บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง สคส. จี้ World แจงประชาชน แม้ลบข้อมูลสแกนม่านตาแล้ว ยังย้อนมาระบุตัวบุคคลได้กันนะคะ โดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ออกประกาศเตือนประชาชน หลังตรวจสอบกรณีการสแกนม่านตากับ World พบว่าการลบข้อมูลในอุปกรณ์สแกน Orb ไม่สามารถยืนยันได้ว่าถูกทำลายหมดจริง และยังสามารถระบุตัวบุคคลซ้ำได้  สคส. จี้ World แจงประชาชน แม้ลบข้อมูลสแกนม่านตาแล้ว ยังย้อนมาระบุตัวบุคคลได้

 

 

 

 

ประเด็นสำคัญที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) พบ

– ไม่ใช่แค่ Orb : กระบวนการมีเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์อื่นร่วมด้วย

– ลบข้อมูลไม่หมด : แม้ลบแล้ว แต่เมื่อสแกนใหม่ ระบบยังรู้ว่าเป็นคนเดิม

– ข้อมูลอ่อนไหวสูง : รหัส Iris Code แม้จะแปลงแล้ว ก็ถือเป็น “ข้อมูลชีวภาพ” ที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

 

ข้อกฎหมาย PDPA การเก็บข้อมูลม่านตาเข้าข่าย ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ตามมาตรา 26 หากขอความยินยอม (Consent) ไม่โปร่งใส หรือไม่ได้แยกส่วนชัดเจน เสี่ยงโทษปรับสูงสุด 5 ล้านบาท ตามมาตรา 84 คำเตือนถึงประชาชน สคส. ย้ำว่า ก่อนตัดสินใจสแกนม่านตา ควรพิจารณาให้รอบคอบ เพราะข้อมูลอาจย้อนกลับมา ระบุตัวตนได้ ทั้งนี้สิทธิของเจ้าของข้อมูลต้องมาก่อน และบริษัทที่ให้บริการต้องแจ้งวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลอย่างโปร่งใส

 

หากพบการละเมิดสิทธิ สามารถร้องเรียนได้ผ่าน

– เว็บไซต์:  https://complaint.pdpc.or.th/

-โทรศัพท์: 02-111-8800 กด 2 (เรื่องร้องเรียน)

สคส. ย้ำว่าการบังคับใช้กฎหมาย PDPA ไม่ใช่แค่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แต่ยังเกี่ยวข้องกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมของสังคมด้วยนะคะ

 

 

 

 

ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล