บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง อัพเดท iOS 18 มีฟีเจอร์ใหม่อะไรบ้าง อุปกรณ์ Apple แต่ละรุ่นจะได้รับฟีเจอร์ไม่เท่ากันนะคะ หลังจาก Apple จัดงานเปิดตัว iPhone 16 และ iPhone 16 Pro รุ่นใหม่ รวมถึง Apple Watch Series 10 และ Airpods 4 รุ่นใหม่ ทั้งนี้เมื่อโทรศัพท์รุ่นเหล่านี้วางจำหน่ายในวันที่ 20 กันยายน ซึ่งรวมถึงประเทศไทยก็อยู่ในกลุ่มแรกที่ได้ซื้อ iPhone 16 ด้วย ก็จะมี iOS 18 ติดตั้งมาให้แล้วทันทีเลยนะคะ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องอัปเดตตั้งแต่แกะกล่องค่ะ
สำหรับผู้ใช้ iPhone รุ่นเก่าทุกคนตั้งแต่ iPhone 15 ลงมา จะได้ลองใช้ iOS 18 เมื่อเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีในวันที่ 16 กันยายน แต่ไม่ใช่ว่า iPhone ทุกเครื่องจะสามารถรัน iOS 18 ได้นะคะ และแม้แต่รุ่นที่รันได้ก็ไม่มีฟีเจอร์ Apple Intelligence มาให้ค่ะ เนื่องจาก ในแต่ละปี รุ่น iPhone รุ่นเก่าบางรุ่น จะถูกลบออกจากรายชื่อรุ่นที่รองรับ iOS ของ Apple ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปีที่แล้ว iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ถูกลบออกจากรายชื่อรุ่นที่รองรับ ซึ่งหมายความว่าเจ้าของ iPhone เหล่านั้นไม่สามารถอัปเดตเป็น iOS 17 ได้และจะพลาดฟีเจอร์ บางอย่างไปเลยนั่นเองค่ะ ในทางกลับกัน ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าบางรุ่นจะได้รับคุณสมบัติใหม่ที่สำคัญทดแทน เช่น ลองพิจารณาการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่จะมาถึง ซึ่งจะเปลี่ยนหูฟัง AirPods Pro ที่มีอยู่ให้กลายเป็นเครื่องช่วยฟังได้ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการทดสอบการได้ยินในตัวค่ะ
iPhone ที่รองรับ iOS 18
หากคุณมีโทรศัพท์ที่ตรงตามคุณสมบัติเมื่ออัปเดตเป็น iOS 17 เมื่อปีที่แล้ว อุปกรณ์นั้นจะยังคงเข้ากันได้กับ iOS 18 ตามที่ Apple ระบุ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อโทรศัพท์ใหม่เพื่อทดลองใช้ฟีเจอร์ใหม่โดยส่วนใหญ่ โดยรายชื่ออุปกรณ์มีดังนี้
• iPhone SE (รุ่น 2 ขึ้นไป)
• iPhone XR
• iPhone XS
• iPhone XS Max
• iPhone 11
• iPhone 11 Pro
• iPhone 11 Pro Max
• iPhone 12
• iPhone 12 mini
• iPhone 12 Pro
• iPhone 12 Pro Max
• iPhone 13
• iPhone 13 mini
• iPhone 13 Pro
• iPhone 13 Pro Max
• iPhone 14
• iPhone 14 Plus
• iPhone 14 Pro
• iPhone 14 Pro Max
• iPhone 15
• iPhone 15 Plus
• iPhone 15 Pro
• iPhone 15 Pro Max
• iPhone 16 (มีมาตั้งแต่เปิดเครื่อง)
• iPhone 16 Plus (มีมาตั้งแต่เปิดเครื่อง)
• iPhone 16 Pro (มีมาตั้งแต่เปิดเครื่อง)
• iPhone 16 Pro Max (มีมาตั้งแต่เปิดเครื่อง)
สำหรับ Apple Intelligence นั้น iPhone รองรับเพียงไม่กี่รุ่นนะคะ รองรับแค่ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max เท่านั้น ที่เป็นรุ่นเก่า และอัปเดตแล้วได้ Apple Intelligence และ iPhone 16 ทั้ง 4 รุ่น รองรับ Apple Intelligence ตั้งแต่เปิดเครื่อง หากอุปกรณ์ของคุณเข้ากันได้กับ Apple Intelligence คุณจะสามารถเริ่มเล่นกับฟีเจอร์บางส่วนได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ เป็นต้นไปค่ะ
โดย Apple Intelligence จะพร้อมให้บริการในโหมดภาษาอังกฤษ สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนตุลาคมนี้ และ Apple จะเปิดให้บริการในภาษาอังกฤษเป็นภาษาท้องถิ่นในออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร ในเดือนธันวาคมนี้ค่ะ ส่วนภาษาอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และสเปน ก็จะรองรับในช่วงปีหน้า แต่ไม่มีการรองรับสำหรับภาษาไทยเลยนะคะ และยังไม่รองรับกับสหภาพยุโรปด้วยเช่นกันค่ะ เพราะ Apple ยังขัดแย้งกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปเกี่ยวกับรายละเอียดการบังคับใช้กฎหมาย Digital Markets Act ของสหภาพยุโรปนั่นเองค่ะ
ไฮไลต์ฟีเจอร์ใหม่ iOS 18
– แอปรหัสผ่าน
จัดเก็บข้อมูลประจำตัวทั้งหมดของคุณอย่างปลอดภัยในที่เดียว รวมถึงรหัสผ่านและการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยที่คุณสามารถเข้าถึงได้โดยตรงในแอป ช่วยให้ค้นหาและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
– แอป Messages ใหม่
พร้อมกับตัวเลือกในการทำตัวหนา ตัวเอียง ขีดเส้นใต้ และขีดทับข้อความของคุณ นอกจากนี้ คุณยังจะเพิ่มแอนิเมชันลงในข้อความของคุณได้อีกด้วย รองรับ RCS เข้ากันได้กับ Android ได้ดียิ่งขึ้น
– Library บน Photos หน้าตาใหม่
ซึ่งช่วยให้คุณสร้างและปักหมุดคอลเลกชันของคุณเองในแอปได้ เช่น “รูปถ่ายงานแต่งงาน” หรือ “ทริปไปอารูบา” โดยลบแท็บด้านล่างแบบเดิมออกและเปลี่ยนเป็นเค้าโครงแบบตาราง
– หน้าจอหลักแบบปรับแต่งได้
สามารถเลือกจัดเรียงแอปใหม่ได้ เช่น เว้นช่องว่างตรงกลางไว้เพื่อแสดงภาพหน้าจอหลัก และให้แอปของคุณอยู่เพียงขอบหน้าจอเท่านั้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของแอปได้ด้วยการเปลี่ยนโทนสีตามสีที่ต้องการ รวมถึงทำให้แอปมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย
นอกจากนี้อุปกรณ์ Apple ยังได้อัปเดตระบบปฎิบัติการเวอร์ชันใหม่
• MacOS Sequoia : 16 กันยายน
• iPadOS 18 : 16 กันยายน
• WatchOS 11 : 16 กันยายน
• tvOS 18 : ยังไม่ได้ประกาศวันที่อย่างเป็นทางการสำหรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ tvOS เวอร์ชันล่าสุด
• visionOS 2 : 16 กันยายน
และอย่าลืม วันที่ ( 13 กันยายน 2024 ) เปิดจอง iPhone 16 Series เริ่มคืนนี้ 19.00น. ผ่านเว็บ Apple และผู้ให้บริการเครือข่าย AIS , DTAC-TRUE
ที่มา : Engadget cover Apple