เช็กเงื่อนไข การใช้จ่าย “เงินดิจิทัลวอลเล็ต” 10,000 บาท เตรียมพร้อมก่อนลงทะเบียนรับสิทธิ “โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต” 1 ส.ค. 67 นี้ อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า “โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต” โครงการที่มุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ โดยครอบคลุม 878 อำเภอ ในการช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ใกล้ถึงเวลาจะเปิดให้ประชาชาลงทะเบียนรับสิทธิ “เงินดิจิทัลวอลเล็ต” แล้ว โดยมีกำหนดการดังนี้
1 สิงหาคม-15 กันยายน 2567
สำหรับประชาชนทั่วไป หรือ กลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียนผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” สามารถดาวน์โหลดเพื่อสมัครใช้งานได้ที่นี่ iOS และ Android
16 กันยายน-15 ตุลาคม 2567
สำหรับประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน
22 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
แจ้งผลผู้ได้รับสิทธิโครงการดิจิทัลวอลเลต ผ่านการแจ้งเตือนในแอปฯ ทางรัฐ โดยคาดว่าจะเริ่มใช้จ่ายได้ภายในไตรมาส 4 ของปี 2567
ผู้มีสิทธิได้เงิน ดิจิทัล 10,000 บาท
สำหรับประชาชนมีสิทธิเข้าร่วมโครงการ จะต้องมีคุณสมับัติ ดังนี้
1. เป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
2. สัญชาติไทย
3. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน
4. ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 โดยกรมสรรพากรประมวลผลข้อมูล ผู้มีรายได้ 7 วัน ก่อนเปิดลงทะเบียนโครงการ
5. ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 รวมกันเกิน 500,000 บาท โดยเป็นการตรวจสอบเงินฝาก จำนวน 6 ประเภท ได้แก่ เงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ บัตรเงินฝาก ใบรับฝากเงิน ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใด ที่มีลักษณะเดียวกับที่กล่าวมา โดยเงินฝากให้หมายถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น และไม่รวมถึงเงินฝากในบัญชีร่วม
6. ต้องไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ ผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ และผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
วิธีใช้ “เงินดิจทัลวอลเล็ต” ซื้อสินค้า
สำหรับการใช้จ่ายภายใต้โครงการฯ ประชาชนสามารถใช้ได้ในพื้นที่ระดับอำเภอ ทั่วประเทศ (878 อำเภอ) ดังนี้
1. ต้องจ่ายเงินแบบเห็นหน้ากัน (Face to Face)
การชำระเงินภายใต้โครงการฯ เป็นแบบพบหน้า (Face to Face) โดยจะต้องตรวจสอบจาก
– ที่อยู่ของร้านค้าเป็นไปตามที่ลงทะเบียนไว้กับโครงการฯ และ
– ที่อยู่ของประชาชนที่ใช้สิทธิตามทะเบียนบ้านในขณะที่ลงทะเบียนโครงการฯ
– ขณะที่ใช้จ่ายกับร้านค้า ต้องอยู่ในเขตอำเภอเดียวกัน การชำระเงินจึงจะสมบูรณ์
2. ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก
ประชาชนจะต้องใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กที่รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก โดยไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น
3 . ร้านค้าจะ “ถอนเงินสด” ได้เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่รอบที่ 2 เป็นต้นไป
ร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันที หลังประชาชนใช้จ่าย แต่ร้านค้าจะสามารถถอนเงินสดได้เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่รอบที่ 2 เป็นต้นไป
เงินดิจิทัล 10,000 บาท ซื้อสินค้าอะไรบ้าง
เงื่อนไขของสินค้าที่เข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Walletได้ มีดังนี้
1. สินค้าทุกประเภทเข้าร่วมโครงการได้ ยกเว้นสินค้า Negative List ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์จากกัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมัน เชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร
ทั้งนี้ การปรับปรุงสินค้า Negative List ให้เป็นไปตามที่กระทรวงพาณิชย์ พิจารณากำหนด
2. การใช้จ่ายตามโครงการฯ ไม่รวมถึงธุรกิจบริการ (เงื่อนไขของสินค้า ครอบคลุมถึงการใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้า และการใช้จ่ายระหว่างร้านค้า)
วิธีการใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต
รอบที่ 1 : เป็นการใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็ก และร้านค้าสะดวกซื้อขนาดเล็ก
1. ประชาชนต้องชำระค่าสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนแอปพลิเคชันของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า ที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นร้านค้าขนาดเล็กจนถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด โดยไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น
2. ต้องมีการซื้อ-ขายสินค้ากันจริง
3. เป็นการใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ (878 อำเภอ) โดยประชาชนต้องมีที่อยู่ในทะเบียนบ้านในอำเภอเดียวกันกับสถานประกอบการของผู้ประกอบการร้านค้าขนาดเล็ก
4. การซื้อ-ขายสินค้า ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องมีการทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR Code เพื่อชำระค่าสินค้ากันแบบพบหน้า (Face-to-Face) และไม่มีกระบวนการใดๆ ในการซื้อขายที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใด และไม่ให้ทำซ้ำ ส่งต่อหรือวิธีการอื่นใดกับ QR Code ในแอปพลิเคชันของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้าดังกล่าว
รอบที่ 2 เป็นต้นไป : เป็นการใช้จ่ายระหว่างร้านค้า กับร้านค้า
1. ผู้ประกอบการร้านค้าต้องชำระค่าสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนแอปพลิเคชันของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าอีกแห่งหนึ่ง
2. ต้องมีการซื้อ-ขายสินค้ากันจริง
ที่มา : สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล, digitalwallet.go.th