บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง ผลกระทบของการดื่มน้ำน้อยเกินไป ทำให้ร่างกายขาดน้ำกันนะคะ เรามักได้ยินกันว่าให้ดื่มน้ำในปริมาณ 8-9 แก้วต่อวันเพื่อสุขภาพที่ดีใช่ไหมคะ นั่นเป็นเพราะว่า หากร่างกายของเราขาดน้ำ ก็อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพอย่างมาก ถึงขั้นทำให้สมองเสื่อมหรือสูญเสียการมองเห็นได้เลยทีเดียวนะคะ

เพราะว่า “การดื่มน้ำน้อย” ส่งผลกระทบกับ “การไหลเวียนของเลือด” โดยตรงเลยนะคะ หากร่างกายได้รับน้ำที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็จะส่งผลให้เลือดข้นหนืด และทำให้น้ำเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะและระบบต่างๆ ของร่างกายได้ไม่เพียงพอ จนส่งผลกระทบต่ออวัยวะต่างๆ ดังนี้ค่ะ

– สมอง หากได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงไม่พอ อาจทำให้เกิดอาการความจำเสื่อมถอย

– ตา ทำให้เลือดคั่งที่ตา สูญเสียการมองเห็น

– หัวใจ ลิ่มเลือดอุดตัน

– ไต ขับสารพิษได้น้อยลง กรดยูริก แคลเซียม ตกค้างเกิดเป็นนิ่ว

– ระบบขับถ่าย ท้องผูก ลำไส้บีบตัวน้อยลง

และเมื่ออวัยวะต่างๆ ทำงานได้ไม่เต็มที่จากภาวะขาดน้ำ ก็จะส่งผลต่อเนื่องให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ

– ริดสีดวงทวาร
เมื่อระบบขับถ่ายมีปัญหา ก็อาจจะลามไปจนถึงเป็นริดสีดวงได้ค่ะ เพราะว่าของเสียที่จะถูกขับถ่ายนั้นแข็งและแห้งเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดริดสีดวงทวาร

– ปวดข้อและหมอนรองกระดูก
เพราะระหว่างข้อต่อและหมอนรองกระดูกมีน้ำอยู่ถึง 80% เมื่อร่างกายได้รับน้ำน้อย ก็ทำให้ข้อต่อและหมอนรองกระดูกแห้ง ส่งผลให้เกิดการปวดหรือบาดเจ็บตามข้อต่อได้

– กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เมื่อน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ปัสสาวะจะมีสีเข้ม และอาจมีกลิ่นฉุน และจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่างได้ง่ายกว่าคนทั่วไป

– นิ่วในถุงน้ำดี
เมื่อน้ำไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลให้มีสารก่อนิ่วที่ตกตะกอนมากกว่าปกติ จึงอาจเป็นเหตุให้เกิดโรคนิ่วในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ เช่น นิ่วในถุงน้ำดีได้

– ประจำเดือนมาไม่ปกติ
สำหรับสตรีหากดื่มน้ำน้อย ก็อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอและเป็นลิ่มเลือดได้ค่ะ รวมถึงอาจทำให้ปวดท้องประจำเดือนมากขึ้น

เพราะฉะนั้นทุกคนคงเห็นแล้วนะคะว่า การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันนั้นมีความสำคัญมากขนาดไหน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว

– ควรดื่มน้ำประมาณวันละ 8 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตรนะคะ
– หรืออาจใช้สูตรคำนวณ น้ำหนัก (กิโลกรัม) คูณด้วย 2.2 คูณด้วย 30 หารด้วย 2 ก็จะได้ปริมาณน้ำเป็นมิลลิลิตร ที่เราควรดื่มใน 1 วันก็ได้เช่นกันค่ะ
– หรือวิธีสังเกตง่ายๆ ว่าดื่มน้ำเพียงพอแล้วหรือยัง ก็คือปัสสาวะจะมีสีเหลืองใสนั่นเองค่ะ

แต่อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น เบาหวาน โรคไต ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแล เกี่ยวกับปริมาณน้ำดื่มที่ควรดื่มในแต่ละวันก่อนด้วยนะคะ เพราะในบางโรค เช่น โรคไต อาจมีการจำกัดปริมาณน้ำที่ควรดื่มเอาไว้ด้วยนั่นเองค่ะ

ที่มา : โรงพยาบาลวิภาวดี, Rama Channel