บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง เปิดสรรพคุณ “ยอ” พืชมหัศจรรย์สารพัดประโยชน์ กันนะคะ “ยอ” (Noni) จัดเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่คนไทยรู้จักกันมาอย่างยาวนาน หลายคนคุ้นเคยกับการนำลูกยอมาทำส้มตำ หรือนำใบยอมาทำห่อหมก แต่ในความเป็นจริงแล้ว “ยอ” มีสรรพคุณทางยาที่น่าทึ่งซ่อนอยู่ในส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะผล ใบ และราก ซึ่งได้รับการยอมรับในวงการแพทย์แผนไทยและการวิจัยสมัยใหม่บางส่วนนะคะ พร้อมแล้วตามมาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ

 

เปิดสรรพคุณ “ยอ” พืชมหัศจรรย์สารพัดประโยชน์

 

 

 

“ลูกยอ”

สุดยอดผลไม้บำรุงร่างกาย ลูกยอมีสรรพคุณที่โดดเด่นแตกต่างกันไปตามความอ่อนแก่

– หากเป็นผลดิบหรือผลห่าม จะมีรสชาติขมฝาด นิยมใช้เป็นยาขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยเจริญอาหาร และแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน

– ส่วนผลสุกจะมีสรรพคุณในการช่วยขับระดูของสตรี

 

“ใบยอ”

แก้ปวด บำรุงผิว ใบยอเป็นส่วนที่นิยมใช้กันมากในตำรับยาไทย โดยเฉพาะการนำใบสดมาอังไฟแล้วใช้วางประคบเพื่อบรรเทาอาการปวดบวมตามข้อ หรือช่วยบรรเทาอาการของโรคเกาต์ นอกจากนี้ น้ำคั้นจากใบยอยังสามารถนำมาใช้ทาผิวหนังเพื่อรักษาอาการผดผื่นคัน หรือในอดีตเคยใช้ในการกำจัดเหา อย่างไรก็ตาม การใช้ใบยอเพื่อกำจัดเหาในปัจจุบันอาจถูกแทนที่ด้วยวิธีการรักษาที่ทันสมัยและปลอดภัยกว่า

 

ส่วนอื่นๆ และสารสำคัญ “ยอ” อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์หลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินซี และมีสารสำคัญอย่าง สโคโปเลติน (Scopoletin) ซึ่งงานวิจัยเบื้องต้นพบว่ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบและอาจช่วยลดความดันโลหิตได้ อย่างไรก็ตาม ผลในด้านการลดความดันโลหิตยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพ นอกจากผลและใบแล้ว “ราก” ของยอ ยังถูกนำมาใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ ในตำรับยาไทย

 

ข้อควรระวังในการใช้ “ยอ”

แม้ “ยอ” จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังสำคัญ เนื่องจากยอมีสารโพแทสเซียมในปริมาณที่ค่อนข้างสูง ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยอในทุกรูปแบบ นอกจากนี้ สตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตรควรงดเว้นการใช้ เนื่องจากยออาจมีฤทธิ์ส่งผลต่อมดลูก รวมถึงมีรายงานบางกรณีที่เชื่อมโยงการใช้ยอกับความเป็นพิษต่อตับ (Hepatotoxicity) ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้จะดีที่สุดนะคะ

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : MedThai