บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง อัพเดตล่าสุด ขั้นตอนทำพาสปอร์ต 2568 กันนะคะ พร้อมแล้วมาดูกันเลยค่ะว่าจะต้องทำอย่างไรกันบ้างนะคะอัพเดตขั้นตอนทำพาสปอร์ต หรือ หนังสือเดินทาง ปี 2568 ที่ กรมการกงศุล กระทรวงต่างประเทศ ที่ถนนแจ้งวัฒนะกันนะคะ

– สามารถจองคิวออนไลน์ได้นะคะ แต่หากไม่ได้จองคิวล่วงหน้าก็สามารถติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ได้เช่นกัน โดยใช้เวลาที่เข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่จนถึงชำระค่าเล่ม ประมาณ 15 นาทีเท่านั้นค่ะ

– เอกสารที่ต้องใช้ คือ บัตรประชาชนตัวจริง ใบเดียวเท่านั้น (สำหรับบุคคลบรรลุนิติภาวะทั่วไป)

– เมื่อขอบัตรคิวแล้ว เดินไปจุดรอเรียกคิว ซึ่งตรงจุดนี้ จะมีจอมอนิเตอร์คอยเรียกให้เข้าไปที่เคาเตอร์ ซึ่งมีมากกว่า 50 ช่อง การเรียกคิวจะไวมาก

– เดินไปตามช่องที่ทางเจ้าหน้าที่เรียกคิว แค่ยื่นบัตรประชาชนตัวจริงเท่านั้น จุดนี้ใช้เวลาไม่นาน เก็บลายนิ้วมือ ลายเซ็นต์ดิจิตอล สแกนม่านตา ถ่ายภาพติดเล่ม

– หลังจากจุดนี้ ก็นำเอกสารไปชำระเงิน ในการชำระเงิน สามารถ ชำระด้วยเงินสด  หรือ คิวอาร์โค้ด มีช่องแยกชัดเจน และยังสามารถชำระด้วยบัตรเครดิตได้ (มีค่าธรรมเนียม)

ข้อควรระวัง ในขั้นตอนจะมีการเก็บข้อมูลชีวมาตร ได้แก่ ภาพถ่ายใบหน้า การพิมพ์ลายนิ้วมือ และการบันทึกภาพม่านตา ดังนั้น ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ จึงควรใส่คอนแทคเลนส์ใสเท่านั้น เพื่อให้สามารถบันทึกภาพม่านตาตามธรรมชาตินะคะ

ค่าธรรมเนียม : เคสปกติไม่ได้เร่งรีบ เลือกแค่ต้องการเล่มแบบ 5 ปี หรือ 10 ปี ค่าธรรมเนียมต่างกัน 500 บาท แล้วให้จัดส่งทาง ปณ EMS ได้ สะดวกมาก

ในกรณีที่ต้องการด่วน จะมีค่าธรรมเนียมพิเศษเพิ่มเติม ซึ่งสามารถทำได้ทุกสำนักงาน แต่ต้องทำก่อน 11 โมง และรับเล่มได้ที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะเท่านั้นค่ะ

เดินทางมาทำหนังสือเดินทาง ปัจจุบัน มีความสะดวกมาก สามารถเดินทางมาที่ กรมการกงศุล

– โดยรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู โดยลงที่สถานี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ (Government Complex) PK12 ใช้ทางออก 3 จะถึงทางเข้าของ กรมการกงสุล

– ถ้าขับรถมา พิกัด กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ ที่จอดรถก็สะดวกมาก มีการจัดระเบียบ และยังมีที่ชาร์ตรถไฟฟ้า ให้บริการด้วย บริการชาร์ตแบตเตอรี่ด้วย ติดต่อขอรับบริการที่เจ้าหน้าที่ นอกจากที่กรมการกงสุลแล้ว ยังสามารถทำหนังสือเดินทางได้ที่จุดบริการอื่นๆ ได้ รายละเอียด สถานที่ให้บริการหนังสือเดินทาง อาจจะมีข้อแตกต่างเล็กน้อย เช่น ถ้าต้องการรับเล่มด้วยตัวเอง สามารถทำได้ที่ กรมการกงสุลเท่านั้น และยังมีบริการรับรองหนังสือต่างๆอีกด้วยค่ะ

ที่มา : กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ