สาว ๆ หลายคนคงมีความกังวลหรือประสบปัญหากับริ้วรอยแห่งวัย และมองหาตัวช่วยในการชะลอวัย เชื่อว่า แอสตาแซนทีน (Astaxanthin) คือหนึ่งในตัวช่วยที่สาว ๆ เลือกใช้ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับแอสตาแซนทีนกันให้มากขึ้นว่าคืออะไร พบได้ที่ใดบ้าง รวมถึงข้อควรระวังในการทานอาหารเสริมชนิดนี้
Astaxanthin คืออะไร
แอสตาแซนทีน เป็นสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) จากธรรมชาติ ที่ทำให้สัตว์หรือพืชมีสีแดง ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถสร้างหรือสังเคราะห์เองได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น โดยจะมักจะพบในอาหารอาหารทะเล เช่น สาหร่ายสีแดงสายพันธุ์ฮีมาโตคอกคัส ปลาแซลมอน กุ้ง ปู เป็นต้น
ประโยชน์ของ Astaxanthin
- ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ
- ป้องกันและลดริ้วรอย และการเสื่อมของเซลล์ก่อนวัยอันควร ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น ดูเรียบเนียน ชุ่มชื้น
- บำรุงสายตา
- สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ และลดการอักเสบของกล้ามเนื้อขณะออกกำลังกาย ทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้นและลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ
ปริมาณที่เหมาะสมในการรับประทาน
ปริมาณที่ผู้ใหญ่นิยมรับประทานสำหรับผู้ใหญ่ คือ 4-18 มิลลิกรัมต่อวัน รับประทานต่อเนื่องไม่เกิน 12 สัปดาห์ หากผู้ที่ต้องการรับประทานแอสตาแซนทีนเพื่อช่วยเพิ่มสารต่อต้าอนุมูลอิสระควรบริโภคปริมาณ 12 มิลลิกรัมต่อวัน
ทั้งนี้ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการรับประทานขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย เช่น อายุ หรือภาวะสุขภาพอื่น ๆ หากไม่มั่นใจควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน และควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
เวลาที่ควรรับประทาน
- ก่อนอาหารเช้า เนื่องจากจะช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ต้องพบเจอในการทำกิจกรรมตลอดทั้งวัน
- รับประทานพร้อมมื้ออาหารหรือหลังรับประทานอาหารทันที เพราะว่าแอสตาแซนทีนสามารถละลายในไขมันได้ดี ทำให้ดูดซึมเร็ว
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- การรับประทานแอสตาแซนทีนในปริมาณที่มากเกินไปทำให้อุจจาระมีสีแดง หากเกิดผลข้างเคียงนี้ควรรีบพบแพทย์
- อาจทำให้มีการขับถ่ายบ่อยขึ้น
- อาจทำให้มีความดันโลหิตต่ำ
ข้อควรระวังในการรับประทาน Astaxanthin
- ห้ามทานคู่กับยาวาร์ฟาริน (Wafarin) เพราะทำให้มีเลือดออกในร่างกายมาก
- ห้ามทานคู่กับไฟเบอร์ เพราะไฟเบอร์จะยับยั้งการดูดซึมเข้าร่างกาย ทำให้เมื่อทาน Astraxanthin แล้วจะไม่ได้รับประโยชน์ที่ครบถ้วน
- หากว่ามีการรับประทานยารักษาโรคประจำตัวอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน