บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยว เหตุผลที่ขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่านกันนะคะ ในยุคปัจจุบันนี้การขอสินเชื่อบ้าน นับว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผู้ซื้อต้องลุ้นระทึกอยู่เสมอเลยก็ว่าได้นะคะว่าธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อให้หรือไม่ เพราะมีให้เห็นอยู่หลายกรณีเลยค่ะ ที่ผู้ขอหรือเจ้าหน้าที่บริการสินเชื่อธนาคารต่างก็รู้สึกมั่นใจว่าจะผ่าน แต่พอยื่นเรื่องเข้าส่วนกลางแล้วกลับไม่ผ่านนั่นเองค่ะ ดังนั้นการศึกษาเหตุผลต่าง ๆ ที่เสี่ยงต่อการทำให้ธนาคารปฏิเสธการขอสินเชื่อบ้านจึงเป็นเรื่องจำเป็นเลยนะคะ เพื่อให้สามารถเตรียมตัวรับมือและป้องกันไม่ให้โดนปฏิเสธสินเชื่อบ้านค่ะ

 

สาเหตุที่ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อบ้าน

 

 

1. เคยมีประวัติผิดชำระหนี้

เหตุผลแรกที่ได้ยินกันบ่อยที่สุดก็คือ มีประวัติทางการเงินที่ไม่ดี ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดในอดีตของผู้กู้ที่มีรายงานเก็บไว้ในบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) และเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ประวัติกลับมาดีดังเดิมได้ นอกจากธนาคารจะเห็นว่าประวัติความผิดพลาดของคุณไม่ร้ายแรง หรือให้ดาวน์บ้านด้วยมูลค่าที่สูงขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง

2. ไม่เคยมีประวัติชำระหนี้

หากผู้กู้ไม่เคยมีประวัติชำระหนี้มาก่อน ก็ต้องทำใจไว้ด้วยว่าอาจกู้บ้านไม่ผ่านด้วยเหมือนกันนะคะ เนื่องจากธนาคารไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ผู้กู้มีวินัยทางการเงินเพียงใดเพราะไม่มีประวัติในเครดิตบูโร ผู้กู้จึงมีความเสี่ยงที่จะผิดชำระหนี้ไปโดยปริยาย แต่คุณก็ปัญหานี้แก้ได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัยเพื่อสร้างประวัติให้ธนาคารเห็นได้ค่ะ

3. คุณสมบัติของผู้กู้ไม่ครบถ้วน

คุณสมบัติที่ไม่ตรงตามธนาคารต้องการนั้น นับเป็นปัญหาพื้นฐานที่ทำให้คนส่วนใหญ่ขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่านนะคะ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่มาก หรือน้อยเกินกำหนด หรือไม่มีข้อมูลการทำงานและพื้นฐานอาชีพที่น่าเชื่อถือเพียงพอ ที่จะทำให้ธนาคารวางใจ โดยเฉพาะหากคุณทำอาชีพอิสระ ถ้าข้อมูลการทำงานและการเงินไม่แน่นพอก็อาจติดปัญหานี้ได้ค่ะ

4. คะแนนเครดิตไม่เพียงพอ

ในระยะหลัง ๆ ผู้กู้มักจะได้ยินคำว่าเครดิตสกอริ่ง (Credit Scoring) หรือคะแนนเครดิตจากธนาคารบ่อยขึ้นไม่ว่าจะกู้บ้านหรือกู้คอนโด โดยธนาคารจะป้อนข้อมูลทั้งหมดของผู้กู้เข้าสู่ระบบเพื่อคำนวณเป็นคะแนนความสามารถในการชำระหนี้ และถ้าข้อมูลที่ธนาคารได้รับมาทำให้คะแนนไม่ถึงเกณฑ์ ก็ถือว่าสอบตกไปโดยปริยายค่ะ

5. ทรัพย์สินหรือเงินทุนน้อย

สาเหตุที่ธนาคารขอดูรายการเดินบัญชีของผู้กู้นั่นก็เพราะเขาต้องการเห็นเงินหมุนเวียนและเงินเก็บของผู้กู้ และถ้าบัญชีเงินฝากของผู้กู้ได้รับเงินเดือนสูงแต่เงินเหลือติดบัญชีแค่หลักร้อยหลักพันทุกเดือนธนาคารก็ไม่น่าจะให้ผ่าน ยิ่งถ้าเงินในบัญชีเหลือน้อยและไม่มีทรัพย์สินอื่น ๆ อย่างบ้านหรือรถที่ปลอดหนี้ก็ยิ่งหมดสิทธิ์กู้

6. หลักประกันไม่สอดคล้อง

บางครั้งสาเหตุที่กู้เงินซื่อคอนโดหรือบ้านไม่ผ่านนั้น ก็อาจจะมาจากอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้กู้ยื่นขอเอง หากธนาคารมองว่าบ้านหรือคอนโดหลังนี้ทำเลไม่ดี มีโอกาสขายทอดตลาดยาก หรือมีการขอเงินกู้สูงเกินมูลค่าที่ธนาคารประเมินไว้ สินเชื่อบ้านหรือคอนโดหลังนั้นก็จะถูกปฏิเสธด้วยเช่นกันค่ะ

7. มีปัญหาจากผู้กู้ร่วม

ปัญหาสุดท้ายที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งสำหรับการขอสินเชื่อบ้านนั่นก็คือผู้กู้ร่วม ซึ่งตัวผู้กู้เองอาจมีประวัติสวยจนกู้ได้ผ่านฉลุย แต่ปัญหากลับไปอยู่กับผู้กู้ร่วมที่อาจติดเงื่อนไขอื่น ๆ ที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ หรือในกรณีที่ผู้กู้ร่วมก็ไม่ได้ติดปัญหาเรื่องประวัติ ก็อาจติดปัญหาด้านความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับผู้กู้ร่วมที่ไม่ใกล้ชิดเพียงพอ เช่น ไม่ใช่พี่น้องหรือพ่อแม่กัน เป็นต้นค่ะ

 

วิธีการเตรียมตัวให้พร้อมขอสินเชื่อบ้าน

 

 

หลังจากที่รับทราบปัญหาส่วนใหญ่ที่ทำให้กู้บ้านไม่ผ่านแล้ว ก็ได้เวลาเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการขอสินเชื่อให้ผ่านฉลุยกันแล้วนะคะ ซึ่งรวมทั้งใครที่กำลังมองหาสินเชื่อบ้านแลกเงินอยู่ก็สามารถนำไปใช้ได้ด้วยค่ะ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

1. เก็บออมเงินฝาก
การเก็บออมเงินฝากคือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของการขอสินเชื่อบ้าน ยิ่งถ้าคุณเก็บออมตามจำนวนค่างวดที่คาดว่าจะต้องผ่อนกับบ้านหลังใหม่ได้ติดต่อกันนานเกิน 1 ปี ก็ยิ่งทำให้ธนาคารเชื่อว่าคุณจะผ่อนบ้านหลังนี้ไหว

2. สร้างวินัยทางการเงิน
หากคุณมีหนี้สินหรือค่าใช้จ่ายรายเดือนใด ๆ อยู่ ก็ต้องชำระหนี้ให้ตรงเวลาโดยไม่ให้มีการติดตามทวงถามเป็นอันขาด บัตรเครดิตทุกใบต้องชำระเต็มโดยไม่ให้มีดอกเบี้ยจากการชำระขั้นต่ำปรากฏขึ้นแม้แต่บาทเดียว และใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

3. ปิดหนี้และหยุดผ่อน
หากคุณมีหนี้ก้อนใดที่ปิดได้ก็ควรปิด และต้องหยุดผ่อนสินค้าฟุ่มเฟือยทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า นั่นก็เพื่อให้ความสามารถในการชำระหนี้ของคุณสูงเต็มเพดานรายได้ที่มีเมื่อคำนวณเครดิตสกอริ่ง

4. เลือกบ้านที่เหมาะสม
ลองมองหาโครงการบ้านทำเลดีที่เหมาะสมกับรายได้และขนาดครอบครัวของคุณ และสอบถามผู้ขายว่าแบงก์ไหนให้สินเชื่อบ้านง่าย ๆ กับโครงการนั้นบ้าง เพราะแต่ละโครงการมักจะมีธนาคารพันธมิตรที่คอยช่วยให้คุณกู้ได้ง่ายขึ้นอยู่แล้วนั่นเองค่ะ

 

ตารางเปรียบเทียบจำนวนเงินผ่อนชำระบ้าน และวงเงินกู้ซื้อบ้าน-คอนโดสูงสุด

 

 

5. เอกสารต้องพร้อม
ไม่ว่าจะกู้ซื้อบ้านหรือกู้ซื้อคอนโด สิ่งสำคัญที่ทำให้ขอสินเชื่อผ่านง่ายนั้นก็คือ เอกสารประกอบการพิจารณาสินเชื่อของคุณต้องแน่น ครบ จบ และกระจ่างที่สุด เพราะสุดท้ายแล้วธนาคารจะเชื่อคุณจากเอกสารที่คุณมีเท่านั้นค่ะ