นับเป็นอุทาหรณ์ที่ไม่ควรมองข้ามเลยนะคะ สำหรับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่งที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้เสียชีวิตถึง 5 คน โดยสันนิฐานว่าเสียชีวิตจากการถูกทรายดูดนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นบทความนี้ จึงจะมานำเสนอ วิธีการเอาตัวรอดจากทรายดูด การพยุงตัวไม่ให้จม และการสังเกตพื้นที่เสี่ยงมาฝากกันค่ะ
เปิดวิธีเอาตัวรอดทรายดูด เบื้องต้นเลยนะคะ แนะนำว่าต้องคุมสติให้ดีค่ะ เพราะหากตกลงไปแล้ว ยิ่งดิ้นจะยิ่งจมเลยค่ะ และวิธีสังเกตพื้นที่เสี่ยงไม่ควรเข้าไปนะคะ
ทราย และโคลนทุกที่สามารถกลายเป็นทรายดูดชั่วคราวได้นะคะ หากมันชุ่มน้ำมากพอหรือเกิดการสั่นสะเทือน ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่เกิดแผ่นดินไหวค่ะ ระวังพื้นที่ที่อาจมีทรายดูดอยู่ ทรายดูดเป็นแค่ประเภทหนึ่งของดิน มันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ที่มีน้ำผสมรวมกันกับทราย ทำให้เนื้อดินเหลวเป็นพิเศษนั่นเองค่ะ วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงทรายดูด คือการรู้จักสังเกตบริเวณ หรือพื้นที่เสี่ยงนั่นเองค่ะ โดยทรายดูดมักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ดังนี้ค่ะ
• ชายฝั่งที่น้ำพัดผ่าน
• หนองบึง และแอ่งน้ำ
• ใกล้ชายฝั่งทะเลสาบ
• ใกล้น้ำพุใต้ดิน
วิธีเอาตัวรอดจากการถูกทรายดูด
– ตั้งสติให้ดี อย่าตื่นตระหนกจนเกินไป ขยับตัวให้ช้าและนิ่งที่สุด
หากคุณติดอยู่ในทรายดูดแล้ว การดิ้นไปมาอย่างตื่นกลัวจะยิ่งทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงนะคะ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม จงขยับตัวให้ช้าเข้าไว้ การขยับตัวช้าๆ จะเป็นการลดแรงสั่นสะเทือน ส่วนการขยับตัวอย่างรวดเร็ว จะยิ่งเพิ่มแรงสั่น ทำให้ดินกลายเป็นทรายดูดมากขึ้น ซึ่งปกติแล้วทรายดูดจะลึกไม่มาก แต่ถ้าคุณเข้าไปยังส่วนที่ลึกมาก คุณก็อาจจมลงทรายดูดอย่างรวดเร็วจนถึงช่วงเอว หรืออกได้ หากคุณยิ่งตื่นตกใจคุณก็จะจมเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณสงบใจ และผ่อนคลาย คุณก็จะสามารถลอยตัวได้ หายใจเข้าลึกๆ การหายใจเข้าลึกๆ ไม่ได้แค่ช่วยให้ใจสงบลงเพียงเท่านั้น แต่ยังทำให้คุณลอยตัวได้ง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดให้ได้มากที่สุด ตราบใดที่ปอดของคุณยังเต็มไปด้วยอากาศ คุณก็จะไม่จมนั่นเองค่ะ
– ทิ้งของทุกอย่าง เพราะว่าหากตัวของคุณเบาลง คุณก็จะไม่จมลงไปทั้งตัว
นอกเสียจากว่าคุณจะตื่นตกใจ และดิ้นไปมา หรือมีอะไรถ่วงน้ำหนัก หากคุณสามารถถอดรองเท้าได้ ก็จงถอดมันออก รองเท้าที่มีพื้นรองเท้าแบนและไม่ยืดหยุ่น เช่น รองเท้าบูท จะสร้างแรงดูดเมื่อคุณพยายามดึงมันออกจากทรายดูด
– เคลื่อนตัวเป็นแนวตรง
หากคุณรู้สึกว่าเท้าของคุณติด ให้รีบถอยหลังออกสองก้าวก่อนที่จะโดยทรายดูดรั้งไว้ ปกติแล้วเนื้อโคลนจะใช้เวลาเป็นนาทีกว่าจะเริ่มเหลว ซึ่งหมายความว่า วิธีที่ดีที่สุดในการไม่ทำให้ตัวเองติดอยู่ในทรายดูด ก็คือระวังไม่ให้เข้าไปติดตั้งแต่แรก การก้าวต่อไปข้างหน้าอาจจะทำให้สามารถดึงเท้าออกมาได้ข้างหนึ่งก็จริง แต่ก็จะทำให้เท้าอีกข้างจมลงไปลึกกว่าเดิม ซึ่งจะยิ่งทำให้คุณออกจากทรายดูดทั้งตัวได้ยากขึ้นไปอีก
– เอนหลัง นั่งลง และเอนหลังหากเท้าของคุณจมลงอย่างรวดเร็ว
การเพิ่มช่องว่างที่เท้าจะช่วยให้เท้าของคุณหลุดออกมาได้ โดยการลดแรงดันที่เกิดขึ้น และทำให้เท้าลอยขึ้นได้ เมื่อคุณรู้สึกว่าช่องว่างตรงเท้าหลวมมากขึ้นแล้ว ให้กลิ้งไปด้านข้างออกจากทรายดูด ตัวคุณจะเลอะโคลน แต่นี่เป็นวิธีที่เร็วที่สุด และปลอดภัยที่สุดในการเอาตัวรอดจากทรายดูดเลยนะคะ
วิธีขึ้นจากทรายดูด
– ว่ายหนีทรายดูด
เอนหลัง และเริ่มว่าย หากตัวของคุณจมลงจนถึงเอว หรือสูงกว่านั้น ให้คุณเอนหลังลงไป ยิ่งคุณกระจายน้ำหนักออกไปมากเท่าไร ตัวของคุณก็จะจมลงได้ยากขึ้น ใช้หลังลอยตัวในขณะที่ค่อยๆ ยกขาออก เมื่อขาของคุณหลุดออกมาได้แล้ว คุณก็จะสามารถเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ ได้ โดยการกวาดแขนอย่างช้าๆ เพื่อเคลื่อนตัวไปด้านหลัง คล้ายกับกำลังว่ายน้ำอยู่ เมื่อคุณเคลื่อนตัวเข้าใกล้ฝั่งแล้ว คุณก็จะสามารถกลิ้งตัว
– ออกจากทรายดูดได้ใช้ไม้เท้า
พกไม้เท้าเดินป่าไปด้วยทุกครั้ง ที่คุณไปในที่ที่มีโอกาสจะเจอทรายดูด ทันทีที่ข้อเท้าของคุณจมลง ให้วางไม้บนพื้นผิวของทรายดูดในแนวตรงไปด้านหลัง เอนตัวลงบนไม้เท้า ไม่นานคุณก็จะทรงตัวบนทรายดูดได้ และก็จะหยุดจม ขยับไม้เท้าไปยังตำแหน่งใหม่ใต้เอว ไม้เท้าจะกันไม่ให้เอวของคุณจมลง โดยคุณจะต้องขยับตัวแต่ละครั้งอย่างรวดเร็ว เพราะแรงดันจากทรายจะสามารถหยุดการไหลเวียนของเลือด ทำอันตรายให้แก่เส้นประสาท ทำให้ขาชา และทำให้คุณไม่สามารถออกจากทรายดูดได้หากไม่มีคนมาช่วย ต่างกับในภาพยนตร์และในโทรทัศน์ การติดอยู่ในทรายดูดไม่ใช่สาเหตุหลักของการเสียชีวิต แต่เป็นเพราะระดับน้ำในทรายดูดที่คนจมลงไปต่างหากค่ะ
หากคุณไปเดินป่ากับคนอื่นในพื้นที่ที่อาจจะเจอทรายดูดได้ ให้คุณนำเชือกที่ยาวอย่างน้อย 20 ฟุต (6.1 เมตร) ไปด้วย เพราะหากใครคนใดคนหนึ่งติดอยู่ในทรายดูด อีกคนจะได้ยืนบนฝั่ง และช่วยดึงเพื่อนร่วมทางออกจากทรายดูดได้ แต่ถ้าคนที่ยืนอยู่บนฝั่งไม่แข็งแรงพอที่จะช่วยดึงได้ ก็ให้ผูกเชือกไว้กับต้นไม้หรือสิ่งที่มั่นคงแทน คนที่ติดอยู่ในทรายดูดจะได้ใช้ดึงเพื่อพาตัวเองขึ้นฝั่ง จบผ่อนคลาย และพยายามต่อไปโดยอย่าทำให้ตัวเองเครียด ก็จะช่วยให้สามารถหลุดพ้นจากสถานการณ์เลวร้ายได้นะคะ
ที่มา : wikihow