หากใครได้ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นมาแล้ว ต้องบอกเลยนะคะว่า โตเกียว(Tokyo)นั้น ถือว่าเป็นเมืองที่ช็อปปิ้งได้สนุกมากๆเลยค่ะ เพราะเต็มไปด้วยแหล่งช็อปปิ้งหลากหลายแนวมีทุกสิ่งที่ทุกคนมองหาเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่สินค้าแนวแบรนด์ดัง เสื้อผ้าแฟชั่น อาหาร ขนม ไปจนถึงสินค้าที่มากไปด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม จะมีที่ไหนบ้างนั้น ตามมาดูกันเลยค่ะ

10 อันดับย่านช้อปปิ้งยักษ์ใหญ่ กลางโตเกียว 2567

 

 

1. ชินจุกุ (Shinjuku)

ได้ขื่อว่าเป็นศูนย์รวมแหล่งช็อปปิ้งชื่อดังของโตเกียวที่ไม่ว่าใครก็รู้จักกันเลยนะคะ ทั้งย่านจะเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆรายล้อม ไม่ว่าจะเป็น Odakyu ที่มีทางเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟ Shinjuku Keio เน้นเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับคุณผู้หญิง ISETAN ศูนย์รวมของอร่อยทั่วสารทิศของญี่ปุ่น 0101 (Marui)ห้างเก่าแก่ที่มีทั้งสตรีทแบรนด์ ไปจนถึงแฟชั่นแนวโลลิต้าผู้หญิงๆนั่นเองค่ะ มาที่เดียวเรียกว่าตอบโจทย์การช็อปปิ้งแบบครบครันกันเลยค่ะ

 

การเดินทาง :  ลงที่สถานีรถไฟ Shinjuku

 

2. ฮาราจูกุ (Harajuku)

แหล่งรวมสินค้าแฟชั่นและวัยรุ่นของโตเกียว ที่นอกจากจะมีร้านค้าเสื้อผ้าแฟชั่นหลากหลายแนวตลอดสองฝั่งทางแล้วนั้น หนุ่มๆสาวๆที่มาเดินส่วนมากจัดหนักเต็มแต่งตัวมาแบบไม่มีใครยอมใครกันเลยค่ะ เผลอๆจะเจอคนแต่งคอสเพลย์มาให้เห็นอีกด้วยนะคะ อีกทั้งย่านนี้ยังดังเรื่องเครปมากๆเรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของเครปที่ขายในไทยเลย มีร้านเครปให้เลือกชิมเพียบ อร่อยแทบทุกร้านเลยก็ว่าได้ค่ะ ร้านที่แนะนำว่าต้องมาลองให้ได้ของเค้าดีจริงๆก็คือ ซานต้าโมนิก้าเครป (Santa Monica Creape) และ มาริออนเครป (Marion Crepes)

 

การเดินทาง :  ลงที่สถานีรถไฟ Harajuku

 

3. ชิบูย่า (Shibuya)

อีกหนึ่งย่านที่รวบรวมเอาห้างสรรพสินค้าดังๆไว้มากมาย “อาทิ  TOKYU Shibuya Toyoko Store, Tokyu Shibuya Honten, Shibuya Mark City ,Tokyu Hands Flagship Store และ SHIBUYA 109” ไม่เพียงเท่านั้นย่านนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแบบให้เดินเที่ยวกับแบบเพลิน สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยถ้ามาย่านนี้นั่นก็คือการไป 5 แยกชิบูย่าอันแสนโด่งดังที่รู้จักกันไปทั่วโลก มีหลายร้านที่สามารถนั่งทานนั่นนี่โน่นท่ามกลางวิวของแถวนี้อย่างร้าน Starbucks ที่ตึก Tsutaya และ L’Occitane Café

 

การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ Shibuya

 

4. อาเมโยโกะ (Ameyoko)

แหล่งขายสินค้าต่างๆตั้งแต่เสื้อผ้าแฟชั่น จนถึงของฝากราคาย่อมเยา ของกินก็เยอะข้าวของเครื่องใช้ก็เยอะค่ะ ต่อราคากันได้อย่างสนุกสนาน มีร้านค้าตั้งตลอดสองฝั่งทางมากกว่า 400 ร้าน คนที่มาเดินสาวนมากจะเป็นชาวญี่ปุ่น แต่ก็มีนักท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ถือว่าเป็นย่านที่ให้บรรยากาศในการเดินช็อปปิ้งที่ออกแนวง่ายๆสบายๆ

 

การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ Ueno

 

5. โอโมเตะซันโด (Omotesando)

ถนนช็อปปิ้งชื่อดังที่เต็มไปด้วยร้านค้าในแถบนี้ ส่วนมากจะเป็นแบรนด์เนมดังๆอย่าง Dior, Gucci และ Louis Vuitton  ทั้งยังเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าสุดหรูอย่าง Omotesando Hills และ Tokyo Plaza บริเวณที่ตั้งอยู่ติดๆกับฮาราจูกุ (Harajuku) แวดล้อมไปด้วยตึกอาคารที่แลดูทันสมัย เพราะเพิ่งจะก่อตั้งได้ไม่นานนัก หากก็ฮอตฮิตติดลมบนอย่างรวดเร็ว ยิ่งช่วงเทศกาลคริสต์มาสนี่ตามสองฝั่งจะถูกประดับประดับไปด้วยไฟจำนวนมาก เดินช่วงค่ำๆที่เริ่มเปิดไฟแล้วสวยงามมากเลยค่ะ

 

การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ Meiji jingumae

 

6. กินซ่า (Ginza)

กินซ่าถือเป็นย่านที่มากไปด้วยเสน่ห์ ที่มีทั้งแหล่งช็อปปิ้งและแหล่งบันเทิง ถ้าต้องการที่จะช็อปปิ้งสินค้าระดับไฮเอนด์แล้วละก็ มาย่านนี้ไม่ผิดมีคำว่าผิดหวังค่ะ สัญลักษณ์ของที่นี่ที่เห็นปุ๊บรู้ปั๊บก็คงจะเป็นนาฬิกาแบบโบราณบนตึก Ginza Wako มาย่านนี้อาจต้องทำใจกันกับราคากันนิดนึงนะคะ เพราะสินค้าแต่ละอย่างแถวนี้ส่วนมากจะราคาค่อนข้างสูงกว่าย่านอื่นๆอยู่พอสมควร นอกจากนั้นยังมีร้าน Hakuhinkan Toy Park สวรรค์ของคนรักของเล่น ที่สาขานี้เรียกได้ว่าของมีให้เลือกเยอะมากถึงมากที่สุด รวมทั้งคาเฟ่บรรยากาศดีๆอีกหลายร้านที่น่านั่งมากๆด้วยค่ะ

 

การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ Yurakucho หรือสถานีรถไฟใต้ดิน Ginza หรือ Higashi-ginza

 

7. อาคิฮะบาร่า (Akihabara)

เรียกได้ว่าเป็นย่านที่ทำให้คุณหนุ่มๆต้องตาลุกวาว เพราะนับได้ว่าเป็นแหล่งช็อปปิ้งสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโตเกียว โดยมีร้านขายพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ใหญ่ๆหลายแห่งในย่านการค้าแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น  Yodobashi, Labi, Sofmap, Akky Duty Free, Ishimaru และ Laox

 

 

 

8. โอไดบะ (Odaiba)

โอไดบะมีลักษณะเป็นเกาะที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ ที่ปัจจุบันนับว่ามีความสำคัญทางเศรษฐกิจของกรุงโตเกียว เนื่องจากเป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ แหล่งบันเทิง และสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ๆของโตเกียวไว้มากมาย ห้างสรรพสินค้าเด่นๆย่านนี้มี “อาทิ Diver City, Decks, Aquacity และ Palette Town” ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ หุ่นยนตร์กันดั้มตัวโต ด้านหน้า DiverCity ไม่ว่าใครมาก็ต้องทึ่งกับขนาดมโหฬารสูงเกือบเท่าตึก 7 ชั้นของมันไม่ได้ แถมยังเอาใจสาวกกั้มดั้มด้วยพิพิธภัณฑ์ที่มีของที่ระลึกเกียวกับกั้มดั้มให้เลือกซื้อหามากมายหลายอย่างเลยค่ะ

 

การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ Odaiba-kaihinkōen

 

9. รปปงงิ (Roppongi)

ย่านที่เต็มไปด้วยความคึกคักในช่วงกลางวันและสีสันในช่วงกลางคืน นอกจากมีร้านค้า ร้านอาหารแบบทั้งญี่ปุ่น ยุโรป เอเชียมีหมด แถมด้วยร้านค้าเก๋ๆให้เดินช็อปกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยความทันสมัยของเมืองใหม่ผสมผสานกับสไตล์อาร์ตๆ จากการเป็นสถานที่ตั้งของสองพิพิธภัณฑ์สำคัญๆของญี่ปุ่นอย่าง พิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ  มีแลนด์มาร์กเป็น Roppongi Hills และ Tokyo Midtown กลางคืนก็น่าเดินเพราะมีแหล่งกิน และแหล่งบันเทิงต่างๆให้เดินเพลินๆกันเลยค่ะ

 

การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ Roppongi

 

10. นิฮงบาชิ(Nihonbashi)

ย่านการค้าที่เคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าเมื่อสมัยอดีต และยังคงเป็นแหล่งการค้าที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่เสื่อมคลายในปัจจุบัน ทำให้มีห้างสรรพสินค้าใหญ่หลายแห่งที่ตั้งอยู่บริเวณนี้อย่าง มิสึโกชิ นิฮงบาชิ (Mitsukoshi Nihonbashi) และคอเรโดะ นิฮงบาชิ (Coredo Nihonbashi) ส่วนมากที่มาเดินจะเป็นคนญี่ปุ่นมากกว่านักท่องเที่ยว จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการสัมผัสวิถีการค้า และคนไม่แออัดยัดเยียดเหมือนย่านดังๆที่นักท่องเที่ยวนิยมไปค่ะ

 

การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ Tokyo ออกทางออก Nihonbashi