ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์” ถือเป็น “มหันตภัยร้าย” ของผู้ใช้รถยนต์เลยก็ว่าได้นะคะ เป็นภัยใกล้ตัวที่หลายคนคาดไม่ถึง และสามารถ “คร่าชีวิต” แบบไม่รู้ตัว และเป็นอันตรายที่สุด หากจอดรถติดเครื่องยนต์ แล้วเปิดแอร์นอนในรถนั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนชอบทำ และรู้ไหมคะ ว่ามีคนเสียชีวิตจริงๆ จากเหตุการณ์ติดเครื่องเปิดแอร์นอนในรถมาแล้วนะคะ โดยแทบจะทุกปี มักจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว หลายคน หลายหน่วยงาน ต่างออกมาให้ความรู้ และเตือนภัยทุกครั้ง ที่มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น ได้แก่ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) และ แพทย์นิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ นั่นเองค่ะ บทความนี้จึงจะมานำเสนอเกี่ยวกับภัยร้ายของ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ กันค่ะ แต่ก่อนอื่นเลย เรามาทำความรู้จักกับก๊าซตัวนี้กันก่อนเลยนะคะ

 

คาร์บอนมอนอกไซด์ มีสูตรทางเคมีคือ “CO” เป็นก๊าซที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส แต่มีความเป็นอันตรายอย่างร้ายแรง ต่อระบบลำเลียงเลือดนะคะ โมเลกุลประกอบไปด้วยคาร์บอนหนึ่งอะตอม และออกซิเจนหนึ่งอะตอมเชื่อมกันด้วยพันธะโควาเลนต์ อาจจัดได้ว่าเป็นสารประกอบแอนไฮไดรด์ อย่างหนึ่งของกรดฟอร์มิก

ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ของสารประกอบคาร์บอน โดยเฉพาะเครื่องยนต์สันดาปภายใน ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ จะเกิดได้มากเมื่ออกซิเจนไม่เพียงพอในการสันดาป ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ การเผาไหม้ในอากาศจะเกิดเปลวเพลิงสีน้ำเงิน และให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา แม้ว่าก๊าซ Co จะมีความเป็นพิษอย่างร้ายแรง แต่ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ ก็มีประโยชน์ในโลกปัจจุบันอย่างมากเช่นกันนะคะ เพราะเป็นสารตั้งต้นในการผลิตผลิตภัณฑ์อย่างอื่นนานาชนิดนั่นเองค่ะ

 

 

 

การนอนในรถยนต์ และติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ที่หลายคนคิดแค่ว่า เพื่อความสบายในการพักผ่อนนั้น ถือเป็นความคิดที่ “ผิดอย่างร้ายแรง” เลยนะคะ อาจจะด้วยความเข้าใจว่า การเปิดแอร์ คือการหมุนวนอากาศภายในห้องโดยสาร ทั้งที่ความจริงแล้ว ห้องโดยสายในรถยนต์นั้น ไม่ใช่ห้องที่ถูกผนึกแน่น จนอากาศไม่สามารถไหลเวียนได้ แต่ทว่าตามช่องประตู หรือรูอุดที่ไม่เห็นในห้องโดยสารรถยนต์ ยังคงมีช่องทางให้อากาศไหลเวียนได้ซ่อนอยู่อีกด้วยนะคะ

 

ทันทีที่สตาร์ทเครื่องยนต์ในแต่ละครั้ง เครื่องยนต์จะปล่อย “ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์” ซึ่งเป็น “ก๊าซพิษ” ออกมา โดยขณะที่รถยนต์วิ่ง ระบบแอร์ที่ถูกเปิดอยู่ จะดูดอากาศจากภายนอก เข้ามาหมุนเวียนอยู่ในรถตลอดเวลา เช่นเดียวกับตอนที่เราเปิดแอร์เพื่อนอนหลับ โดยในขณะที่รถยนต์จอดแน่นิ่งอยู่กับที่ ไม่ได้วิ่งไปไหนนั้น ระบบแอร์ก็จะดูดอากาศจากด้านนอกเข้ามาสู่ห้องโดยสารเช่นกัน แต่ครั้งนี้จะเป็นอากาศที่มี “ก๊าซพิษ” ผสมอยู่ด้วย ซึ่งระหว่างที่เรากำลังนอนหลับอยู่แบบไม่รู้สึกตัวนั้น ฝันร้ายก็กำลังคืบคลานมาเยือน เพราะกำลังนอนสูดควันพิษจาก “ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์” เข้าไปแบบเต็มๆ นั่นเองค่ะ ยิ่งนอนหลับไปนานเท่าไร ก็เท่ากับได้รับ “ก๊าซพิษ” มากเท่านั้น และ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ตัวร้ายนี้ จะกลายเป็น “มัจจุราช” ฆ่าคนในรถได้เลยนะคะ

ทาง ศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ ได้ระบุถึงอันตรายของการสูดดม “ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์” ขณะนอนเปิดแอร์ในรถเอาไว้ว่า หากมีการสะสมก๊าซชนิดนี้ในร่างกายปริมาณมาก จะส่งผลให้ระดับ “ฮีโมโกลบิน” ในร่างกายของเราให้ลดต่ำลงด้วย ซึ่งจะเกิดอาการระคายเคือง ปวดศีรษะ เซื่องซึม เคลิบเคลิ้ม สั่นกระตุก หายใจติดขัด หัวใจเต้นผิดปกติ และมีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุดได้เลยค่ะ

 

 

ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ส่งผลร้ายต่อร่างกายได้อย่างไร?

ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นอีกหนึ่งก๊าซพิษที่ทำร้ายร่างกาย มีความอันตรายถึงชีวิต โดยที่ก๊าซดังกล่าวยังคงปะปนอยู่ในอากาศ หลายครั้งที่มีการสูดดมเข้าไปในปริมาณมากก่อให้เกิดโรคร้ายตามมา และบางกรณียังทำให้เสียชีวิตฉับพลัน จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามและควรทำความเข้าใจถึงผลเสียต่อร่างกายโดยละเอียด

 

 

 

* ร่างกายได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์
* คาร์บอนมอนอกไซด์แย่งจับฮีโมโกบินในเม็ดเลือดแดง
* ทำให้ฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงส่วนที่เหลือไม่ปล่อยออกซิเจนให้กับเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
* ร่างกายขาดออกซิเจน เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ
* ทำให้เกิดอาการ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เจ็บแน่นหน้าอก หอบเหนื่อย หมดสติ ชัก โคม่า และเสียชีวิตในที่สุด

และแม้ว่า หลายคนอาจจะรับรู้ถึงอันตรายในการได้รับก๊าซพิษ จากการเปิดแอร์นอนในรถที่จอดอยู่ แต่บางครั้งก็อาจหลีกเลี่ยงได้ยากเหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาขับรถเดินทางไกลๆ แล้วร่างกายก็อ่อนเพลีย ง่วงนอน ต้องการพักผ่อนสั้นๆเพื่อ “ชาร์จพลัง” ใช่ไหมคะ ดังนั้นเรามาดูกันนะคะ ว่าควรจะทำอย่างไรดี ถึงจะนอนในรถได้อย่างปลอดภัย

          สำหรับข้อแนะนำง่ายๆ หากจำเป็นต้องนอนในรถ

 

 

1. หาสถานที่เหมาะสม
เมื่อเริ่มรู้สึกง่วงขณะขับขี่รถแล้ว พยายามหาที่เหมาะสมในการจอดรถ ซึ่งควรจอดในสถานีบริการอย่างปั๊มน้ำมัน ถ้าเป็นไปได้ หรือถ้าไม่มีก็พยายามหาจุดที่เป็นชุมชน ป้อมตำรวจทางหลวง หรือไม่ก็มีแสงไฟสลัวๆ ดีกว่า เพื่อป้องกันโจรไปด้วยในตัว

2. ดับเครื่องยนต์ แล้วลดกระจก
เมื่อจอดแล้วดับเครื่องยนต์ทันที แล้วแง้มกระจกลงสักนิดของประตูรถทั้งหมด เป็นช่องแค่พอฝ่ามือสอด

3. ใช้พัดลมแอร์ช่วย
เมื่อพร้อมจะหลับ ก็ให้บิดกุญแจไปที่จังหวะออน เพื่อให้ระบบไฟฟ้าทำงาน จากนั้นเปิดสวิตช์แอร์ เมื่อเปิดแล้วให้หาปุ่มที่เขียนว่า “A/C” หรืออาจจะเป็นรูปรถ ที่มีลูกศรชี้เข้ามาในตัวรถจากภายนอก ให้เลือกกดปุ่มดังกล่าว ซึ่งพัดลมแอร์จะดูดอากาศมาหมุนเวียนในห้องโดยสาร ถึงแม้จะไม่เย็นเหมือนแอร์ แต่ก็พอให้เคลิ้มหลับได้สบาย

 

นอกจากนี้ระหว่างเดินทาง ไม่ว่าขณะรถวิ่ง หรือรถจอดติดนานๆ ก๊าซก็อาจจะไหลเข้ามาในรถได้นะคะ อาจทำให้เรารู้สึกง่วงนอนได้ ดังนั้น หากใครที่ขับรถแล้ว รถติดเป็นระยะเวลานานจนรู้สึกง่วง ก็ควรเปิดกระจกระบายอากาศบ้าง และเช่นเดียวกัน หากระหว่างรถกำลังวิ่งอยู่ ถ้าได้กลิ่นเหมือนควันรถ ก็ควรเปิดกระจกเพื่อระบายอากาศด้วยนะคะ เพื่อความไม่ประมาท และความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคนนั่นเองค่ะ