บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง DeepSeek AI ที่เปลี่ยนแปลงโลกจากแดนมังกรกันนะคะ ในโลกปัจจุบันนี้ต้องยอมรับเลยนะคะว่ามีการนำ AI เข้ามาใช้งานร่วมกับคนค่อนข้างมากเลยนะคะ โดยบางค่ายก็มีราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้ตอนนี้ได้มีกำเนิด AI จากจีน จากอีกสตาร์ทอัพรายหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นก็คือ DeepSeek นั่นเองค่ะ พร้อมแล้วตามมาดูกันเลยค่ะว่า AI จากแดนมังกรตัวนี้ จะมีดีอย่างไรบ้างนะคะ จะถูกลง และมีเทคโลยีที่ล้ำกว่า ChatGPT หรือไม่นั้น มาดูกันเลยค่ะ

 

 

DeepSeek AI ที่เปลี่ยนแปลงโลกจากแดนมังกร

 

 

DeepSeek คือบริษัทสตาร์ทอัพของจีน เกิดจาก High-Flyer บริษัท Hedge Fund ยักษ์ใหญ่ของจีน ที่มองเห็นศักยภาพของ AI จึงทุ่มทุน สร้างทีมนักวิจัย และวิศวกร ระดับเทพ ขึ้นมาพัฒนา AI สุดล้ำ โดยมีเป้าหมาย จะให้ AI เข้าถึงได้ง่าย และราคาถูก เพื่อให้ทุกคน ใช้งาน AI ได้ โดยการเกิดขึ้นของ DeepSeek ที่ตั้งขึ้นมา 2 ปี กับพนักงานแค่ 200 คน แต่ใช้เงินพัฒนาแค่ 190 ล้านบาท เท่ากับใช้งบน้อยพนักงานก็น้อยลงด้วยนะคะ และเรื่องที่เกินคาดก็คือ Liang Wenfeng ที่เป็นคนของ High-Flyer ได้มีการซื้อชิป Nvidia หลายพันตัวเข้ามาซุ่มทำงานกับ AI และในปี 2023 ก็ได้เกิดบริษัท DeepSeek แบบไม่ต้องใช้ทุนสูงตามที่ได้เล่าไป

โดยโมเดลของ AI ที่ DeekSeek ใช้เรียกว่า MoE หรือ Mixture of Experts เป็นการวิเคราะห์คำถาม และเลือกเป็นโหมดการเปิดปิด ผู้เชี่ยวชาญในด้านไหนนั่นเองค่ะ โดยในกรณีถ้าคนที่อยู่ตอบไม่ได้ ก็จะเปิดและให้ด้านอื่นเข้ามาตอบแทน ทำให้เกิดการลดต้นทุน และเปิดโหมเดียวที่เกี่ยวข้องในคำถามเดียวกัน ทั้งนี้ต้องบอกก่อนว่า ปัจจุบันพวกเขาใช้ชิปจาก AMD แทน Nvidia นะคะ

 

 

จุดเด่น และทีเด็ดของ DeepSeek

 

– เขียนโค้ดเก่ง DeepSeek Coder เขียนโค้ดได้คล่องแคล่ว รวดเร็ว ช่วยโปรแกรมเมอร์ทำงานได้เร็วขึ้นเยอะมาก แบะที่สำคัญยังเปิดให้ใช้ฟรีแบบ Open-Source ด้วยค่ะ

– คุยเก่ง DeepSeek LLM พูดคุยแบบเป็นภาษาคน ตอบคำถาม แปลภาษา แต่งนิทาน ทำได้สารพัด เหมือนคุยกับเพื่อนคนหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ

– ที่สำคัญ DeepSeek ใช้งานง่ายมาก โหลดแอปมาปุ๊บ ก็ใช้งานได้ทันทีเลยค่ะ ไม่ต้องมีความรู้ AI ก็สามารถใช้ได้

-แล้วยังราคาถูกกว่าเจ้าอื่นๆอีกด้วยค่ะ เป็นเหตุให้ ชาวเน็ตเลยแห่กันไปใช้ จนแอปติดอันดับ 1 ในอเมริกา แซงหน้า ChatGPT ไปแล้วค่ะ

 

แต่ DeepSeek ก็เจอปัญหาเหมือนกันนะคะ นั่นก็คือจะโดนแฮกเกอร์โจมตีบ้าง ระบบจะล่มบ้างเพราะคนแห่สมัครกันเยอะมากจริงๆค่ะ เป็น AI ตัวที่มาแรงจริง ๆเลยค่ะนาทีนี้

 

ผลดีของ DeepSeek

 

 

 

– เข้าถึง AI ง่ายขึ้น ราคาถูก ใช้งานง่าย ใครๆ ก็ใช้ AI ได้

– พัฒนา AI เร็วขึ้น DeepSeek Coder เปิดโค้ดให้คนเอาไปพัฒนาต่อได้ ทำให้ AI พัฒนาไปได้เร็วกว่าเดิม

– แข่งขันดุเดือด DeepSeek ทำให้บริษัท AI ต้องแข่งกันพัฒนา และลดราคา

สุดท้ายแล้วผู้บริโภคก็ได้ประโยชน์ที่สุดนั่นเองค่ะ

 

ผลกระทบที่ต้องระวัง

– มนุษย์เราอาจจะตกงานได้ เพราะ AI อาจจะมาแย่งงานบางอาชีพ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคน

– ข้อมูลส่วนตัว ผู้ใช้งานต้องระวังเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล

– AI อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น สร้างข่าวปลอม หรือผลคำตอบที่อาจจะทำให้เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด

 

สำหรับเรื่องราคาของ DeekSeek  แม้ DeepSeek จะยังไม่ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่ CEO ของ DeepSeek เคยให้สัมภาษณ์ว่า ราคาจะถูกกว่า OpenAI อย่างแน่นอน คาดว่าราคาจะเริ่มต้นที่ เดือนละ 1 ดอลลาร์ หรือประมาณ 35 บาท เท่านั้นนะคะ ซึ่งถูกกว่า ChatGPT เกือบ 10 เท่าเลยทีเดียวนะคะ ทั้งนี้ก็คงต้องติดตามกันต่อไปนะคะว่า การมาของเทคโนโลยี DeepSeek AI จะมาทานอำนาจของ OpenAI ที่เรียกว่าเป็นเจ้าตลาดตอนนี้ได้หรือไม่นะคะ

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : Forbes,AMD,South China Morning Post