หลังจากโควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 ระบาดไปทั่วโลกแล้ว ก็มีรายงานว่า พบผู้ป่วยหลายรายที่ป่วยด้วยโควิดXBB.1.16 มีอาการตาแดง น้ำตาไหลกันนะคะ ซึ่งมีความใกล้เคียงกับอาการตาแดงจากภูมิแพ้ขึ้นตานั่นเอง ทำให้เกิดเป็นข้อสงสัยขึ้นมาว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าอาการผิดปกติทางร่างกายในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพราะโควิด หรือภูมิแพ้กันแน่นั่นเองค่ะ ดังนั้นบทความนี้จึงมาไขข้อสงสัยนี้ ให้รู้ชัดกันไปเลยค่ะว่า ตาแดงจากโควิด VS ตาแดงจากภูมิแพ้นั้น แตกต่างกันยังไง และควรดูแลรักษายังไงดีกันนะคะ ตามมาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ

 

 

สาเหตุของอาการ ตาแดง

ตาแดง (Conjunctivitis หรือ Red/Pink eyes)

เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตา ที่คลุมทั้งหนังตาบนและล่าง รวมถึงเยื่อบุตาที่คลุมตาขาว ซึ่งอาจเกิดการอักเสบจาก

– การติดเชื้อไวรัสโดยเฉพาะอาดิโนไวรัส (Adenovirus)
– การติดเชื้อแบคทีเรีย
– การว่ายน้ำ
– ภูมิแพ้ทางตา
– สัมผัสกับฝุ่นควันพิษ
– การใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่ถูกวิธี ก็ทำให้ระคายเคืองตา ตาแดงได้ เป็นต้น

การติดต่อของอาการตาแดง

มีการคลุกคลีใกล้ชิด หรือสัมผัสกับผู้ป่วยโรคตาแดง ใช้ของร่วมกันกับผู้ป่วย สามารถติดต่อได้ง่ายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งนี้อาการตาแดงจะไม่ติดต่อทางการสบสายตา , ทางอากาศ หรือการกินอาหารร่วมโต๊ะเดียวกันนะคะ

อาการแสดง

มีอาการตาแดง (อาจมีข้างเดียวหรือสองข้างพร้อมกัน) คันตา มีขี้ตา เยื่อบุตาขาวบวมแดง ปวดตา เป็นต้น โรคแทรกซ้อน ได้แก่ อาการปวดตา หรือมองแสงจ้าไม่ได้ ม่านตาอักเสบ

กลุ่มเสี่ยง – พบได้บ่อยในเด็กเล็ก และนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ฤดูกาล – โรคตาแดงพบได้ตลอดทั้งปีเหมือนกับโรคไข้หวัด แต่มักจะระบาดมากในช่วงหน้าฝน เนื่องจากเชื้อมีการกระจายตัวได้ง่ายขึ้น

แม้โรคอาการตาแดงนี้ จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่อัตราการป่วยในแต่ละปี ถือว่าสูงมากกว่า 100 ต่อแสนประชากรทุกปี โรคตาแดงอาจจะเป็นแบบเฉียบพลัน หรือแบบเรื้อรังก็ได้นะคะ

 

ตาแดงจากโควิด VSตาแดงจากโควิดต่างกันยังไง?

 

วิธีที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่ง ในการบอกความแตกต่างระหว่างอาการตาแดงจากโควิด และ ตาแดงจากภูมิแพ้ ก็คือ การสังเกตอาการร่วมกับอาการตาแดง เช่น ถ้าหากมีไข้ ไอ เจ็บคอ ร่วมกับอาการตาแดงแล้ว นั่นแปลว่ามีโอกาสที่จะเป็นโควิดสูงมากนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นแนะนำให้ตรวจด้วย ATK เพื่อความมั่นใจเลยนะคะ ส่วนอาการตาแดงจากภูมิแพ้นั้น จะไม่มีไข้หวัดร่วมด้วยนะคะ

 

อาการตาแดงจากโควิด

 

สำหรับการแพร่ระบาดของโควิดรอบนี้มาจากโควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 หรือโควิดอาร์คทูรัส โดยอาการหลักที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนคือ “อาการตาแดง” โดยกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันจากประเทศอินเดีย สังเกตเห็นอาการจากการติดเชื้อ XBB.1.16 ที่แพร่ระบาดระลอกใหม่ในอินเดียในกลุ่มเด็กทารก

อาการตาแดงจากโควิด

• มีเยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง
• มีอาการคันตา
• ขี้ตาเหนียว
• ทำให้ลืมเปลือกตาไม่ขึ้น แต่ไม่ได้เป็นหนอง
• ไม่เจ็บตา ตามองเห็นปกติ
• อาการแสดงอาจแตกต่างกันออกไปแล้วแต่บุคคล เช่น บางคนอาจคันตา บางคนอาจไม่คันตาเลยก็ได้

 

 

วิธีดูแลรักษาอาการตาแดงจากโควิด-19

1 ควรพบแพทย์เพื่อรับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง
2 ดูแลดวงตาให้สะอาด
3 ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ
4 ไม่ใช้มือสกปรกขยี้ตา
5 ในผู้ป่วยที่มีอาการตาแดง สามารถหายได้ในเวลา 7 วัน

 

ตาแดงจากภูมิแพ้ หรือ ภูมิแพ้ขึ้นตา

โรคภูมิแพ้ขึ้นตา (Allergic conjunctivitis) เกิดจากสิ่งกระตุ้นที่ก่อให้เกิดแพ้ที่เยื่อบุตาขาว ทำให้มีการอักเสบ เช่น ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอกที่พบบ่อย ได้แก่ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ เชื้อรา เป็นต้น นอกจากนี้คอนแทคเลนส์ ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
อาการตาแดงจากภูมิแพ้

• คัน เคืองตา
• แสบตา น้ำตาไหล
• ตาแดง
• มีขี้ตา
• รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมใต้เปลือกตา
• เปลือกตาบวม แดง หรืออักเสบ

วิธีดูแลรักษาอาการตาแดงจากภูมิแพ้

1. สังเกตตัวเองว่าแพ้อะไร และให้หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้นั้น ๆ
2. งดถู หรือขยี้ตา ซึ่งจะทำให้เกิดอาการคันมากขึ้น
3. ใช้ยาแก้แพ้ ทั้งในรูปแบบยาหยอดตา หรือยาทาน เช่น ยาแก้แพ้ลอราทาดีน ช่วยลดอาการคันตา และตาแดง
4. ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
5. ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการมาก จักษุแพทย์อาจพิจารณาให้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ชนิดหยอด
6. สวมแว่นตา เพื่อป้องกันฝุ่นละออง กระทบเข้าตาโดยตรง

 

ที่มา : 1. โครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ 2. news.ch7 3. The Times of India 4. thairath 1/2 5. Sriphat Medical Center