บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง เปิด 7 วิธียืดอายุน้องแมว ให้อยู่กับทาสไปนาน ๆกันนะคะ สำหรับเจ้าของน้องแมวหลาย ๆ คนนั้น ต้องบอกเลยนะคะว่า “แมว” เป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง น้องเปรียบเสมือนเพื่อนสนิท หรือสมาชิกคนสำคัญในครอบครัว ที่เราอยากให้เขาอยู่กับเราไปนาน ๆ นั่นเองค่ะ เพราฉะนั้นสำหรับใครที่อยากให้แมวมีสุขภาพดี อายุยืนอยู่กับเราไปนาน ๆ ต้องไม่พลาดบทความนี้กันนะคะ พร้อมแล้วตามมาดูกันเลยค่ะว่า 7 วิธียืดอายุน้องแมว ให้อยู่กับทาสไปนาน ๆนั้น จะต้องทำอย่างไรบ้างนะคะ.

เปิด 7 วิธียืดอายุน้องแมว ให้อยู่กับทาสไปนาน ๆ

1. เลี้ยงแมวระบบปิด

โดยปกติแล้วแมวที่อาศัยอยู่นอกบ้านจะมีอายุเฉลี่ยเพียง 2-5 ปี ขณะที่แมวที่ถูกเลี้ยงในระบบปิด จะมีอายุเฉลี่ยถึง 15-20 ปีเลยนะคะ ทั้งนี้เพราะการปล่อยแมวให้ออกไปนอกบ้านนั้นเสี่ยงมาก ๆ เนื่องจากเขาต้องเผชิญกับอันตรายจากหลายปัจจัย เช่น การติดเชื้อจากสัตว์อื่น โดนยาฆ่าแมลง อุบัติเหตุจากรถยนต์ ไปจนถึงถูกสัตว์อื่น ๆ ทำร้าย ดังนั้นการที่เจ้าของดูแลไม่ให้น้อง ๆ ออกจากบ้านเพียงลำพัง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยยืดอายุแมวได้ค่ะ

2. แมวควรกินน้ำให้เพียงพอ

หากน้องแมวดื่มน้ำไม่เพียงพอ อาจก่อให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ ได้ เช่น โรคนิ่ว โรคไต ซึ่งส่งผลให้แมวเสียชีวิตได้ ดังนั้นเจ้าของควรสังเกตเป็นประจำว่าน้องแมวกินน้ำเพียงพอหรือไม่ หากพบว่าน้องแมวกินน้ำน้อยกว่าปกติ เจ้าของอาจหาวิธีให้น้องกินน้ำเยอะขึ้น เช่น เปลี่ยนถ้วยเป็นน้ำพุแมว เพื่อความสนุกในการกินน้ำ หรือวางน้ำไว้หลาย ๆ จุด เพราะแมวเป็นสัตว์ขี้เกียจ เพื่อให้น้องอยากกินน้ำมากขึ้น นอกจากนี้ควรหมั่นเปลี่ยนน้ำ และทำความสะอาดถ้วยน้ำของน้องแมวเป็นประจำ เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรก หรือแบคทีเรียเข้าไปได้

3. พบแพทย์เป็นประจำ

การตรวจสุขภาพเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เจ้าของทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับแมวได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และสามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้การพาน้องแมวไปรับวัคซีนที่จำเป็นในแต่ละปีก็สำคัญเช่นเดียวกัน

4. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

แมวน้ำหนักเกิน มีความเสี่ยงในโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ข้ออักเสบ และโรคหัวใจมากกว่าแมวตัวอื่นๆ ดังนั้นเจ้าของควรสังเกตว่าแมวของเรามีเกณฑ์อ้วนหรือไม่ หากพบว่าอ้วน ควรเริ่มควบคุมน้ำหนักแมวด้วยวิธีที่เหมาะสม ผ่านการออกกำลังกาย และลดปริมาณอาหารน้องลง แต่ไม่ควรลดในปริมาณเยอะ ๆ ทันที เพราะอาจทำให้แมวขาดสาอาหารที่จำเป็นบางชนิด ดังนั้นเจ้าของสามารถเลือกเป็นอาหารแมว ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของการลดน้ำหนัก

5. แปรงขนแมวเป็นประจำ

การแปรงขนแมวเป็นประจำ ไม่เพียงช่วยให้ขนแมวเงางาม แต่ยังช่วยลดโอกาสการเกิดก้อนขนในแมว ซึ่งเกิดจากการที่แมวเลีย และแทะขนตัวเองเข้าไป ทำให้เกิดเป็นก้อนขนที่อาจไปติดอยู่ในกระเพาะ หรือลำไส้ของแมว จนเกิดอันตรายได้ นอกจากนี้การแปรงขนเป็นประจำ ยังช่วยให้เจ้าของสามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวหนังแมว เช่น ก้อนเนื้อใหม่ แผล หรือตุ่ม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางสุขภาพได้

6. เลือกอาหารที่ดีและเหมาะสมต่อแมว

“อาหาร” ถือเป็นด่านแรกที่ทำให้แมวสุขภาพดี ดังนั้นเจ้าของควรเลือกอาหารที่มีคุณภาพ และเหมาะสมกับช่วงวัย รวมถึงต้องมีสารอาหารครบถ้วน มีสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อแมว

7. เจ้าของควรมีเวลาให้น้องแมว

ถึงแม้ว่าแมวจะดูเหมือนหยิ่ง ๆ ไม่ต้องการความสนใจจากมนุษย์ แต่ความจริงแล้วน้องแมวต้องการเวลา และความรักจากเจ้าของมากกว่าที่เราคิด ดังนั้นการใช้เวลาร่วมกับแมว เช่น การเล่น หรือการนั่งใกล้ ๆ ก็จะช่วยให้แมวรู้สึกปลอดภัย และมีความสุข ไม่เครียด ซึ่งส่งผลให้สุขภาพของแมวดีขึ้นอีกด้วยนะคะ