บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง MetaMask เปิดตัวฟีเจอร์ Social Login ใช้บัญชี Google และ Apple เข้าถึงวอลเล็ตได้แล้วกันนะคะ โดยเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 MetaMask ได้ประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานกระเป๋าเงินคริปโต ไปตลอดกาล โดยให้ผู้ใช้งาน สามารถสร้างและจัดการกระเป๋าเงินคริปโตได้ง่ายขึ้น ผ่านบัญชี Google หรือ Apple โดยตรง ไม่ต้องมานั่งจำ Seed Phrase ยาว ๆ ยาก ๆ อีกต่อไปแล้วนะคะ พร้อมแล้วตามมาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ

MetaMask เปิดตัวฟีเจอร์ Social Login ใช้บัญชี Google และ Apple เข้าถึงวอลเล็ตได้แล้ว

โดยระบบใหม่ของ MetaMask ทำให้การสร้างกระเป๋าเงินคริปโต กลายเป็นเรื่องง่าย เพียงสองขั้นตอน คือ

1. การเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google ID หรือ Apple ID

2. จากนั้นสร้างรหัสผ่านเฉพาะที่ไม่ซ้ำใคร

เพียงเท่านี้ ผู้ใช้งานก็สามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินของตนได้ทันที ไม่ต้องนั่งจด Seed Phrase บนกระดาษแล้วเก็บไว้ในตู้นิรภัยแบบเดิม ๆอีกต่อไปแล้วค่ะ

ซึ่งหลายคนอาจเริ่มกังวลว่า หากเข้าใช้งานง่ายขึ้น แล้วความปลอดภัยจะลดลงหรือไม่? คำตอบคือ ไม่ค่ะ เนื่องจาก MetaMask ยังคงหลักการ “Self-custodial” เอาไว้ ซึ่งหมายความว่า คุณยังคงเป็นคนควบคุมเงินของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์นั่นเองค่ะ

ระบบใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถกู้คืน Seed Phrase (หรือ Secret Recovery Phrase – SRP) ได้อย่างครบถ้วนและง่ายดายกว่าเดิม โดยใช้การรวมกันระหว่างข้อมูลการเข้าสู่ระบบจากโซเชียลมีเดีย (Google/Apple) และรหัสผ่านเฉพาะของคุณ เพื่อปลดล็อกและดึง SRP กลับมาบนอุปกรณ์ของคุณนั่นเองค่ะ

MetaMask กล่าวว่า “คริปโตไม่จำเป็นต้องซับซ้อน นั่นคือเหตุผลที่เราทำให้การจัดการ MetaMask Wallet ง่ายขึ้นกว่าเดิม ด้วยฟีเจอร์ Social Login ใหม่ของเรา” MetaMask อธิบายว่า ระบบนี้ผสมผสาน “ความคุ้นเคยของ Web2 เข้ากับความปลอดภัยของ Web3” ทำให้การจัดการกระเป๋าเงินคริปโต ดำเนินการได้อย่างราบรื่น โดยที่คุณยังคงควบคุมสินทรัพย์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์

MetaMask ยืนยันว่า ฟีเจอร์นี้ยังคงรักษาหลักการ Self-Custodial หรือการที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของสินทรัพย์อย่างแท้จริงไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะไม่มีหน่วยงานใด รวมถึง MetaMask เอง ที่สามารถเข้าถึง SRP ของผู้ใช้งานได้ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ทั้งข้อมูลบัญชีโซเชียลมีเดียและรหัสผ่านที่ผู้ใช้สร้างขึ้นมาประกอบกันเพื่อปลดล็อกกระเป๋า ทำให้ระบบนี้สามารถผสานความคุ้นเคยแบบ Web2 เข้ากับความปลอดภัยของ Web3 ได้อย่างลงตัว

ทั้งนี้ MetaMask ได้เน้นย้ำว่า ความปลอดภัยของกระเป๋าเงินยังคงขึ้นอยู่กับผู้ใช้เองเป็นหลักในการสร้างและจัดการรหัสผ่าน หากรหัสผ่านสูญหายจะไม่สามารถกู้คืนได้ เพื่อรักษาหลักการที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของโลกคริปโต

ที่มา : cryptoslate