริกาตะวันออก ด้วยจำนวนช้างที่เหลืออยู่ในทวีปนี้ประมาณ 415,000 ตัว ช้างสายพันธุ์นี้ถือว่าอยู่ในภาวะเสี่ยง แม้ว่าประชากรบางกลุ่มจะถูกล่าจนสูญพันธุ์ จำนวนช้างเอเชียลดลงอย่างน้อย 50% ในช่วงสามชั่วอายุคน และพวกมันยังคงลดลงจนถึงทุกวันนี้ เหลือเพียง 40,000-50,000 ตัวในป่า สัตว์ชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มใกล้สูญพันธุ์ อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงมากที่สุดคือช้างสุมาตรา ซึ่งมีประชากรประมาณ 2,400-2,800 ตัว