On Running เป็นรองเท้าวิ่งแบรนด์ On จากสวิตเซอร์แลนด์ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2010 มาพร้อมคอนเซ็ปต์สวมใส่สบาย เริ่มต้นด้วยการก้าวเท้าได้อย่างนุ่มนวลราวกับวิ่งบนก้อนเมฆ ตามด้วยการพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยปลายเท้าที่มั่นคง เนื่องจากมีเทคโนโลยี CloudTec อันเป็นเอกลักษณ์ที่เป็นโฟมชั้นเยี่ยม และแผ่น Speedboard ช่วยให้เคลื่อนไหวได้คล่องตัว เสริมสมรรถนะ และประสิทธิภาพในการวิ่งให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากช่วยกันกระแทก ซัพพอร์ตเท้า และมอบความนุ่มสบายแล้ว ยังผลิตรองเท้าจากวัสดุคุณภาพสูงและทนทาน รวมถึงมีการออกแบบอัปเปอร์ตาข่ายเชิงวิศวกรรม ให้ความยืดหยุ่นและระบายอากาศได้ดี ที่สำคัญ หลาย ๆ รุ่นมีการออกแบบให้ตอบโจทย์รูปแบบการออกกำลังกายที่หลากหลายในคู่เดียวทั้งวิ่งระยะสั้น, เดินไกล, วิ่งมาราธอน และคลาสออกกำลังกายจึงสามารถสวมใส่ได้หลายโอกาส ทั้งรองเท้าวิ่งและรองเท้าสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ตลอดทั้งวันอีกด้วยค่ะ
จุดเริ่มต้นของ On เกิดขึ้นจาก Olivier Bernhard นักไตรกีฬามืออาชีพ เขาครองแชมป์การแข่งขัน Ironman หรือไตรกีฬาสุดหฤโหดสำหรับมนุษย์เหล็กถึง 6 สมัยด้วยกันแต่หลังจบอาชีพนักกีฬาลงในปี 2009 เขาไปเป็นโค้ชสอนวิ่ง แล้วก็ค้นพบว่าสิ่งที่ขาดหายไปตลอดชีวิตของการนักกีฬา ก็คือรองเท้ากีฬาที่ถูกใจ เขาจึงเริ่มทดลองทำรองเท้าของตัวเองขึ้นมา และด้วยความเป็นนักกีฬามาก่อน ทำให้เขารู้ดีว่ารองเท้าที่นักกีฬาต้องการเป็นแบบไหน เพราะฉะนั้นแล้ว On Running จึงเป็นแบรนด์ที่เกิดมาเพื่อนักวิ่งโดยเฉพาะ เพราะผู้ก่อตั้งเป็นคนที่รักการวิ่งเป็นอย่างมาก และเข้าใจดีว่านักวิ่งต้องการรองเท้าแบบไหนนั่นเองค่ะ รองเท้าของแบรนด์นี้จึงมีจุดเด่นที่น้ำหนักเบา ใส่สบาย และใช้งานต่อเนื่องได้นาน โดยได้มีการพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ จนเกิดรองเท้าอีกหลายรุ่นเพื่อรองรับทั้งนักวิ่งมาราธอน นักวิ่งเทรล รวมไปถึงรองเท้าสำหรับวิ่งออกกำลังกายทั่วไปหรือเข้าฟิตเนสอีกด้วยค่ะ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกรองเท้า On Running แบบง่าย ๆ สำหรับนักวิ่ง และคนรักการออกกำลังกายกันค่ะ
วิธีการเลือกรองเท้า On Running
รองเท้า On Running นั้นมีหลากหลายรุ่นให้ได้เลือกสรรกันนะคะ ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้ใช้นั่นเองค่ะ ว่าต้องการรองเท้าที่มีคุณสมบัติอย่างไร รองรับการใช้งานได้แค่ไหน โดยอาจเลือกได้ตามวิธีการเลือก ดังต่อไปนี้
การเลือกรองเท้าวิ่งที่ดีนั้น ไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยนะคะ นอกจากจะต้องเลือกขนาดและความพอดีให้เหมาะกับเท้า พร้อมตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อเท้าสามารถขยับได้สะดวกแล้ว ยังควรเลือกรองเท้าให้เหมาะสำหรับประเภทการวิ่งอีกด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นวิ่งบนลู่, วิ่งบนถนน, วิ่งในสวน หรือวิ่งมาราธอน เพื่อลดโอกาสการเกิดการบาดเจ็บ นั่นเองค่ะ
1. รองเท้าสำหรับวิ่งออกกำลังกายทั่วไป เข้าฟิตเนส
ควรเลือกรองเท้าประเภทเทรนนิ่ง ที่ออกแบบเพื่อรองรับการเคลื่อนไหวไปด้านข้าง ทรงตัวได้ดี ผสมผสานความยืดหยุ่นเข้ากับการดูดซับแรงกระแทก โดยแนะนำให้เลือกรองเท้าที่มีพื้นรองเท้าดรอปต่ำ 0 ถึง 4 มม. เพราะพื้นรองเท้าที่หนามากเกินไปอาจทำให้เกิดอันตรายจากการสะดุด เมื่อเคลื่อนที่ไปด้านข้าง ทั้งยังควรมีพื้นรองเท้าชั้นนอกที่มีความทนทานและให้การยึดเกาะเป็นอย่างดี โดยรุ่นที่ได้รับความนิยม ได้แก่
– รุ่น Cloudflash
– รุ่นCloudswift
– รุ่น Cloudnova
– รุ่น Cloud X 3
– รุ่น Cloudsurfer
– รุ่น Cloud Runner
– รุ่น Cloud 5
2. รองเท้าสำหรับวิ่งแข่งขัน
ควรเลือกรองเท้าที่ได้รับการออกแบบให้น้ำหนักเบาเพื่อทำความเร็ว พร้อมพื้นรองเท้าชั้นกลางที่มีความหนาแน่นปานกลางและมีเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่ง ช่วยในเรื่องการสวมใส่สบาย, ดูดซับแรงกระแทก, ส่งแรงคืน, เคลื่อนไหวได้เต็มที่ และให้การยึดเกาะพื้นที่ดี หากเป็นการวิ่งแข่งระยะสั้น ควรเลือกรองเท้าที่พื้นดรอปไม่สูงมากเพื่อให้ความรู้สึกคล่องตัวและเอื้อต่อการก้าวเท้าที่เร็วขึ้น โดยรองเท้าวิ่งแข่งของแบรนด์ On ได้แก่
– รุ่น Cloudboom Echo และ
– รุ่นCloudneo เป็นต้น
3. รองเท้าสำหรับวิ่งมาราธอน หรือวิ่งระยะไกล
ควรให้ใส่ใจคุณสมบัติความสบายเป็นหลัก เพราะการวิ่งเป็นระยะเวลานาน เท้าก็จะยิ่งบวมและมีเหงื่อออกมาก จึงควรเลือกรองเท้าที่มีการออกแบบพื้นชั้นกลางด้วยเทคโนโลยีหรือโฟมที่ช่วยรองรับแรงกระแทก, คืนพลังงานสูง, มอบความนุ่มสบายตั้งแต่ส้นจรดปลายเท้า พร้อมมีอัปเปอร์ที่ระบายอากาศได้ดีช่วยควบคุมความชื้น รวมถึงมีน้ำหนักเบาพอที่จะไม่ถ่วงน้ำหนักขณะวิ่งและมีความมั่นคงเพียงพอสำหรับการออกตัว โดยรองเท้าวิ่งระยะไกลของแบรนด์ On ได้แก่
– รุ่น Cloudflyer
– รุ่น Cloudmonster และ
– รุ่น Cloudstratus
4. รองเท้าสำหรับวิ่งเทรล หรือวิ่งวิบาก เดินป่า
ควรเลือกรองเท้าที่ผลิตมาเพื่อการวิ่งเทรลโดยเฉพาะ เพราะมีการออกแบบรองเท้าให้แข็งแรงทนทานช่วยป้องกันเศษดินและเศษหิน, รองรับแรงกระแทก, ระบายอากาศดีเยี่ยม รวมถึงมอบการก้าวเท้าอย่างมั่นคงและยึดเกาะพื้นได้ดีทั้งพื้นแห้งและพื้นเปียกด้วยดอกยางลึก ทำให้ผจญภัยในเส้นทางออฟโรดที่มีหิน, โคลน, รากไม้ หรือสิ่งกีดขวางอื่น ๆ ได้ดี โดยรองเท้าวิ่งเทรลที่ได้รับความนิยม ได้แก่
– รุ่น Cloudvista
– รุ่น Cloudultra
– รุ่น Cloudventure Peak
– รุ่น Cloundhorizon
– รุ่น Cloudalpine Waterproof
5. รองเท้า On Running รุ่นที่มีน้ำหนักเบา ใส่สบาย สำหรับใส่เดินทางท่องเที่ยว
รองเท้า On Running นั้นขึ้นชื่อเรื่องน้ำหนักเบา ใส่สบาย มีการปกป้องเท้าที่ดีอยู่แล้ว แต่หากต้องการใช้เดินทางท่องเที่ยวที่ต้องเจอพื้นผิวหลายแบบ ก็ควรเลือกรุ่นที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น
– รุ่น On Cloud Dip และ
– รุ่น On Cloud X2
เพราะนอกจากจะมีน้ำหนักเบาแล้ว ก็ยังมีความยืดหยุ่น ระบายอากาศ และยังรับแรงกระแทกได้ดี ช่วยให้ไม่เมื่อยได้ด้วย
– รุ่น On Cloudnova Wrap เป็นรุ่นที่ใช้ริบบิ้นแทนเชือกผูกรองเท้า ที่มีทั้งความสวยและความคล่องตัวกว่ารุ่นที่ต้องผูกเชือกรองเท้า
– รุ่น Cloundtilt
6. รองเท้า On ที่ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง เล่นฟิตเนส หรือจะเล่นกีฬาอื่น ๆ ได้แก่
– รุ่น On Cloud X2 เพราะรองเท้ารุ่นนี้มีเทคโนโลยี CloudTec® และโฟม Zero-Gravity ที่ทำให้มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย นุ่มเท้า รองรับแรงกระแทกได้ดี ทั้งยังยึดเกาะได้ทุกพื้นผิว
7. สำหรับรองเท้ารุ่นนี้ มีความอเนกประสงค์สามารถใช้งานตั้งแต่ Fast training ,ฝึกซ้อมวิ่ง, วิ่งระยะสั้น 5K ไปจนถึงวิ่งมาราธอนและวิ่งเทมโป จนได้รับการขนานนามว่ารองเท้าที่นุ่มเด้งที่สุดของ On ตั้งแต่เคยมีมาได้แก่
– รองเท้ารุ่น Cloudsurfer เป็นรองเท้ารุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ on ซึ่งได้รับการพัฒนาผ่านเทคโนโลยี FEA (Finite element analysis) ที่จำลองด้วยคอมพิวเตอร์ จากนั้นผลิตพื้นชั้นกลางแบบใหม่อย่างเทคโนโลยี CloudTec Phase สร้างขึ้นด้วยโฟม Helion Superfoam เพื่อมอบการขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างราบรื่นโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีแผ่น Speed board รุ่นนี้จึงมีความพิเศษที่น้ำหนักเบา มอบความนุ่มสบายตั้งแต่การลงส้นเท้าไปจนถึงปลายเท้า แต่ยังให้การยึดเกาะมั่นคง และมีความทนทานทั้งในสภาพเปียก และแห้งด้วยแผ่นยางแบบบางที่พื้นรองเท้าชั้นนอก
และนอกจากรุ่นต่างๆที่แนะนำมาแล้วนั้น รองเท้าของแบรนด์ on ยังมีตัวเลือกอีกมากมายหลายรุ่นจริงๆค่ะ ใครสนใจรุ่นที่นอกเหนือจากนี้ก็สามารถไปดูเพิ่มเติมได้จากแอพพลิเคชันของ on แบรนด์ได้เลยนะคะ สามารถดาวโหลดแอปได้ทั้ง Android และ IOS เลยค่ะ
ที่มา :on-running.com