กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มีการแถลงข่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, กสทช., ธนาคารแห่งประเทศไทย, สมาคมธนาคารไทย, และปปง. เกี่ยวกับพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและ ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีขึ้น

 

 

โดยกฎหมายฉบับนี้ ได้มอบอำนาจให้กับธนาคารเพื่อ ให้ธนาคารนั้นสามารถทำการระงับ การทำธุรกรรมของบัญชี ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม ไว้ได้โดยทันที ที่ผู้เสียหายแจ้งธนาคาร และผู้เสียหายต้องแจ้งความภายใน 72 ชั่วโมง โดยสามารถแจ้งความได้ทุกท้องที่ และเจ้าพนักงานแจ้งต้องระงับบัญชีต่อไปอีกเป็นเวลา 7 วัน

 

 

ปัญหาใหญ่ของการบล็อคบัญชีม้า ในการโอนเงิน คือคนร้ายมักจะใช้บัญชีจำนวนมาก แล้วโอนต่อกันเป็นทอดๆ ไปเรื่อยๆ กฎหมายจึงนี้เปิดทาง ให้สามารถบล็อคบัญชีอื่นๆ ที่มีการโอนเป็นทอดๆด้วยได้นั่นเองค่ะ อย่างไรก็ดีตอนนี้ ระบบแชร์ข้อมูลบัญชียังไม่เรียบร้อย ทำให้การบล็อคบัญชีที่โอนต่อเป็นทอดๆ ยังคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งนะคะ หลังจากนั้นระบบแชร์ข้อมูลบัญชี น่าจะเปิดให้สามารถใช้งานได้ในไตรมาสที่สามของปี 2566 นี้ค่ะ

กฎหมายฉบับนี้ยังได้กำหนดให้การเปิดบัญชีม้า และซิมม้าที่เปิดเพื่อให้ผู้อื่นนำไปใช้งานนั้นเป็นความผิด มีโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสามแสนบาท ส่วนการโฆษณาบริการบัญชีม้า และซิมม้านั้นมีโทษจำคุก 2-5 ปี และปรับ 200,000-500,000 บาทอีกด้วยนะคะ

 

 

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า  พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันนี้ 17 มีนาคม 2566 เป็นเครื่องมือสำคัญทำให้การจัดการภัยทางการเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ได้แก่ พรก.มีบทลงโทษที่ชัดเจนสำหรับผู้กระทำผิด รวมทั้งผู้เปิดบัญชีม้า และผู้ให้การสนับสนุน รวมถึงทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ตำรวจ และ ธนาคาร ให้สามารถแชร์ข้อมูลผู้กระทำผิดข้ามธนาคารได้โดยอัตโนมัติ  และสามารถบล๊อกบัญชีที่ต้องสงสัยชั่วคราวได้ทันที โดยไม่ต้องรอแจ้งความ เพื่อลดบัญชีม้าที่มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางในการเอาเงินออกจากบัญชีผู้เสียหายได้  ซึ่งสมาคมธนาคารไทยตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการจำเป็นต้องรู้เท่าทันภัยทางการเงิน และปฏิบัติตามแนวทางการใช้งานโมบายแบงกิ้งให้ปลอดภัย ซึ่งเป็นเกราะป้องกันภัยสำคัญจากภัยทางการเงิน

 

 

ที่มา – แถลงข่าวกระทรวงดิจิทัล

#mict #แก๊งคอลเซนเตอร์ #blognone #bntechnews